ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความท้าทายมากมายได้ทดสอบความแข็งแกร่งของสังคมไทยและผู้คนนับล้าน ท่ามกลางความผันผวนเหล่านี้ มีหนึ่งหลักการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยิ่งมีความหมายลึกซึ้งมากขึ้น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายืนหยัดในหลักการ No One Left Behind แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร และต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ที่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือหลักคิดที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอของแสนสิริกว่า 40 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคม สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนไทยอย่างแท้จริง และสร้างระบบนิเวศที่ทุกคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน โดยผลักดันแนวคิดจนกลายเป็นพลังการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้และลงมือทำจริง สานต่อความมุ่งมั่นในปี 2025 กับแคมเปญ “ถ้าจะดี เราต้องดีไปด้วยกัน” นำร่องด้วยการส่งกำลังใจเกษตรกรไทย “มังคุดไม่ต้องเป๊ะ แต่ถ้าเด็ด พี่รับหมด!” รับซื้อมังคุด 40 ตัน และเปิดคอมมูนิตี้ต้อนรับร้านอาหารที่เป็น “ตำนานแห่งบรรทัดทอง”
“มังคุดไม่ต้องเป๊ะ แต่ถ้าเด็ด พี่รับหมด!” รับซื้อมังคุด 40 ตัน
สถานการณ์มังคุดในปี 2568 สะท้อนภาพความเปราะบางของเกษตรกรรมไทยอย่างชัดเจน เมื่อราคามังคุดที่เคยสูงถึง 200 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงต้นฤดูกาล ภายในเวลาไม่นาน ราคาลดลงเหลือ 50–60 บาทต่อกิโลกรัม และในบางพื้นที่กลับดิ่งลงสู่ระดับ 5-8 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ทั้งนี้ แสนสิริ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรไทย กับโปรเจค “มังคุดไม่ต้องเป๊ะ แต่ถ้าเด็ด พี่รับหมด!” ร่วมกับคู่ค้า และพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ รับซื้อมังคุดจากเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช กว่า 40 ตัน ในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค ส่งต่อผลไม้คุณภาพสู่ผู้บริโภคโดยตรง อาทิ ลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ, แสนสิริคอมมูนิติ้ และชุมชนโดยรอบโครงการของแสนสิริ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook Sansiri PLC
“ของดีต้องไปต่อ บรรทัดทอง In Sansiri Community” ร้านในตำนานที่กลับมาพร้อมความสุข
เมื่อความคึกคัก ของย่านดัง ค่อยๆ ลดลง จะด้วยภาวะเศรษฐกิจหรืออะไรก็ตาม สิ่งที่ตามมาคือร้านอาหารเล็กๆ หลายแห่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ ของคนไทยต้องเผชิญกับความท้าทายที่หนักหนา บางร้านต้องปิดตัวลง บางร้านต้องหาทำเลใหม่จนลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงได้แบบเดิม
ในฐานะภาคเอกชน สิ่งที่เราช่วยได้ จะไม่รีรอ จากแคมเปญถ้าจะดี เราต้องดีไปด้วยกัน จึงได้นำร่องกิจกรรมแรกคือ “ของดีต้องไปต่อ บรรทัดทอง In Sansiri Community” ด้วยเจตนาที่เข้าใจถึงคุณค่าของร้านเล็กเพื่อสร้างโอกาสให้ร้านอาหารในตำนานได้กลับมาเสิร์ฟความสุขให้กับลูกค้าอีกครั้ง
ผ่านพื้นที่ในโครงการและคอมมูนิตี้ต่างๆ ของแสนสิริ ได้แก่ NIA by Sansiri, XT พญาไท และ Community T77 ไม่ว่าจะเป็น ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ บัวลอยปริญญา โซกุยช่าย หมูสะเต๊ะนายซ้ง และถ้วยถังไอติม แสนสิริมองว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้พื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจ แต่เป็นการส่งต่อความรักและความห่วงใยที่ลึกซึ้งให้กับชุมชน และจุดประกายให้กับองค์กรต่างๆ ต่อไป
40 ปี ยึดมั่นแนวคิด No One Left Behind
หนึ่งในแกนหลักสำคัญในการทำงานของแสนสิริคือการดูแล 4 เสาหลัก (ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และสังคม) ปัจจุบันแสนสิริยังคงเดินหน้าผลักดันและมุ่งหวังที่จะสร้างสังคมและชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ผ่านการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร No One Left Behind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะแสนสิริเชื่อมั่นว่า “ถ้าจะดี เราต้องดีไปด้วยกัน” และยังคงมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งของภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบยั่งยืนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน
แรงบันดาลใจที่ส่งต่อได้สู่สังคม คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย สิ่งที่แสนสิริทำวันนี้ อาจกลายเป็นความหวังใหญ่ ของใครคนหนึ่งในวันพรุ่งนี้ และเมื่อเราทุกคนเชื่อว่า “ถ้าจะดี เราต้องดีไปด้วยกัน” โลกใบนี้ก็จะกลายเป็นที่แห่งความหวัง ที่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง จุดประกายแนวคิดว่าธุรกิจและสังคมสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้ ทุกคนสามารถมีบทบาทในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการปฏิบัติจริง เพราะ “การไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ไม่ใช่แค่หลักการขององค์กรหนึ่ง แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน
#Sansiri #NoOneLeftBehind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร #แสนสิริ
#ของดีต้องไปต่อ #Sansiriของดีต้องไปต่อ #บรรทัดทองInSansiriCommunity