ลูกจะอยู่อย่างไร ในอนาคตที่ไม่มีคุณ สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้ก่อนจะสาย

  • 65
  •  
  •  
  •  
  •  

pomo1

ลองหลับตาแล้วจินตนาการย้อนกลับไปในวัยเด็ก… จำได้มั้ยว่า พ่อแม่ เลี้ยงเราให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างไร  ถึงวันนี้หน้าที่ของการเป็นพ่อแม่ได้ส่งผ่านมาถึงเรา และภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสมาชิกใหม่ของโลกใบนี้ให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น คุณมีคำตอบให้กับคำถามนี้หรือยัง … ลูกจะอยู่อย่างไร ในอนาคตที่ไม่มีคุณ

และนี่คือ คลิปวิดีโอที่อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้ดู

Love or Wreck Your Kids!? รักลูกหรือรังแกลูก!?

httpv://youtu.be/qnfc7YAM3_w

ในการเลี้ยงลูกมีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ความรักที่มีให้ลูกมากแค่ไหน มองอนาคตลูกไว้อย่างไร และเราทุกคนรู้ว่า เราจะไม่ได้อยูกับลูกไปตลอดชีวิต กับวลีที่ว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันดี คือสิ่งที่สะท้อนภาพการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตต้องอาศัย “ความรัก” อย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป ไม่ปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ ทำให้เด็กขาดพัฒนาการด้านความคิด อารมณ์ ร่างกาย สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อวุฒิภาวะในอนาคต ขาดเหตุผล ขาดความอดทน ท้อต่ออุปสรรคได้ง่าย

ขณะที่เด็กหลายคนที่มีความรับผิดชอบ มีวุฒิภาวะดี สามารถเข้าสังคม และนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต เขาไม่ได้เก่งกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่เขาได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่ดีจากพ่อแม่

pomo5

pomo6

POMO House ได้เสนอแนวคิดการเลี้ยงลูกแบบ “ปล่อยป้อง ปกป้อง…แต่ไม่ปิดกั้น” ระบุว่าศักยภาพเกิดขึ้นจากการลงมือปฏิบัติ ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุดเมื่อร่างกายและสติปัญญาของเด็กกำลังพร้อมและจิตใจของเด็กกำลังต้องการ โดยเด็กทุกคนล้วนมีความสามารถในการดูแลและรับผิดชอบตนเอง ซึ่งมาจากโอกาสที่พ่อแม่มอบให้เริ่มต้นจากกิจวัตรประจำวันให้โอกาสลูกลงมือทำสิ่งที่เป็นเรื่องของเขา

pomo7

พร้อมกันนี้ พ.ญ.เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการ และพฤติกรรมเด็ก เจ้าของแฟนเพจชื่อดัง “พ.ญ.เสาวภา พรจินดารักษ์” ได้แนะนำว่า พ่อแม่ต้องกล้าหาญพอที่จะเห็นลูกลำบาก และใจเย็นพอที่จะชะลอการช่วยเหลือ ฝึกลูกให้คิดเองเป็น ทำเองได้ มากกว่าทำแทนลูก รวมทั้งต้องอดทนมองดูลูกรับผลของการกระทำที่ไม่สมหวังนี่คือหัวใจสำคัญ หากเด็กไม่ได้รับโอกาส จะไม่ตระหนักถึงความรับผิดชอบ ไม่รู้จักศักยภาพของตัวเอง และยอมรับความผิดพลาดไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมและทัศนคติดังกล่าวจะกักขังเด็ก ทำให้มีความยากลำบากในการพัฒนาทักษะชีวิตโดยเฉพาะเมื่อออกสู่โลกภายนอก

pomo2

pomo3

แนวคิด ปล่อยป้อง (Freetection) คือการปล่อยให้เขาได้รู้จักโลก และปกป้องเขาอยู่ห่างๆ จะทำให้เด็กโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะยืนด้วยตัวเอง และอยู่ในสังคมได้ในวันที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คอยนำทาง โดยช่วงวัย 4 – 12 คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ลูกจะได้เรียนรู้

และเพื่อให้การเลี้ยงลูกแบบ ปล่อยป้อง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ POMO House ได้พัฒนาเครื่องมือ POMO Kids Watch นาฬิกาโทรศัพท์สำหรับเด็กให้เด็กได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์เรียนรู้โลกกว้าง ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานของนาฬิกาที่เป็นเสมือนตัวช่วยให้พ่อแม่ยังคงรู้สึกใกล้ชิดกับลูก ประกอบด้วย

Smart Locator ระบบ GPS ให้พ่อแม่อุ่นใจรู้ตำแหน่งของลูกตลอดเวลา

Voice Calling รองรับการโทรเข้า-ออกได้ในเครื่องเดียวจำกัดเลขหมายโทรติดต่อเฉพาะคนในครอบครัว

Voice Messaging ส่งข้อความเสียงถึงกันได้ทันที

Intelligent Emergency รายงานอุบัติเหตุหรือสถานการฉุกเฉินได้ทันท่วงที

SafeZone กำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็ก

pomo8

giftset_WEB_Banner

เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับพ่อแม่ทุกคน POMO House จัดโปรโมชั่นพิเศษถึงวันที่ 1 ม.ค. 2559 ลดราคา POMO Kids Watch ทันทีเหลือ 3,990 บาท จากปกติ 4,990 บาท พร้อมรับ Bag & POMO Family Gift Doll ฟรี 1 ตัวเมื่อซื้อผ่านเว็บไซต์ www.pomohouse.com/shop พร้อมติดตามเทคนิคการเลี้ยงลูกแบบ #ปล่อยป้อง ได้ที่ Line : http://line.me/ti/p/%40pomo_house  หรือ www.pomohouse.com/parenting-technique

สอบถามหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @POMO_House
www.facebook.com/pomohouse
IG: @POMO_House
www.pomohouse.com
Call Center: 02-105-4274


  • 65
  •  
  •  
  •  
  •