อาชีพอิสเรา! 12 สิ่ง…ที่คนเป็น ‘ฟรีแลนซ์’ เท่านั้นที่รู้

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

macbook cafe

“เราเป็นฟรีแลนซ์!”

คำตอบสั้นๆจากมิตรสหายท่านหนึ่ง ทำเอาผมร้อง ‘อะฮือ!’ และอดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่า…ทำไมมันช่างเท่ยังงี้วะ! ไม่ต้องเข้างานตามกติกา ไม่ต้องนั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ในออฟฟิศ ปาร์ตี้ทีก็ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะแหกขี้ตาไปทำงานไม่ทัน ขอแค่ให้มีงานส่งและส่งทันตามกำหนดก็พอ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพ Freelance เป็นอาชีพที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย หลายคนเริ่มมีกระแสเอนเอียงหันมาเลือกทำอาชีพอิสระกันมากขึ้น แบบว่าอินดี้อินดี้ (ผู้เขียนเขียนแล้วยังรู้สึกจั๊กกะจี้ตัวเองพอสมควร) ทว่า, คนที่กำลังสนใจจะหันหางเรือมาสายนี้นั้น มีใครรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง และนี่คือ 12 สิ่ง ที่คนเป็น ‘ฟรีแลนซ์’ เท่านั้นที่รู้ครับ

 

เว ‘เรา’

แน่นอนว่าการประกอบอาชีพอิสระ เวลาของเรามักจะไม่ตรงกับคนทำงานประจำเสมอ ในขณะที่กำลังลุกเดินไปมาอยู่ในบ้านเพื่อผ่อนคลายก่อนเริ่มทำงาน หรือแม้แต่นั่งทำตัวสโลว์ไลฟ์อยู่ในร้านกาแฟ…คนอื่นกลับกำลังเร่งรีบกับการขึ้นรถไฟฟ้า เหวี่ยงพวงมาลัย หรือพริ้วอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เพื่อที่จะไปทำงานให้ทัน

Like ข้า…แต่ไม่ ไร้ค่า!

คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้คลุกคลีอยู่กับเรา และไม่ได้รู้จักกันเป็นทางการ มักจะคิดว่าเราเหมือนคนไม่มีอะไรทำ เห็นมานั่งอยู่ร้านนี้แทบทุกวัน หรือไม่ก็อยู่บ้านทั้งวันเลย…แต่ความเป็นจริงแล้ว นั่นคือที่ทำงานของพวกเราไงล่ะครับ

‘ฤกษ์’ งาน

บ่อยครั้งที่เราทำงานเสร็จตั้งแต่บ่ายสามโมง แต่ก็มิวายรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรทำอยู่ดี เพราะเวลานั้นเพื่อนๆและคนอื่นๆยังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศกันอยู่เลย เพราะฉะนั้นหากใครที่กลัวว่าทุกๆวันตัวเองจะรู้สึกว่างเกินไป ก็หยิบงานตัวอื่นมาทำเตรียมไว้ล่วงหน้าเลยก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็ทำงานให้มันช้าลงหน่อย จะได้เสร็จงานพร้อมกับเพื่อนๆคนอื่นไงล่ะครับ

สบายๆแบบเบิร์ดๆ

เราสามารถแต่งตัวอย่างไรทำงานก็ได้ หรือบางครั้งเราเริ่มนั่งทำงานได้เลยโดยที่ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟัน แต่ถ้าชอบออกไปนั่งทำงานข้างนอก…ก็อย่าลืมใส่กางเกงในด้วยล่ะครับ และก็อย่าลืมอมน้ำยาบ้วนปากซักหน่อยจะเป็นดี

ป่วยกาย แต่ไม่ต้องป่วย ‘การ’

เจ็บป่วยขึ้นมาที ก็ไม่ต้องส่งใบลา หรือขอใบรับรองแพทย์…ขอแค่ส่งงานให้ได้ตามกำหนดก็พอ

เงินน้อย ต่อยหนัก

ถึงเงินเดือนอาจจะไม่เท่าคนทำงานประจำ และมีรายรับที่ไม่คงที่เหมือนคนอื่นเขา แต่นั่นก็แลกมาด้วยความ ‘อิสระ’ ที่เรามีในชีวิต ไม่มีอะไรที่เสียไปหมด…เมื่อมี ‘เสีย’ ก็ต้องมี ‘ได้’ ครับ

ชีพจรลง ‘ตัว’

หากนั่งทำงานเบื่อๆ ก็ลุกไปเดินเล่น หาอะไรทำแก้เซ็งเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องคอยย่องเบาแอบหนีหัวหน้าออกมา

สิ่งรุมเร้า…ที่รุมเรา

ในการทำงานของฟรีแลนซ์นั้น อาจถูกทำให้ไขว้เขวได้ง่ายกว่าคนทำงานประจำ เพราะนั่นหมายถึงว่าเราอยากจะเล่นเฟสบุ๊ค หรือแชทจีบสาวอ่อยหนุ่มๆเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องคอยดำผุดดำโผล่หลบซ่อนหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานครับ

ไม่มีเวลาส่วน ‘เขา’

บ่อยครั้งที่เราอาจรู้สึกเหงาหงอย โดดเดี่ยวและเดียวดาย เพราะวันๆอาจต้องอยู่แต่กับตัวเอง เพื่อนร่วมงานก็ไม่มีให้เม้าท์ หนุ่มๆหรือสาวๆในตึกเดียวกันก็ไม่มีให้ส่อง ออฟฟิศปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงของที่ทำงาน เราก็ไม่มี แต่ขอให้นึกไว้เสมอว่า…มีชีวิตที่ ‘เงียบ’ แต่ไม่ ‘เหงา’ อย่างเราต่อไปครับ

ธุระ…ทุเลา

นับเป็นความโชคดีของเหล่าสมาชิกพรรค ‘ฟรีแลนซ์’ ทั้งหลาย เพราะเราจะมีเวลาในการทำธุระปะปังส่วนตัวที่มากกว่าคนทำงานประจำ ไม่ต้องเอาเวลาเหล่านั้นมาเบียดกับเวลาพักกลางวัน ไม่ต้องกังวลว่าธนาคารจะปิดกี่โมง

ราตรีที่ยาวนาน

เราอาจต้องนอนดึกกว่าคนอื่น เพราะการทำงานอิสระ จะทำให้เรารู้สึกว่าสามารถใช้เวลาในการทำงานช่วงกลางคืนได้อีกยาวนาน ไม่ต้องรีบนอนเพื่อตื่นไปทำงานแต่เช้าเหมือนคนทำงานประจำ แต่ไม่ว่าอย่างไร…ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเราเองด้วยล่ะครับ

ระเบียบวิ ‘นาย’

อย่างไรเสีย, หากเรารักที่จะเป็นฟรีแลนซ์ ก็ต้องรู้จักบริหารจัดการเวลาและการเงินให้ดีครับ และที่สำคัญต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเองเสมอ มีคนเคยกล่าวว่า ‘หากไม่รักษากฎระเบียบ…จิตใจจะดึงดูดค่าติดลบ’

 

อนึ่ง, ทุกที่มีความ ‘สุข’…ตราบที่เราพกมันไปด้วย

แหล่งที่มา


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •