9 สิ่งที่คุณไม่ควรใส่ลงในประวัติสำหรับสมัครงานของคุณ

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

Things_to_Delete_From_Resume.jpg_600x0

ไม่มีผู้สมัครงานคนไหนไม่อยากจะเป็นดาวโดดเด่นหนึ่งเดียวในใจนายจ้าง แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่านายจ้างที่มีประสบการณ์สามารถอ่านคุณได้จากการอ่านเรซูเม่ที่คุณส่งมาให้เท่านั้น! ดังนั้น ตรรกะเก่าๆ ที่ยัดทุกอย่างลงไปในเรซูเม่อันเดียวแล้วกระจายไปทุกบริษัทนั้นอาจไม่เวิร์คสำหรับคุณเสียแล้ว

สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือจำไว้ว่าคุณอยู่ในโลกไฮสปีด นายจ้างไม่มีเวลามาค้นเรซูเม่กองเป็นตั้งเพื่อหาคุณจนเจอหรอก ดังนั้น การทำให้เรซูเม่เด่นสะดุดตา อ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่เวิ่นเว้อนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก ต่อไปนี้เป็น 9 สิ่งที่คุณควรสำรวจดูในเรซูเม่แล้วรีบตัดมันทิ้งโดยด่วน พวกมันไม่สำคัญและไม่ทำให้นายจ้างประทับใจคุณหรอก

  1. กิจกรรมและประวัติการเรียนเยอะเกินจำเป็นจากโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย

ทราบแล้วเปลี่ยน คุณอยู่ในโลกของผู้ใหญ่แล้วครับ กิจกรรมมากมายก่ายกองจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องไม่จำเป็นในเรซูเม่คุณแล้ว แต่หากคุณเป็นเด็กจบใหม่ ก็ให้เน้นสิ่งที่คุณคิดว่าโดดเด่น เช่น ผลการเรียน 4.00 หรือกิจกรรมเด่นตัวแทนมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องใส่กิจกรรมทุกอย่างที่คุณทำ

  1. ทำประวัติเป็น bullet point 5-10 อัน

ความสามารถที่จะทำให้คุณได้งาน หรือไม่ได้งานนั้นอยู่ที่การสาธยายตัวเองอย่างรวดเร็ว

2.1.      เขาไม่มีเวลามาอ่านทุกอย่างที่เป็นคุณหรอก

2.2.      คิดว่าอะไรที่พวกเขาควรรู้และเป็นประโยชน์กับคุณ

2.3.      ทั้งหมดข้างต้นใส่เป็น bullet point แค่ 4 อันพอ

2.4.      หลังจาก bullet point อันที่ 4 คุณต้องทำให้นายจ้างอยากอ่านต่อให้ได้ ไม่เช่นนั้นให้กลับไปทบทวน 4 bullet points ข้างบนใหม่

  1. เรื่องราวมากมายจากมหาวิทยาลัย (ภาค 2)คลาสเรียนของคุณ

ไม่ต้องบอกเขาหรอกว่าคุณเรียน SBS357 Supply Chain Management เขาไม่ได้อยากรู้ เขาอยากรู้ว่าโปรเจกต์ของคุณคืออะไร และมันบรรเจิดแค่ไหน ผลงานของคุณจะสะท้อน skill อันโดดเด่นออกมาเองโดยไม่ต้องพูดมาก

  1. ใส่ข้อมูลเชิงลึก

อย่าไปใส่ข้อความทำนอง “ดูแลระบบที่ใหญ่มากและช่วยให้บริษัทระดมทุนได้” ใส่ไปชัดๆ โจ๊ะๆ เลยว่า “ดูแลระบบที่มีผู้ใช้กว่า 4.2 หมื่นคน และช่วยให้บริษัทระดมทุนได้กว่า 11.4 ล้านดอลล่าร์ระหว่างการออกแคมเปญปี 2013”เห็นไหมล่ะ แค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นเป็นกอง

5. อย่าให้มีหน้าที่สาม

หากคุณเริ่มเขียนเรซูเม่หน้าที่สาม ให้ลองทบทวนดูว่าคุณเขียนอะไรเวิ่นเว้อเกินไปหรือเปล่า จำไว้ว่า less is more อย่าให้เนื้อหามากมายมาทำให้นายจ้างอยากโยนเรซูเม่คุณลงขยะดีกว่า

  1. อย่าใช้คำเป็นทางการมาก

การใช้คำเป็นทางการมากเหมือนเป็นการเรียกร้องว่า “ฉันฉลาดมากกก จ้างฉันเถอะ!” ให้ใช้คำธรรมดาที่ไม่หยาบคายอธิบายความเป็นคุณ ตัวอย่างเช่น “อาทิเช่น” ก็เปลี่ยนเป็นคำว่า “เช่น” ธรรมดา

  1. Microsoft Word

แน่นอนว่าคุณใช้ MS Word เป็น คุณยายคุณก็ใช้เป็น ดังนั้น ไม่ต้องเขียนไปหรอกครับ

  1. คำว่า “รับผิดชอบเรื่อง”

คำว่ารับผิดชอบเรื่อง จะปรากฏมากมายบนเรซูเม่ของคุณ ให้เลี่ยงไปใช้คำว่า ดูแล ควบคุม หรือระบุรายละเอียดของงานไปเลยดีกว่า

9. อย่าพูดเป้าหมายที่เห็นแก่ตัว

“ฉันเป็นมาร์เกตเตอร์ที่เปี่ยมพลังและต้องการดูแลโซเชียลมีเดียและพัฒนากลยุทธ์แบรนด์” ลองเปลี่ยนประโยคนี้เสียใหม่เป็น “ฉันเป็นมาร์เกตเตอร์ที่มีความสามารถและสามารถช่วยคุณดูแลโซเชียลมีเดียและคิดค้นกลยุทธ์แบรนด์ใหม่ๆ ให้คุณได้”  แค่บิดคำพูดนิดหน่อยทุกอย่างก็ดูดีขึ้นแล้ว

แล้วคุณล่ะ เห็นว่าเรซูเม่ที่ดีต้องมีลักษณะอะไรอีกบ้าง แชร์ให้เราฟังหน่อยครับ

Source


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง