ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีในการยืนยันตัวบุคคลเริ่มเข้ามาทดแทนระบบยืนยันตัวบุคคลที่ใช้วิธีการสังเกตหรือแยกแยะโดยคน ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีความสำคัญ เช่น การชำระเงิน ช่วยให้สามารถเรียกเก็บเงินได้ถูกคนและยังสามารถตรวจสอบการชำระเงินได้อรกด้วย หรืองานด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่จำเป็นต้องยืนยันตัวบุคคลที่จะเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศ
ซึ่งการยืนยันตัวตนเพื่อชำระเงิน เราเริ่มเห็นมากขึ้นจากเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามาใกล้ชิดกับคนมากขึ้นอย่าง Smartphone แต่สำหรับการตรวจคนเข้าเมืองมีความเข้มงวดมากกว่า และเท่าที่ทราบยังไม่มีประเทศใดใช้เทคโนโลยีในการยืนยันตัวบุคคลในงานด้านตรวจคนเข้าเมือง แต่ที่สนามบินฮ่องกงกำลังจะสร้างความฮือฮาให้ทั่วโลก เมื่อมาการติดตั้งระบบยืนยันตัวบุคคลด้วยภาพถ่าย
โดยที่สนามบินฮ่องกงได้ประกาศการติดตั้งระบบตรวจสอบทางชีวภาพ (Biometric) มีชื่อเรียกว่า “Smart Departure” ซึ่งเป็นการยืนยันตัวบุคคลผ่านการตรวจสอบใบหน้า ระบบจะทำการตรวจสอบรูปถ่ายในพาสปอร์ตและใบหน้าของนักท่องเที่ยวที่ผ่านด่าน ตม. จากนั้นข้อมุลของนักท่องเที่ยวจะถูกเก็บไว้พร้อมการแสกนใบหน้า เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากฮ่องกงไปและกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง ระบบจะสามารถตรวจสอบใบหน้านักท่องเที่ยวได้ทันทีเมื่อถึงสนามบินฮ่องกง ช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่และลดระยะเวลาในพิธีการผ่านด่าน ตม.
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงชี้ว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยให้นักท่องเที่ยวสะดวกอย่างมากในการเดินทางเข้าฮ่องกง และยังช่วยลดภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยที่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามายังฮ่องกง ซึ่งนักท่องเที่ยวทีสามารถใช้ระบบ Smart Departure จะได้รับบัตรที่มีโลโก้ Smart Departure (SD) บัตรนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถผ่านด่านได้อัตโนมัติในช่องพิเศษ
สำหรับผู้ที่จะใช้ระบบดังกล่าวได้จะต้องมีอายุ 11 ปีขึ้นไปและต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคล นอกจากนี้ยังแผนในการขยายการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวไปยังจุดผ่านแดนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก
Source: Channel News Asia