4 วิธีเติมพลังรับงานหนัก (ที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ)

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Man-working-at-desk

ใครจะรู้ว่านอกจากกาเฟอีนในกาแฟร้อนๆ ทุกเช้านั้น ยังมีทางอื่นที่จะช่วยบูธร่างกายให้ตื่นตัวได้ตลอดอีกด้วยนะจ๊ะ

เพราะมนุษย์ดิจิตอลมาร์เกตเตอร์อย่างเราต้องเผชิญกับความท้าทายทุกวัน ทั้งเดธไลน์ การติดต่อกับสื่อ การคิดกลยุทธ์ การวิเคราะห์สถิติ และยิ่งยุคที่พิมพ์อะไรผิดคำเดียวก็มีคนเข้ามาเมนต์กันยาวเป็นหางว่าว การปล่อยให้การ์ดตกจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่

ต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจคุณ alert อยู่ตลอดเวลา ลองทำดูนะครับแล้วคุณจะพบว่าการงานของคุณมีคุณภาพดีขึ้นทันตาเชียว

1.ออกกำลังกายเล็กน้อยก่อนทำงาน

ลองสละเวลาช่วงเช้าเพื่อตื่นขึ้นมาวิดพื้น ซิดอัพ หรือวิ่งสักกิโลสองกิโล การออกกำลังกายให้มีเหงื่อเหมือนเป็นการเตือนให้ร่างกายตื่นและเป็นการวอร์มอัพสมองให้พร้อมรับเรื่องหนักๆ

2.ฟังเพลงคลาสลิก

อย่างดูถูกพลังของบทเพลงโดยเฉพาะเพลงคลาสลิกนะ คีตกวีอย่าง Beethoven หรือ Chopin จะทำให้สมองของคุณตื่นตัวอย่างเยือกเย็นและทำให้ขบคิดสิ่งต่างๆ ได้อย่างลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น เพราะเพลงคลาสลิกจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายแต่ระหว่างนั้นก็ช่วยคุณฝึกสมาธิในการฟังรายละเอียดของเสียงที่ซับซ้อนภายในบทเพลงเป็นตัวเลือกในการเปิดฟังที่ดีมากก่อนทำงานด้านการวางแผน

3.รับอากาศบริสุทธิ์

แม้ภายนอกจะเมฆครึ้มแต่คุณก็อาจลองออกไปเดินเล่นสักแป๊ปเพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ พร้อมวิตามินดีที่จะช่วยให้อารมณ์ และร่างกายสดชื่นขึ้น ผลวิจัยจาก The National Institutes of Health แนะนำว่าการรับแสงแดดวันล่ะ 10-15 นาทีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

4.รับพลังจากการ “แอบงีบ” ซะ

การแอบงีบเล็กๆ เป็นแรงผลักดันทางธรรมชาติที่ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้เยอะเชียว หลังจากคล้อยบ่ายก็ลองแอบงีบหลับสักครั้งล่ะ 20 นาทีจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและสามารถเพ่งสมาธิได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องอารมณ์และทักษะการเคลื่อนไหวต่างๆ

สรุปว่าคุณสามารถเลือกการแอบงีบ ออกกำลังกาย การรับแดดเช้า หรือการฟังเพลงคลาสลิกเพื่อเพิ่มพลังร่างกายให้ตื่นตัวและพร้อมรับงานหนักเสมอ

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง