หลังจากหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤต Covid-19 ต้องยอมรับว่า นี่อาจจะส่งผลกระทบจนกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ทั่วโลกต้องเผชิญอย่างหนักที่สุด
ซึ่งทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ก็ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์นี้ว่า มีแนวโน้มสร้างความเสียดายต่อเศรษฐกิจทั่วโลกรุนแรงที่สุด หลังจาก Great Depression เมื่อปี ค.ศ. 1929 หรือเมื่อประมาณ 91 ปีก่อน
คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ส่งสัญญาณเตือนว่าการระบาดของโควิด-19 อาจทำให้โลกเผชิญกับมรสุมเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งเเต่วิกฤติ Great Depression เมื่อปี 1929 หรือเมื่อ 91 ปีก่อน
หนึ่งในสาเหตุหลักก็พราะ ด้วยการออกมาตรการล็อกดาวน์ที่นานาประเทศทั่วโลกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก โดยไอเอ็มเอฟระบุว่า เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า ทางกองทุนยังคาดการณ์ว่า รายได้ต่อหัวของประชากรมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ใน 160 ชาติสมาชิกของไอเอ็มเอฟในปีนี้ ทว่า ขณะนี้ ไอเอ็มเอฟกลับคาดการณ์ได้ว่า มากกว่า 170 ประเทศทั่วโลกจะเผชิญหน้ากับรายได้ติดลบเข้ามาแทนที่
นอกจากนี้ทาง IMF ยังคาดการณ์ว่า ภายในปีหน้าเศรษฐกิจโลกอาจฟื้นตัวเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่ว่า สถานการณ์การระบาดจะดีขึ้นและคลี่คลายภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายของไวรัสโควิด-19 จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่ ปัจจัยอีกหลายด้าน เช่น
- ระยะเวลาและความยาวนานของการระบาด
- ทัศนคติด้านสาธารณสุข
- โครงสร้างด้านอาชีพและงานในประเทศนั้น
- รูปแบบอาชีพหลักของประชากรส่วนใหญ่
- มาตรการเยียวยวที่ครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน
สำหรับกลุ่มของประเทศที่จะได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด คาดการณ์ว่ายังคงเป็นประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งขณะนี้ได้สูญเสียเม็ดเงิดลงทุนไปแล้วราว 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสามเท่า หากเทียบกับวิกฤติการเงินโลกเมื่อ 12 ปีก่อน
การคาดการณ์กึ่งคำเตือนของไอเอ็มเอฟมีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากที่หลายหน่วยงานทั่วโลก ออกมาประเมินตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ในปีนี้อาจะไม่สดใสยาวไปจนถึงสิ้นปี โดยเมื่อวานนี้ Oxfam เพิ่งออกมาเปิดเผยผลการศึกษาที่พบว่า ไวรัสโควิด-19 อาจทำให้มีคนยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 500 ล้านคน
ดังนั้นจากสถานการณ์นี้ สิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมพร้อม มีหลายด้าน เช่น
- การปรับเปลี่ยนรูปแบบอาชีพครั้งใหญ่
- ลักษณะงานที่จะต้องหันมาใช้ช่องทางออนไลน์หรือแพลทฟอร์มมากขึ้น
- การขนส่งสินค้า อาหาร Delivery จะมาแรงมาก
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยว บริการ สถานบันเทิง อาจต้องปรับตัวครั้งใหญ่
- อสังหาริมทรัพย์บางประเภทอาจจะถึงขั้นตายไปเลยถ้าไม่เปลี่ยนแปลง
- ร้านค้าปลีกบนห้างสรรพสินค้าอาจต้องลดพื้นที่ครั้งใหญ่
- กระเป๋าเงินออนไลน์ และแพลทฟอร์มโอนเงินของธนาคาร จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้
- ธุรกิจบางประเภท เช่น สุขภาพ อุปกรณ์เกี่ยวกับสุขภาพ จะได้รับความสำคัญมากขึ้น
- สตรีมมิ่ง จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในด้านบันเทิง
- Live จะกลายเป็นทางเลือกของการเรียนออนไลน์และหาความรู้
สรุปภาพรวมแล้ว ถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยน หลายธุรกิจอาจจะไปไม่รอดหลังจากนี้ตามการคาดการณ์ของ IMF จริงๆก็ได้
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com
