ถ้ากล่าวถึงบริษัทผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวในจีน โดยเฉพาะทางด้านออนไลน์ แน่นอนว่าชื่อของ Trip.com Group จัดว่าเป็นยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของประเทศจีน ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งเข้าสู่ตลาดหุ้นที่ฮ่องกงเมื่อเดือน เมษายนที่ผ่านมานี้เอง และเป็นสัญญาณที่ดีมากในการเติบโตครั้งนี้ ที่อาจจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในจีนหลังจากคลายสถานการณ์โควิด-19
โดยเมื่อวันที่ 19 เมย. ที่ผ่านมา บริษัท Trip.com Group ก็ได้เข้าสู่การซื้อขายในตลาดหุ้นที่ฮ่องกง และ NASDAQ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเข้าสู่ตลาดหุ้นในครั้งนี้ ก็เป็นที่จับตามองมาสักระยะ
หลังจากการเข้าตลาดหุ้น ผู้บริหารอย่าง เจมส์ เหลียง และ เจมส์ ซุน ได้ออกมาแสดงความยินดีต่อบรรดานักลงทุน ผู้ถือหุ้น พนักงาน และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในงานฉลองครั้งนี้ก็ได้มีการทำเป็น ไลพ์สตรีม เผยแพร่ให้ผู้รับชมด้วย
บริษัท Trip.com Group เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวผ่านระบบแพลทฟอร์มออนไลน์ ทั้งการจองเครื่องบิน สถานที่พัก การค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และอื่นๆ
เจมส์ เหลียง หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกล่าวว่า “22 ปีก่อน บริษัทของเราเริ่มต้นจากออฟฟิศเล็กๆขนาด 40 ตร.ม.เท่านั้น และมีพนักงานแค่ไม่กี่คน วันนี้พวกเรามีพนักงานมากกว่า 10,000 คน อยู่ทั่วโลก ผมรู้สึกเป็นเกียริตยิ่งนักที่บริษัทของเราได้ก้าวมาถึงวันนี้ และขอขอบคุณผู้ถือหุ้น นักลงทุน พนักงาน ลูกค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่ร่วมกันเดินทางมาตลอด 22 ปี”
สำหรับประวัติของบริษัท Trip.com Group เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1999 โดยเริ่มต้นมาจากการเป็นผู้ให้บริการแพลทฟอร์มลงทะเบียน แล้วต่อมาขยายขอบเขตของแพลทฟอร์มออกไปทั่วโลก จากแรกเริ่มมีสมาชิกเพียง 784 คนเท่านั้น
ส่วนในปัจจุบัน มีรายงานว่าพวกเขามีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน จากทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแพลทฟอร์มด้านการท่องเที่ยวรายใหญ่สุดของจีน รวมถึงในด้านงานบริการที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็น การจองสถานที่พัก ตั๋วเครื่องบิน แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีกาขยายขอบเขตของธุรกิจออกไปมากกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา การเริ่มขายหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกงถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามองของบริษัทที่จะเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติด้วย และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่จะเข้ามาอีกมาก
โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือ การระดมทุนเพื่อพัฒนาทางด้านแพลทฟอร์มอินเทอร์เน็ตให้มีประสิทธิมากมากขึ้น เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมถึงการขยายตลาดไปยังธุรกิจใหม่ๆ บริการใหม่ๆ และการแข่งขันในตลาดทุนนิยม
ส่วนในปัจจุบัน Trip.com Group มีบริการแพลทฟอร์มหลักๆ คือ Trip.com, Ctrip, Skyscanner, Qunar ซึ่งเน้นที่การบริการจองสถานที่พัก การเดินทาง ค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่เข้าร่วม และเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนาแพลทฟอร์มบนมือถือสมาร์ทโฟนเป็นรายต้นๆด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการบุกตลาดจีน โดยเฉพาะทางออนไลน์ นี่คืออีกหนึ่งช่องทางและโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามอย่างมากครับ โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com
