ช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายคนตกใจกับข่าวของ Nick Woodman CEO GoPro ออกมากล่าวในเชิงที่ว่า ต้องการให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรหรือเข้ามาซื้อกิจการเพื่อพัฒนาต่อไป จนส่งผลให้ทั่วโลกมองว่า GoPro กำลังเผชิญกับความยากลำบากอะไร แล้วอนาคตของ GoPro จะเป็นอย่างไรในฐานะผู้เปิดและผู้นำตลาด Action Camera ที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในระดับโลก
แม้จะมีออกมาชี้แจงจากทางผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย รวมไปถึงสภาพการแข่งขันของตลาด Action Camera ในประเทศไทยที่ดูเหมือน GoPro จะเสียรังวัดให้กับกล้องจากจีนไปมาก โดยเฉพาะการเข้ามาของ MI ที่ดูเหมือนจะเข้ามาทำตลาด Gadget และ Smartphone ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Action Camera ครั้งนี้ ริค ลาวรี่ (Rick Loughery) รองประธานฝ่ายสื่อสารผลิตภัณฑ์ระดับโลกจาก GoPro จะมาตอบทุกคำถามที่สงสัยและคาใจ
GoPro รุกตลาดเอเชียแปซิฟิค
การท่องเที่ยวในภูมิภาคเติบโต
สิ่งแรกที่ Rick กล่าวถึง GoPro คือการเตรียมแผนรุกตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เนื่องจากผลสำรวจพบว่ากิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศภูมิภาคนี้เติบโตขึ้น นอกจากนี้จากตัวเลขยอดขายในภูมิภาคนี้มีการเติบโตขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยในปี 2560 ยอดขาย GoPro ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตจากปี 2559 เพิ่มขึ้นถึง 38% เฉพาะประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% นั่นชี้ให้เห็นว่าตลาดในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยังคงมีความต้องการ GoPro และเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า นั่นจึงทำให้ GoPro โฟกัสมาที่ตลาดนี้
แต่ที่ผ่านมาสินค้าจีนเข้ามาสู่ตลาดประเทศไทยและในภูมิภาค ซึ่งเทคโนโลยีแทบไม่มีความแตกต่างขณะที่ราคายังถูกกว่ามาก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้สินค้าจีนขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยทาง Rick มองว่านี่เป็นเรื่องที่ทาง GoPro ให้ความสำคัญนั่นจึงทำให้ GoPro จะยังคงใช้ตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศต่อไป แต่จะมีการทำงานร่วมกันที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
GoPro มองว่าหากลงไปทำเองด้วยการตั้งบริษัทหรือ Headquarter ก็อาจจะเข้าไม่ถึงลูกค้าในประเทศนั้น แต่ตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศจะเข้าใจปัญหาของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน และสามารถใช้วิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ GoPro ยังจะเข้าไปสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นการสร้างประสบการณ์ผ่านกิจกรรมที่ GoPro เข้าไปสนับสนุน
แบ่ง Level สินค้าเจาะแต่ละกลุ่ม
สร้างประสบการณ์ ท้าสินค้าจีน
แต่ในประเทศไทยกล้อง Action Camera เป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย นั่นทำให้หลายคนที่ต้องการเป้นเจ้าของกล้อง Action Camera จะให้ความสำคัญกับเรื่องของราคา ด้าน Rick เองก็เข้าใจว่าราคามีส่วนสำคัญอย่างมากในขับเคลื่อนตลาด ซึ่งสินค้าจากจีนใช้ราคาเป็นตัวนำ โดยใช้เทคโนโลยีที่ให้คุณภาพความละเอียดของภาพในระดับสูงเป็นจุดเด่น นั่นทำให้ GoPro เตรียมกลยุทธ์การแบ่งระดับของสินค้าที่มีผลต่อราคา
โดย GoPro จะแบ่งสินค้าออกเป็น 3 ระดับคือ ระดับโปรที่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการถ่ายภาพและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้รูปหรือวิดีโอที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ระดับผู้ใช้งานทั่วไปที่ผู้ใช้พอมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีและกล้องบ้างเล็กน้อย นิยมถ่ายในกิจกรรมหรือเป็นกล้องสำหรับการเดินทาง (Travel Camera) และกลุ่มผู้ใช้ใหม่ (New Entry) เป็นกลุ่มที่อยากจะลองใช้กล้องประเภทนี้โดยที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องหรือเทคโนโลยี
แน่นอนว่าสินค้าของจีนจะจับกลุ่มผู้ใช้ใหม่เป็นหลัก เนื่องจากมีราคาถูกถ้าพังก็ไม่เสียดาย GoPro จึงส่งรุ่น Hero ที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาทลงสู่สนามเพื่อจับกลุ่มนี้ โดย Rick มองว่าราคากล้องจีนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2 พันบาท แต่เพิ่มเงินอีกนิดก็สามารถเป้นเจ้าของ GoPro ที่นอกจากจะมีเทคโนโลยีเรื่องความละเอียดภาพ ยังมีเทคโนดลยีอื่นๆ อีก เช่น การป้องกันสั่นไหว ป้องกันน้ำในตัว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
สมาร์ทโฟนชูเทคโนโลยีกล้องแถมกันน้ำได้
ไม่ใช่คู่แข่ง ไม่กินตลาดซึ่งกันและกัน
ขณะที่สมาร์ทโฟนทุกวันนี้มีการนำเทคโนโลยีกล้องที่ให้ความละเอียดสูง ถ่ายวิดีโอได้คมชัดและยังสามารถกันน้ำได้ GoPro อาจจะถูกสมาร์ทโฟนแย่งข้ามตลาด (Cross Market) ได้ ด้าน Rick กลับมองตรงข้าม โดยมองว่าสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ดี ทุกวันนี้ Rick ก็ใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพ ที่สำคัญสามารถกันน้ำได้เรียกว่าถ่ายใต้น้ำได้คมชัดมาก แต่ก็ไม่มีทางที่สมาร์ทโฟนจะเข้ามาแทนที่ GoPro ได้
เนื่องจากสมาร์ทโฟนที่ว่ามานั้นมีราคาที่สูงมาก และความสามารถของสมาร์ทมีมากกว่าจะใช้เป็นเพียงแค่กล้อง Action Camera สมาร์ทโฟนเหมาะกับการถ่ายแล้วแชร์หรือถ่ายเหตุการณ์ด่วนตรงหน้า แต่ GoPro คือการใช้ถ่ายแบบมีจุดมุ่งหมายในการถ่ายภาพ ที่สำคัญหากเกิดความผิดพลาดสมาร์ทโฟนพังจะกลายเป็นเรื่องใหม่ แต่ถ้า GoPro พังก็เพียงนำไปซ่อมหรือซื้อใหม่ ซึ่งราคาของ GoPro น่าจะถูกกว่าราคาของสมาร์ทโฟนที่ใช้กันอยู่
ในทางตรงข้ามสมาร์ทโฟนช่วยเหลือ GoPro มากกว่า เพราะสามารถเชื่อมต่อ GoPro กับสมาร์ทโฟนเพื่อโหลดรูปภาพ รวมไปถึงทำกรตัดต่อด้วยแอปฯ บนสมาร์ทโฟน เพื่อให้ให้วิดีโอหรือภาพที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น GoPro เชื่อว่าสมาร์ทโฟนไม่ใช่คู่แข่งอย่างแน่นอน หากขณะใช้สมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอแล้วสายสำคัญโทรเข้า จะเลือกรับสายสำคัญหรือถ่ายวิดีโอต่อไป ถ้าลองให้เลือกนำสมาร์ทโฟนไปถ่ายใต้น้ำที่ทะเลกับนำ GoPro ไปถ่ายใต้ทะเล จะเลือกใช้อุปกรณ์ใดในการถ่ายใต้ทะเล?
เพื่อบริการใหม่ GoPro Plus
แก้ปัญหาบริการหลังการขาย
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายเสียงมักจะบ่นกลับมาว่า “GoPro เสียแล้วไปซ่อมที่ไหน” นี่คือหนึ่งจุดที่หลายคนหันไปหากล้อง Action Camera จากจีน เนื่องจากราคาที่ถูกกว่าและเมื่อเสียขึ้นมาก็กล้าทิ้งโดยไม่เสียดาย แต่สำหรับ GoPro ที่กล้องมีมูลค่าหลักหมื่น หากเสียแล้วต้องทิ้งคงเป็นเรื่องน่าเศร้าและคงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีสำหรับผู้ที่ใช้กล้อง GoPro ซึ่งทาง Rick ชี้ว่านี่เป้็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ นอกจากเรื่องของการซ่อมแล้ว GoPro ยังเป็นห่วงเรื่องของผลงานที่ถูกบันทึกผ่าน GoPro
โปรแกรม GoPro PLUS จึงถูกคิดขึ้นมาโดยเป็นบริการสำหรับสมาชิกที่พร้อมค้นหาประสบการณ์การใช้งาน GoPro ระดับพรีเมียม โดยถ้าเครื่อง GoPro มีปัญหาสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนเครื่องได้ (ตามข้อกำหนด) และสามารถอัพโหลดฟุตเทจจากโกโปรไปไว้บนคลาวด์ (ใช้ได้กับกล้อง GoPro Hero 5 ขึ้นไป) นอกจากนี้ยังสามารถสำรองหรือการทำแบ็คอัพรูปภาพแบบไม่จำกัด และแบ็คอัพวิดีโอได้นานถึง 35 ชั่วโมง ลงในบัญชี GoPro บนคลาวด์ได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งบริการนี้มีอยู่ที่เฉพาะสหรัฐฯ ในราคา 4.99 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 160 บาทต่อเดือน โดย Rick ย้ำว่า GoPro มีแผนที่จะเปิดบริการดังกล่าวในหลายประเทศทั่วโลกเร็วๆ นี้
ยืนยันยังลุยตลาดต่อเนื่อง
แต่ไม่ทิ้งโอกาสในอนาคต
เมื่อถามถึงเรื่องที่ Nick Woodman กล่าวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Rick ตอบอย่างชัดเจนว่า เขาไม่สามารถตอบคำถามแทน Nick ได้ แต่ Rick สามารถพูดได้ว่า GoPro ยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยอมหยุดทำตลาด เพราะจากยอดขายและเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยว ชี้ให้เห็นว่าตลาดยังคงมีความต้องการกล้อง Action Camera โดยเฉพาะ GoPro
ดังนั้น GoPro จะยังคงใช้งบประมาณในการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ GoPro ก็ยังเปิดโอกาสในการเจรจากับใครที่สนใจเข้ามาร่วมพัฒนา GoPro ในรูปแบบพันธมิตร หรือหากใครที่ต้องการพัฒนา GoPro ภายใต้การดำเนินการของตัวเอง ก็เปิดโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเช่นกัน ซึ่งแม้จะมีข่าวลือว่า Apple DJI หรือ MI ให้ความสนใจการใช้เข้าซื้อกิจการ แต่ ณ เวลานี้Rick ยืนยันยังมีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ GoPro กำลังรุกตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอยู่
เทรนด์ Action Camera ยังมี
บทพิสูจน์ GoPro ต่อตลาดไทย
แม้ว่า GoPro จะตัดปัญหาเรื่องการแย่งส่วนแบ่งข้ามตลาด (Cross Market) กับสมาร์ทโฟน แต่ GoPro ก็ยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคใหญ่อย่างสินค้าจีนที่ใช้ราคาเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ แน่นอนว่าการสู้กับสินค้าจีนที่พร้อมจะเล่นการตลาดเรื่องราคา แม้จะขาดทุนก็ตาม แต่ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าสินค้าจีนใช่ว่าจะใช้ราคาแล้วชนะเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น ถ่านไฟฉายที่แม้ว่าถ่านไฟฉายจีนจะมีราคาถูกกว่า แต่เมื่อผู้บริโภคเกิดประสบการณ์การใช้งานแล้ว หลายคนก็เลือกที่จะกลับมาใช้ถ่ายไฟฉายที่มีแบรนด์ มีคุณภาพมากกว่า แม้จะต้องจ่ายแพงกว่าก็ตาม
เฉกเช่นเดียวกันกับ GoPro การเปิดตัวสินค้ารุ่นที่รองรับกลุ่มผู้ใช้ใหม่ (New Entry) แม้ว่าจะช่วยลดช่องว่างของราคาลง แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่ากล้องจากจีน ดังนั้นการสร้างประสบการณ์การใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นถึงความแตกต่างระหว่าง GoPro กับกล้องจีน และเข้าใจว่า GoPro น่าจะเข้าใจในส่วนนี้จึงมีแผนการสร้างประสบการณ์ผ่านการใช้งานจริงในแผนกลยุทธ์การตลาด
ตามติดกันต่อไปว่า GoPro จะลุยตลาดประเทศไทยอย่างไร และหากเป็นไปตามที่ Rick กล่าวเราคงได้ยินและได้เห็นชื่อของ GoPro มากขึ้นจากเดิมที่ดูเงียบเชียบ ที่สำคัญดูจากการรุกตลาดแล้วคาดได้ว่า GoPro น่าจะหันมาลงเล่นตลาด Mass ด้วยกลุ่มสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท และปล่อยให้อีก 2 กลุ่มกลายเป็นNiche Market จนกว่าที่ผู้บริโภคในกลุ่ม New Entry จะเชี่ยวชาญและขยับอัพเกรดขึ้นไปเล่นในรุ่นที่ Level เพิ่มมากขึ้น