ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินกระแสเกี่ยวกับเทคโนโลยี ‘Self-driving car/bus’ หรือรถที่ขับเคลื่อนได้เองอัตโนมัติในหลายๆ ประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน หรือใกล้ๆ บ้านเราอย่าง ในสิงคโปร์ก็ตาม ซึ่งประเทศเหล่านี้กำลังทดสอบความเป็นได้ และความปลอดภัยจากเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ‘ญี่ปุ่น’ เจ้าแห่งเทคโนโลยีได้ประกาศกำลังทดสอบรถบัสโดยสารขับเคลื่อนด้วยตัวเองเช่นกัน โดยการทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นในเมืองมาเอบาชิ (Maebashi) เมืองหลักของจังหวัดกุมมะ โดยสภาบริษัทขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่น ทำงานร่วมกับNTT Docomo ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และมหาวิทยาลัยกุมมะ ซึ่งได้ระบุว่า เมืองมาเอบาชิ จัดว่าเป็นเมืองที่มีประชากรบางตาไม่หนาแน่น ขณะเดียวกันก็ยังต้องพึ่งพาการขนส่งสาธารณะในบางช่วงเวลา เพราะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามา
ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่น แน่นอนว่าต้องไม่ทิ้งคราบความเป็นเจ้าแห่งความ high-tech ที่ก้าวล้ำทันสมัย และที่สำคัญต้องเอื้อความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กิมมิคของ Self-driving buses แบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ จึงพ่วงมากับ ‘ระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้า’ ที่ผู้ใช้ต้องทำการลงทะเบียนก่อน เพื่อให้การใช้ในครั้งต่อๆ ไปสแกนเพื่อจ่ายเงินค่าบริการได้เลยง่ายๆ
ทั้งนี้ การใช้ระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้านอกจากจะสะดวกสบาย ยังช่วยในการลดสัมผัสในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสได้อีกด้วย โดยเส้นทางที่จะใช้ทดสอบจะเริ่มต้นขึ้ในเดือน ธ.ค.นี้ ระหว่างสถานี Maebashi ถึงสถานี Chuo Maebashi ซึ่งนับว่าเป็นเมือที่ 2 ของญี่ปุ่นที่ใช้เทคโนโลยี Self-driving อย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ รถบัสไร้คนขับในจังหวัดเฮียวโกะ การทดสอบเกิดขึ้นเป็นที่แรกในระหว่างปลายเดือน ก.ค. ถึง ปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่นักวิเคราะห์ได้พูดถึงระบบการชำระเงินด้วยการสแกนใบหน้า ที่เป็นบริการควบคู่กับรถบัสไร้คนขับ จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับกลุ่มผู้สูงวัยด้วย เพราะระบบการสแกนใบหน้าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที แม่นยำ และรวดเร็วแถมยังปลอดภัยด้วย
ที่มา : japantoday, soranews24