Facebook ระบุใช้ AI ลดข้อความ Hate Speech ลงได้เกือบ 95%

  • 19
  •  
  •  
  •  
  •  

เรื่องของการใช้ Hate speech บนโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลมานาน โดยเฉพาะบน Facebook ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่ผู้คนมองว่าเป็นแหล่งของ Hate Speech จำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม Facebook ก็ตระหนักในเรื่องนี้และใช้เวลาหลายปีที่จะสร้างให้แพล็ตฟอร์มนี้สะอาดขึ้น

 

ล่าสุด ทาง Facebook อ้างว่าได้ส่งกองทัพ AI เข้าไปบดขยี้บรรดา Hate Speech จำนวนมากบนโซเชียลเน็ตเวิร์คของตัวเองลง ซึ่งมั่นใจว่าทำให้ Hate Speech หายไปบนคอนเทนต์เกือบ 95% เหลืออีก 5% ที่ยังอยู่และจะพยายามกำจัดออกไปให้มากที่สุด

 

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook อ้างว่า ระบบ AI ได้ทำการตรวจจับ Hate Speech จำนวน 22.1 ล้านคอนเทนต์ หรือประมาณ 94.7% และได้นำออกจากโซเชียลมีเดียของตัวเองแล้ว ในช่วง Q3 ของปี 2020 ซึ่งเมื่อเทียกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ปี 2019) AI สามารถตรวจจับและนำข้อความ Hate Speech ออกไปถึง 6.9 ล้านข้อความ หรือประมาณ 80.5% ทั้งนี้ Facebook เริ่มใช้งาน AI ในการตรวจจับข้อความ Hate Speech ตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา

 

การอัปเดทนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Facebook กล่าวกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับกฎข้อบังคับการใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งเขายืนยันว่าระบบ AI ของเขานั้นไว้วางใจได้ โดยสามารถจับข้อความหรือคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือการแสวงหาผลประโยชน์กับผู้เยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Facebook ไว้วางใจระบบการทำงานของ AI ที่จะช่วยงานทีมของมนุษย์ในการตรวจจับ Hate Speech ให้เบาบางลงได้ เพราะปริมาณของคอนเทนต์มีเป็นจำนวนมหาศาลและเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และหลายๆ คอนเทนต์ก็มีเล่ห์เหลี่ยมในการหลบเลี่ยงคำที่ใช้โพสต์หรือโฆษณา ซึ่งการทำงานตรงส่วนนี้ในพาร์ทของมนุษย์จะทำงานได้ดีกว่าและเข้าใจได้มากกว่า AI

 

Mike Schroepfer หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Facebook เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ AI ได้ช่วยตรวจจับคอนเทนต์ที่เป็นอันตรายได้ก่อนที่มันจะกลายเป็นไวรัล สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี AI ที่ Facebook มี ซึ่งจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นเร็วขึ้นในบางจุดที่มนุษย์อาจจะยังมองไม่เห็น ซึ่งก่อนหน้านี้เราพึ่งพาแต่กำลังคนซึ่งเป็นงานที่หนักมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จำเป็นต้องใช้กำลังคนอยู่เพื่อช่วยในการตรวจจับบางอย่างที่ยังเป็นจุดอ่อน เช่นกรณีของการ live-streams เหตุโศกนาฏกรรมยิงมัสยิดที่นิวซีแลนด์ เมื่อมีนาคมปี 2019 เป็นต้น หรือการที่ AI บางคำก็ตรวจจับไม่ได้ก็มี เช่น ถ้าคุณใช้คำว่า “you belong here” และโพสต์ไปถึงใคร แน่นอนว่าข้อความแบบนี้จะไม่ถูกจับจาก AI ซึ่งในกรณีที่ถ้าภาพแบ็กกราวนด์เป็น สวรรค์หรือชายทะเลสวยๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าแบ็กกราวนด์ของข้อความเป็นสุสาน นั่นคือ Hate Speech

 

สรุปความได้ว่า การทำงานเพื่อกำจัด Hate Speech ให้ได้มากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ยังจำเป็นต้องทำงานร่วมกันระหว่าง AI และมนุษย์ ซึ่งจะทำให้แพล็ตฟอร์มนี้น่าอ่านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

 

Source: CNN

 


  • 19
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!