“กล้าทำด้วยใจ…เพื่อคุณ” Storytelling ที่ถ่ายทอดโมเมนท์สุดซึ้งในยามวิกฤต จากทิพยประกันภัย

  • 8.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

“การเล่าเรื่อง” เป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่ทรงพลัง สร้าง engage กับแบรนด์ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่าเรื่องจากเค้าโครงเรื่องจริง จะเป็นสิ่งที่ยิ่งสร้างความใกล้ชิดแบรนด์และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

ด้วยเสน่ห์และอิมแพคของการเล่าเรื่องที่มักโดนใจ จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจประกันส่วนใหญ่ นิยมนำเทคนิคนี้ มาใช้เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์บ่อยครั้ง

ล่าสุด บริษัทประกันภัยที่อยู่คู่สังคมไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ อย่าง “ทิพยประกันภัย” เป็นอีกหนึ่งรายที่ได้นำกลยุทธ์การเล่าเรื่องมาใช้ โดยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่ชื่อ “กล้าทำด้วยใจ…เพื่อคุณ”

Emotional สื่อสารแบบซึ้งๆ ถึงโดนใจ

ต้องยอมรับว่า บางครั้งการทำธุรกิจยุคนี้ แม้จะมีสินค้าและบริการดีมีคุณภาพ (Functional) แค่ไหน ก็อาจไม่ดึงดูดใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของเราได้มากเท่ากับการสร้าง emotional หรือ “อารมณ์ร่วม” ที่สามารถเข้าถึงความรู้สึกของลูกค้าได้ดีกว่า

โดยเฉพาะใน “ธุรกิจประกันภัย” ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจเป็นหลัก

ปัจจุบัน แม้การทำธุรกิจประกันภัยยุค Digital technology Disruption ในวันนี้จะเริ่มส่อแนวโน้มที่หลายแบรนด์หันไปโฟกัสเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ สะดวก รวดเร็วและง่ายของลูกค้ามากขึ้น

แต่ขณะเดียวกัน อีกธรรมชาติของธุรกิจประกันที่เราคงไม่อาจหลีกพ้น คือยังจำเป็นต้องพึ่งพาการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยการสร้างอารมณ์และความรู้สึกไม่น้อย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคนั่นเอง

“กล้าทำด้วยใจ…เพื่อคุณ”

หากถามเหตุผลสำคัญที่คนเราเลือกซื้อประกันภัย ส่วนหนึ่งเพราะต้องการลดความเสี่ยง หรือเป็นตัวช่วยในยามวิกฤตในกรณีที่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ความไว้เนื้อเชื่อใจจึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าพิจารณาควบคู่ไปด้วยเสมอ

ถึงแม้ว่า ทิพยประกันภัย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ความเป็น Digital Insurance Company” แห่งแรกของไทย เพราะเล็งเห็นว่าต่อไปกระแส InsurTech” จะยิ่งทวีความสำคัญต่อธุรกิจประกันในอนาคต

แต่อีกสิ่งที่ทางทิพยประกันภัยไม่เคยทอดทิ้ง คือพยายามสื่อสาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ การทำให้ลูกค้ารู้สึก มองเห็นความเป็นพันธมิตรคู่คิดที่ดี ผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ ต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน Emotional Marketing ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ทิพยประกันภัยพยายามสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทยังคงเป็นคนขายประกันที่ยึดมั่นความไว้วางใจเป็นหลัก ผ่านการนำเสนอภาพความห่วงใยหรือความรู้สึกว่าลูกค้าเป็นคนสำคัญ

จากโจทย์ดังกล่าว ภาพยนตร์โฆษณา 3 นาที ชิ้นล่าสุดของทิพยประกันภัยเรื่องนี้กำลังถ่ายทอดและตอบคำถามที่ว่า ผ่านการบอกเล่าถึงสิ่งที่เป็นเหตุผลของความสำเร็จของทิพยประกันภัย

โดยเริ่มจากการตั้งคำถามที่ว่า “ท่ามกลางวิกฤตภัย บริษัทประกันภัย…ควรทำอย่างไร”

จากเรื่องจริง สู่ Story Telling

ที่ผ่านมา ในการทำโฆษณาทิพยประกันภัยมักเลือกสื่อสารตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก แต่ในโฆษณาชุดนี้ ทางบริษัทได้ตอกย้ำความมั่นใจให้ลูกค้าว่า ทิพยประกันภัยเป็นมากกว่าบริษัทประกันภัย

แต่ในโฆษณาชุดนี้ มีการนำเสนอเนื้อเรื่องมาจากเค้าโครงเรื่องจริง ในปี พ.ศ.2560 ที่จังหวัดสกลนคร ในช่วงที่เกิดพายุ “เซินกา” (SONCA) พัดถล่ม ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น จนประตูระบายน้ำและคันดินพัง

เมื่อเกิดเหตุการณ์บริษัท ทิพยประกันภัย จํากัด (มหาชน) ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่

ซึ่งคีย์เมสเสสในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนถึงความ “ไม่นิ่งนอนใจ” และ “ไม่ดูดาย” ของคนทิพยประกันภัยในทุกระดับ

ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง ที่เห็นความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และได้ทุ่มเทให้ใจเต็มร้อยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดกำลัง จนกระทั่งเลือกที่จะแลกกับสวัสดิภาพและความมั่นคงในชีวิตของตัวเอง

ในระดับปฎิบัติการ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ทั้งคนในพื้นที่ และทางส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลือ ทั้ง รถยก ทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้เห็นการเตรียมความพร้อมของทิพยประกันภัยในการพัฒนาระบบการติดต่อประสานงาน โดยทางบริษัททิพยประกันภัย จํากัด (มหาชน) ได้จัดให้มีห้องปฎิบัติการของหน่วยภาคสนาม ที่สามารถติดต่อจากส่วนกลาง (กรุงเทพ) ไปยังที่เกิดเหตุ (ส่วนภูมิภาค) ได้อย่างทันเหตุการณ์

หากถามถึงสิ่งที่ได้หลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คงต้องบอกว่าการถ่ายทอดเบื้องหลังความเชื่อมั่น ฝ่าฟันวิกฤตกับประเทศและพี่น้องคนไทย รวมถึงมีส่วนร่วมดูแลโครงการประกันภัยระดับประเทศมาเป็นเวลานาน

ซึ่งที่ผ่านมาในการพัฒนาศักยภาพการให้บริการ และแสดงให้เห็นถึงปรัชญาในการทำงานและความตั้งใจของพนักงานทุกคนที่พร้อมจะพัฒนางานเพื่อความสุขของลูกค้า ซึ่งในวันนี้ ทิพยประกันภัย ประกาศพร้อมที่จะก้าวขึ้นมารับผิดชอบดูแลประกันรายย่อยเพิ่มขึ้น

เรียกได้ว่านี่คือบทสรุปของสะท้อนความใส่ใจและความไม่หยุดยั้งในการดูแลคนไทยของบริษัทประกันภัยที่เคียงคู่คนไทยมาตลอด 68 ปี


  • 8.3K
  •  
  •  
  •  
  •