ต่อเนื่องหลังจาก ‘นกสกู๊ต’ ได้ประกาศเลิกกิจการ ทาง ‘นกแอร์’ ที่ถือหุ้นในสายการบินดังกล่าว 49.65% ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของนกสกู๊ตและยืนยันพร้อมกลับมาบินต่างประเทศอีกครั้ง หากรัฐบาลแต่ละประเทศอนุญาตให้ทำการบินได้
‘วุฒิภูมิ จุฬางกูร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงการเลิกกิจการของสายการบินนกสกู๊ตว่า ไม่ส่งผลกระทบกับแผนการบินและการให้บริการของสายการบินนกแอร์แต่อย่างใด โดยนกแอร์ยังให้บริการการบินในเส้นทางบินภายในประเทศตามปกติ ซึ่งปัจจุบันให้บริการใน 18 เส้นทาง 70 เที่ยวบินต่อวัน ถือเป็นสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสารมากที่สุดของไทยในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตามความต้องการของผู้โดยสารที่มีความต้องการที่จะเดินทางเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ขณะที่การบินระหว่างประเทศนั้น หากรัฐบาลในแต่ละประเทศได้มีการอนุญาตให้สามารถทำการบินได้ ทางนกแอร์ก็พร้อมจะกลับมาให้บริการในเส้นทาง ฮิโรชิมา ย่างกุ้ง และ โฮจิมินห์ตามเดิมในทันที
ด้านประธานกรรมการบริหารสายการบินนกแอร์ ‘ประเวช องอาจสิทธิกุล’ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทวาระพิเศษ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติรับทราบการเลิกกิจการและชำระบัญชีของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ซึ่งมี นกมั่งคั่ง บริษัทย่อยของนกแอร์เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49.65% ของทุนจดทะเบียนหรือคิดเป็น 1,470 ล้านบาท เนื่องจากนกสกู๊ตมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อรวมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้การคมนาคมระหว่างประเทศหยุดชะงัก และยังไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้ พร้อมยืนยันว่า การยกเลิกกิจการของนกสกู๊ตนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของนกแอร์