ฮาคูโฮโด เฟิร์ส เผย 5 เทรนด์การตลาดปี 2024 รับการเปลี่ยนแปลงของโลก กับการขับเคลื่อนความสำเร็จตลอด 20 ปี

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions พร้อมเผย 5 เทรนด์การตลาด ปี 2024 รับการเปลี่ยนแปลงของโลก

 

สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปี 2024 ฮาคูโฮโด เฟิร์ส มีแนวทางการพัฒนา การดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์การตลาด โดยได้ วิเคราะห์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการตลาด แบ่งเป็น 5 ด้าน คือ

 

5 เทรนด์สำคัญปี 2024 

#1Trends โรคระบาดใหญ่และภาวะเงินเฟ้อเปลี่ยนพฤติกรรมคนไทยไปตลอดกาล (Pandemic and Inflation Reshapes Habits Forever)

ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ลดลงในบางธุรกิจ และเพิ่มขึ้นในบางธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้แบรนด์ต้องหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ให้เจอ เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมที่แบรนด์จะเข้าไปสร้างสัมพันธ์ด้วย

  • การใช้จ่ายที่ลดลง โดยเฉพาะสิ่งบันเทิงนอกบ้านและการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวใกล้ๆ, ความสัมพันธ์ และการดูแลตัวเอง

 

#2Trends การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีทางการตลาด (The Rise of MARTECH)

การเข้าถึงเทคโนโลยีทางการตลาดอย่างรวดเร็ว อาทิ เทคโนโลยี AI จะช่วยแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา จะยังทำให้แบรนด์ได้ผลลัพธ์จากกลุ่มเป้าหมายได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยฮาคูโฮโด เฟิร์ส มีเทคโนโลยีทางการตลาดที่เปิดกว้าง สามารถนำมาประยุกต์ให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพต่อลูกค้า ถึงแม้จะเป็นการใช้กับอุตสาหกรรมใหม่หรือธุรกิจใหม่ก็ตาม

 

#3Trends จากโลกแห่งความเป็นส่วนตัวสู่โอกาสใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า (Privacy to Liberty)

จากการที่ผู้บริโภคตระหนักถึงและได้รับความคุ้มครองในเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จะเป็นโอกาสให้แบรนด์ ที่สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย สามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประสบการณ์ตรง และยังสามารถนำข้อมูลเหล่านั้น ต่อยอดในการสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ในวงกว้าง

สำหรับ 2 แหล่ง Data ที่เก็บได้ยากมากขึ้น ได้แก่

  • Third-Party Data ข้อมูลที่รวบรวมจากหลายแหล่งข้อมูลทั้งสาธารณะและไม่สาธารณะ ซึ่งอาจไม่ได้รับมาโดยตรงจากผู้บริโภค
  • Second-Party Data ข้อมูลภายในของบริษัทอื่นที่บริษัทได้รับอนุญาตให้ใช้งาน ซึ่งมีการใช้ผ่านข้อตกลงทางสัญญา

ขณะที่ First-Party Data ข้อมูลที่ทางบริษัทเก็บโดยตรงจากผู้บริโภค เช่น การที่ผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ยังเป็นโอกาสที่ดีอยู่

#โอกาสใหม่ Zero-Party Data ข้อมูลที่ผู้บริโภคยินดีอยากแชร์ให้กับแบรนด์ ซึ่งไม่ใช่แค่ข้อมูลทั่วไป แต่สะท้อนถึงความชอบในสินค้าและบริการ โดยถือว่าเป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ได้ ดังนี้

  • สร้างความจริงแท้จากเนื้อหาที่มาจากผู้คนจริงๆ
  • สร้างความชื่นชอบในแบรนด์จากประสบการณ์ตรง
  • สร้างแรงกระเพื่อมในพื้นที่สื่อไปด้วยกัน

สำหรับที่ได้จาก Zero-Party Data ได้แก่

  • Poll for voting
  • Quiz
  • Questionnaires
  • Membership
  • Call Center

 

#4Trends การสร้างแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว (BRANDFORMANCE)

เป้าหมายของการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ จะไม่อยู่เพียงแค่ยอดขายสินค้าและบริการ หรือตอบโจทย์ การส่งเสริมการตลาดในระยะสั้น ยังจำเป็นต้องสื่อสารให้เห็นความสำคัญของแบรนด์ที่สะท้อนความหมาย ต่อการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายในระยะยาว โดยการสร้างความหมายของแบรนด์ในชีวิตผู้บริโภค

สำหรับในปี 2024 จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า BRANDFORMANCE (Brand + Performance) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะเน้นไปที่การสร้าง Impact Marketing เป็นการทำการตลาด “ระยะยาว” คือการทำการตลาดที่สร้างยอดขายไปพร้อมกับการสร้างแบรนด์

 

#5Trends ลงมือทำเพื่อโลกที่เปลี่ยนแปลง (Climate Action)

การสื่อสารด้านความยั่งยืนจะมีความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการของผู้บริโภค  ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ที่เป็นเอเยนซี่ที่ผลักดันเรื่อง ความยั่งยืน ให้กับลูกค้า และ ภายในองค์กร  ทั้งในเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ ลดการใช้พลังงาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และในประเด็นอื่นๆ ที่จะ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals: SDGs)

 

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ความสำเร็จตลอด 20 ปี

 

ชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด เปิดเผยเคล็ดลับ ความสำเร็จของบริษัทฯ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และการขับเคลื่อนถึงการเป็น “ครีเอทีฟเอเจนซี่ชั้นนำ” และ “องค์กรผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง”

 

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส อยู่ภายใต้กลุ่มบริษัทโฆษณาฮาคูโฮโด ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยเริ่มก่อตั้งธุรกิจใน ค.ศ. 1895 นับเป็นเวลากว่า 127 ปี เป็นกลุ่มบริษัทที่เต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์ในวงการครีเอทีฟเอเจนซี่ โดยที่ผ่านมา สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เป็นแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับนานาชาติ โดยมีสำนักงานภูมิภาคจำนวน 150 แห่ง ครอบคลุม 20 ประเทศทั่วโลก

 

ธุรกิจของฮาคูโฮโด เฟิร์ส แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรก ถือเป็นช่วงการทำธุรกิจในอดีตในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2003 ถึง 2021 ภายใต้ฐานของธุรกิจในชื่อ เดลฟิส ฮาคูโฮโด และในยุคใหม่ภายใต้ชื่อ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส หรือเรียกได้ว่าเป็นยุค New Era ที่มาพร้อมกับความท้าทายของเศรษฐกิจและธุรกิจสื่อสาร

 

แนวคิดการทำงานของ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส เริ่มต้นจากคำว่า F1RST เมื่อไหร่ที่ทำสิ่งใหม่ จะเกิดความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง เช่น การเดินครั้งแรก รักครั้งแรก คำว่า “F1RST” หรือ “ครั้งแรก” หรือ “ประสบการณ์แรก” เป็นคำที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง มุ่งไปสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต ทีม ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จะตื่นเต้นในการแก้โจทย์ ปัญหาต่างๆ ด้วยการเปลี่ยน “ความท้าทายที่มีศักยภาพ” เป็น “โอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุด”

 

นอกจากการผสมผสาน ระหว่าง ครีเอทีฟสุดล้ำ และนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทางดิจิทัล และความคาดหวังเทรนด์ใหม่ๆ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ยังเน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions สามารถสร้างความเชื่อมั่นและสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้ามาตลอด 20 ปี โดยมีบริการแบบบูรณาการครอบคลุม 4 ประเภท ประกอบด้วย

 

4 บริการบูรณาการที่ครอบคลุม สร้างความสำเร็จ

 

1) ที่ปรึกษาทางการตลาดและการวางแผนเชิงกลยุทธ์แบบรอบด้าน (Partner by Heart) ด้วยเสน่ห์ของการบริการแบบญี่ปุ่นที่เริ่มต้นทุกงานด้วยความเข้าใจทั้งความท้าทายและความรู้สึกของนักการตลาด ต้องเผชิญกับโจทย์หินในทุกวัน ทำให้เกิด passion ที่จะร่วมแก้ปัญหาและสร้างผลลัพธ์ให้ชัดเจน

 

2) การแก้ปัญหาด้วยครีเอทีฟแบบไร้กรอบ (Boundless Creative Solutions) จากโครงสร้างของ กลุ่มบริษัท ที่มีเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่หลากหลาย จึงมีโอกาสระดมความคิดเห็นภายในกลุ่ม เพื่อหาทางออกใหม่ๆ สร้างความคาดหวังให้เป็นจริง ซึ่งบางครั้งต้องการนวัตกรรมทางการสื่อสาร หรือเครื่องมือใหม่ๆ โดยเชื่อมโยงศักยภาพของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มมาทำงานร่วมกัน

 

3) การออกแบบประสบการณ์แบรนด์แบบองค์รวม (Juice-up Experience Design) โดยการวางแผนแคมเปญทางการตลาด จากความเชี่ยวชาญทั้งแบบ on ground และ online และเชื่อมประสบการณ์ แบบต่อเนื่องไร้รอยต่อ เพื่อให้แบรนด์ลูกค้าได้มอบประสบการณ์ ที่ตราตรึงใจ กับกลุ่มเป้าหมาย และก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เชื่อมความผูกพันกับแบรนด์

 

4) การบริหารกลยุทธ์สื่อเต็มรูปแบบ (Full Media Efficiency) หมายถึงการใช้สื่อดิจิตอล และการใช้ เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสื่อ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเร็วขึ้น เชื่อมไปถึง การเข้าดูสินค้า การซื้อ รวมถึงการรักษากลุ่มลูกค้าไว้กับแบรนด์ให้แบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

คุณชุติมา กล่าวย้ำว่าเพื่อรับมือ และพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทฯ  ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์การตลาด บริษัทฯ จะมุ่งการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “Driving People’s Actions” เน้นการขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ลูกค้า ด้วยการสร้างพฤติกรรม กับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ทั้งทางด้านธุรกิจ และความยั่งยืน สร้างจุดสนใจ ร่วมกันของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ในระยะยาวต่อแบรนด์ลูกค้า และกลุ่มเป้าหมาย


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ
CLOSE
CLOSE