AIS ประกาศผลประกอบการปี 2562 มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 31,051ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.6% จากปีก่อน ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
– ปัจจุบัน AIS มีฐานลูกค้ารวม 42 ล้านราย เติบโตขึ้น 844,600 ราย
– ส่วน AIS Fibre มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 307,100 ราย ส่งผลให้มีลูกค้ารวมมากกว่า 1 ล้านราย
คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ปี 2562 เป็นปีที่เอไอเอสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เรามุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงทรัพยากรต่างๆ ให้ก้าวล้ำอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคอุตสาหกรรมและทุกภาคส่วนของประเทศ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย โดยภาพรวมผลประกอบการ ปี 2562 เอไอเอส มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน
สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เติบโต 4.2% เทียบกับปีก่อน ทำให้เอไอเอสยังครองส่วนแบ่งการตลาด อันดับ 1 ทั้งด้านรายได้ และจำนวนผู้ใช้บริการ โดยมีฐานลูกค้าเติบโตขึ้นกว่า 844,600 ราย ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในตลาดอยู่ที่ 42 ล้านเลขหมาย และยังคงมีแนวโน้มของลูกค้าเติมเงินที่เปลี่ยนไปใช้บริการระบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนลูกค้าระบบรายเดือนเติบโตขึ้นจาก 20% ณ สิ้นปี 2561 มาอยู่ที่ 22% ณ สิ้นปี 2562 ขณะที่ การใช้งาน 4G ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี มีลูกค้าที่ใช้งาน 4G เพิ่มขึ้นเป็น 71% เทียบกับ 59% จากปีก่อน โดยลูกค้าใช้ปริมาณดาต้าเฉลี่ย 12.7 กิกะไบต์ต่อเดือน เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปีก่อน
ทั้งนี้ เอไอเอส ได้พัฒนาคุณภาพเครือข่าย 4G มาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน เอไอเอสมีสถานีฐานมากที่สุดกว่า 158,000 สถานีฐาน โดยได้รับการจัดอันดับให้ AIS เป็นเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทยจาก Ookla Speedtest และปีนี้ เราได้เสริมคุณภาพสัญญาณจากการเข้ารับการจัดสรรคลื่น 700MHz เพื่อเตรียมรองรับการขยายเครือข่ายในอนาคต ช่วยเสริมความเป็นผู้นำให้เอไอเอสด้วยการมีคลื่นความถี่มากที่สุดในอุตสาหกรรม
ขณะที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังคงเติบโตเหนืออุตสาหกรรม ตลอดทั้งปี 2562 มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 42% หรือกว่า 307,100 ราย จากปี 2562 ส่งผลให้ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย เสริมให้รายได้เติบโต 29% มาอยู่ที่ 5,722 ล้านบาท จากการทำตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence ที่ผสานกันระหว่าง 3 บริการหลัก ทั้งอินเทอร์เน็ตมือถือ, อินเทอร์เน็ตบ้าน, คอนเทนต์ผ่าน AIS PLAYBOX ทางทีวี หรือผ่านแอป AIS PLAY ทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ ส่วนธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร การทำตลาด Enterprise ยังเป็นไปตามแผน ทั้งปีเติบโตใกล้เคียงคาดการณ์ จากยอดขายลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้นทั้งบริการด้านเทเลคอมและไอซีที พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเป็นผู้ให้บริการ One Stop ICT Service แบบครบวงจร
โดยภาพรวม จากรายได้ที่เติบโตและการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เอไอเอสมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 78,463 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเติบโตมาอยู่ที่ 31,051 ล้านบาท เติบโต 4.6% เทียบกับปีก่อน โดยเอไอเอสจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังที่ 3.56 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ ในวันที่ 22 เมษายน 2562
ในปี 2563 เอไอเอสพร้อมวางรากฐานการเติบโตในอนาคต ยกระดับงานบริการเพื่อการดูแลลูกค้าให้ “อุ่นใจ…ได้มากกว่า” ในทุกมิติ ได้แก่ 1. เตรียมพร้อมเครือข่ายอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถรองรับการขยายเครือข่ายในอนาคต 2. ยกระดับสินค้าและบริการที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเพื่อคนไทย 3. สร้างประสบการณ์ที่ดีที่เข้าถึงลูกค้าทุกเจเนอเรชัน ทั่วทุกภูมิภาค และ 4. ดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ผ่านแนวคิด “ถ้าเราทุกคน คือเครือข่าย” ภายใต้โครงการ “อุ่นใจไซเบอร์” และกิจกรรมรณรงค์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ E-Waste อย่างถูกวิธี
“ในปีที่ผ่านมา เอไอเอส ได้จัดตั้งบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการขายประกันภัยแบบออนไลน์ พร้อมโปรโมทช่องทางการชำระเงินผ่าน Rabbit LINE PAY อีกทั้ง ได้ขยายบริการเข้าสู่ตลาด eSports เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดเกม และส่งเสริมทักษะความสามารถของนักกีฬา อีสปอร์ต แสดงถึงความตั้งใจของเราที่พร้อมจะ Transform เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งในปี 2563 เอไอเอสครบรอบ 30 ปี จะเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและทั้งอีโคซิสเต็ม ด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายแห่งอนาคตที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”