เมลามีนพ่นพิษไปทั่ว เริ่มต้นจากนมผงเด็ก ลุกลามไปถึงอาหารแทบทุกชนิด ล่าสุด อาหารที่ผสมแป้ง ไล่ตั้งแต่ เส้นก๋วยเตี๋ยว ,เส้นบะหมี่,เส้นพาสต้า , พิซซ่า แป้งทำขนมเค้ก น้ำปลา โดนอย.สุ่มตรวจ ด้านพิซซ่าฮัท แบรนด์ดัง สั่งตรวจวัตถุดิบตัวเอง
จากข่าวอันครึกโครมเรื่อง การเติมสารเมลามีนในนมผงทารกและอาหารทารกที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทางสื่อต่างๆ ส่งให้ “สารเมลามีน” เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้นของที่มาของสารเมลามีน เกิดจากมีการเติมน้ำลงในน้ำนมดิบที่ส่งขายให้กับโรงงานที่ผลิตอาหารต่างๆ เช่น นมผง อาหารทารก เป็นผลให้ปริมาณโปรตีนต่ำกว่ามาตรฐาน บริษัทที่ใช้น้ำนมดิบในการผลิตอาหารนั้น จะมีการตรวจสอบปริมาณโปรตีนในน้ำนมดิบก่อน
ดังนั้นน้ำนมดิบที่มีการเติมน้ำจึงถูกปฏิเสธ ผู้ผลิตน้ำนมดิบจึงนำเมลามีนซึ่งมีปริมาณ ไนโตรเจนสูง มาเติมเพื่อเพิ่มปริมาณไนโตรเจนในนมเพื่อให้ผลวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนออกมาได้ตามมาตรฐาน โดยไม่ได้คำนึงว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ทำให้เด็กทารกเจ็บป่วยนับหมื่นคนจากนิ่วในไต และมีเด็กเสียชีวิตมาแล้ว
เมลามีนป่วนธุรกิจอาหาร
วิกฤตการณ์ เมลามีนในขณะนี้ ได้ลามลึกจากนมผงสำหรับทารก มาสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มีการนำน้ำนมดิบที่มีการปนเปื้อนเมลามีนไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตด้วย ไม่ว่าจะเป็น นมพร้อมดื่ม โยเกิร์ต ขนมขบเคี้ยว
ขณะนี้ก็มีเจ้าของสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังออกมาประกาศตัวเพื่อรับผิดชอบในสินค้าที่มีทั้งการเก็บสินค้าคืนในแบรนด์ที่ตรวจสอบพบสารเมลามีน และการออกมาสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในสินค้าที่มีความปลอดภัย อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ดัชมิลล์ , เอส แอนด์ พี , นมตรามะลิ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับนมและผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ
แต่จริงๆ แล้วสารเมลามีนนั้นไม่ได้เป็นแค่ส่วนผสมของนมเท่านั้น แต่ยังมีการตรวจสอบพบว่า ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ของการผลิตในรูปแบบของแป้ง ในอาหารทำให้มีความเสี่ยงในการปนเปือนสารเมลามีนได้อีกด้วย
อาหารผสมแป้ง มีอัตราเสี่ยงผสมเมลามีน
จากงานเสวนาเรื่อง “วิธีการตรวจเช็กการปนเปื้อนเมลามีน และอนุพันธ์หรือยูเรียฟอร์มาลดีไฮด์ปนเปื้อน ในอาหารสัตว์”ที่ผ่านมา รศ.ดร.เยาวมาลย์ ค้าเจริญ ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหา วิทยาลัยขอนแก่น ได้สะท้อนถึงเรื่องนี้ภายหลังการจัดงานกับ Businessthai ว่า
ทราบเรื่องการปนเปื้อนของเมลามีนมานาน 8 ปีแล้ว ตอนแรกมีการปนเปื้อนเพียงเล็กน้อย แต่ตอนหลังมีการใช้มากโดยนำมาเป็นตัวประสานไม่ให้อาหารยุ่ย ให้เกาะกันดี ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์นมแล้ว ยังพบว่ามีการลักลอบใช้เมลามีนผสมในอาหารสำเร็จรูป เช่น ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นพาสต้า เส้นบะหมี่ พิซซ่า แป้งทำขนมเค้ก น้ำปลา อาหารเด็ก ด้วย
นายนรังสรรค์ พีรกิจ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวง สาธารณสุข (อย.) กล่าวกับ Businessthai ว่า ในการตรวจสอบสินค้านั้นนอกจากสินค้าที่มีนมเป็นส่วนประกอบแล้ว ยังมีการเพิ่มสินค้าอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังอย่างเช่น แป้งประกอบอาหาร หรือแม้กระทั่งน้ำปลา ด้วย
เพราะการเติมสารเมลามีนจะเป็นการเติมไนโตรเจนเพื่อให้สินค้าได้มาตรฐานของโปรตีน ดังนั้นอาหารเกือบทุกชนิดถือว่ามีโอกาสที่จะมีการปนเปื้อนได้ทั้งสิ้น แต่ในเบื้องต้นคงไม่สามารถเปิดเผยชื่อแบรนด์ได้
ปัจจุบันทาง อย. ได้เร่งตรวจสอบสินค้าที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อผลการตรวจออกมาจะมีการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคผ่านสื่อและทางเวบไซต์ทุกวัน หากสินค้าประเภทไหนที่ตรวจพบสารเมลามีนจะมีการประกาศอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ผู้บริโภครับทราบและให้เจ้าของสินค้าได้มีการเก็บสินค้าคืน
“หากเราได้รับทราบว่าต่างประเทศพบสารเมลามีนในสินค้าชนิดใด ทาง อย.ก็จะทำการตรวจสอบสินค้านั้นๆ ไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค” นายนรังสรรค์ กล่าวทิ้งท้าย
พิซซ่า ฮัท ส่งตรวจก่อนถึงตัว
ทางกองบรรณาธิการบรรณาธิการได้สอบถามไปยังบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของร้านอาหารบริการด่วน พิซซ่า ฮัท ที่จำหน่ายสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบเฝ้าระวังอย่าง แป้ง เนย ชีส ถึงการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ
นายสาโรช วงศ์ธนูน้อย แผนกซัพพลายเชน ของยัมฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้มีส่งตัวอย่างของวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้าทุกชนิดเช่น แป้ง ชีส นม และวัตถุดิบทุกชนิดที่นำมาผลิตสินค้า เข้าห้องปฏิบัติการกลางของทางอย. แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า วัตถุดิบมีความปลอดภัยแล้วไม่มีสารเมลามีนปนเปื้อน
“การส่งวัตถุดิบของการผลิตสินค้าไปตรวจ ถือว่าเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่จะเข้ามาซื้อสินค้า ว่าสินค้าของยัมฯ มีความปลอดภัย และวัตถุดิบที่นำมาใช้ได้มาตรฐาน ซึ่งหลังจากผลการตรวจวัตถุดิบทั้งหมดออกมาครบแล้วทางบริษัทจะมีการทำประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง”
จากการสอบถามทราบว่า วัตถุดิบส่วนใหญ่ของยัมฯ เป็นวัตถุดิบจากประเทศไทย แต่จะมีบางส่วนที่มาจากต่างประเทศบ้าง เช่น ชีสจากนิวซีแลนด์ อเมริกา และสิงคโปร์เป็นต้น
Source: Business Thai
