ช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นบิ๊กเวิร์ดที่มีถูกพูดถึงกันเยอะมาก โดยเฉพาะในวงการเอเจนซี่โฆษณาและวงการธุรกิจแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับการถูก Disruption จากเทคโนโลยีและการแข่งขันทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ ทำให้เอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ต้องมีการปรับตัวโดยเร็ว อย่าง JWT แม้จะมีทั้งครีเอทีฟเฮ้าส์ มีฝ่ายการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) ที่เก่งมากๆ แต่ก็ต้องทำการควบรวมกับเอเจนซี่ด้านงานดิจิทัล Wunderman กลายเป็น Wunderman Thompson หรือบริษัทเอเจนซี่โฆษณา Y&R ก็ได้เข้าร่วมกับบริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง VML และเปลี่ยนชื่อเป็น VMLY&R
สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งยังคงขาดและต้องการ Creativity ขณะเดียวกันบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่เหล่านี้ ที่เมื่อก่อนเคยอยู่ในยุครุ่งเรืองมาเป็นเวลายาวนาน ก็ไม่สามารถปรับตัวให้หันมาใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม จนต้องจับมือทำงานร่วมกันเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ที่มีการแข่งขันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ทำไมเดต้าถึงถูกมองว่าเป็นทางรอด?
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม เดต้ามักถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เพราะทุกแบรนด์รู้ว่าเดต้าคือทางรอด เดต้าคือเทรนด์ หลายแบรนด์พยายามเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งชื่อ อีเมล์ และพฤติกรรมผู้บริโภคต่างๆ แต่สุดท้ายนำมากองรวมกันเพราะใช้ไม่เป็น หรือใช้แล้วแต่ยังไม่สามารถดึงศักยภาพของเดต้าตนเองออกมาได้ดีพอ หนักหน่อยคือยังไม่เริ่มเก็บดาต้าเลย
ในวงการโฆษณาก็ประสบปัญหาไม่ต่างกับธุรกิจอื่นๆ ในเรื่องเดต้า ปัญหาในการทำโฆษณายุคปัจจุบัน ยังคงพบบริษัทเอเจนซี่บางแห่งไม่ยอมปรับตัว เชื่อในการนำเสนอสุนทรียภาพ อารมณ์ เชื่อในพฤติกรรมมนุษย์ มุ่งทำคอนซูเมอร์ รีเสิร์ช ซึ่งแน่นอนว่าจะได้อินไซต์ของผู้บริโภคประมาณหนึ่ง แต่การปฏิเสธเดต้าจะทำให้ธุรกิจเดินไปได้ยากในยุคเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต แต่ถ้าหากใช้เดต้าได้อย่างถูกต้อง จะทำให้การคิดโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นและเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง
กรณีของการทำธุรกิจก็เช่นกัน หากต้องการสร้างโฆษณาหรือแคมเปญ เพื่อสร้างการรับรู้และโปรโมทสินค้า เดต้าจะช่วยให้เอเจนซี่โฆษณาทำงานได้เร็วและตรงจุดมากขึ้น อย่างลืมว่าในโลกของการตลาดมีการแข่งขันกันตลอดเวลา แต่ละแบรนด์ก็มีการรันแคมเปญออกกันมาเรื่อยๆ หากมีเดต้าน้อยหรือบอกเดต้าให้บริษัทเอเจนซี่ไม่หมด เพราะกลัวความลับรั่วไหว จะส่งผลให้ต้องมีการลองผิดลองถูกในการหาข้อมูล แคมเปญล่าช้า ไล่ไม่ทันคู่แข่ง
ที่มาข้อมูล : งานสัมมนา “ADverTeller โฆษณาพยากรณ์ รู้ก่อนใคร ใหม่ก่อนเทรนด์” คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
