dtac ถอนตัวไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 1800MHz !! มั่นใจมีคลื่นย่านความถี่สูงมากพอ 

  • 8
  •  
  •  
  •  
  •  

dtac

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แจงไม่ยื่นประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.)

ทั้งนี้ ดีแทคยังให้ความสำคัญแผนคุ้มครองลูกค้าใช้งานมือถือหลังหมดสัมปทาน จะต้องได้รับความคุ้มครอง และไม่กระทบการใช้งาน ตามที่เคยมีกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่ กับผู้ให้บริการรายอื่น พร้อมมุ่งให้ความสำคัญกับกระบวนการการมีส่วนร่วม กับผู้กำหนดนโยบาย และหน่วยงานกำกับดูแล เรื่องการจัดสรรคลื่นย่านความถี่ต่ำ (low-band spectrum) ในอนาคต

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค  กล่าวว่า “ดีแทคได้พิจารณาการเข้าร่วมประมูลอย่างรอบคอบ โดยมีข้อสรุปถึงการถือครองคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) มีปริมาณมากพอที่จะรองรับการใช้งานดาต้าที่เติบโตขึ้นในอนาคต โดยการประมูลในครั้งนี้คงหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า และผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว ดีแทคมั่นใจในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนคลื่นความถี่ทั้งหมดที่ถือครองมากพอ ที่จะรองรับการเติบโตการใช้งานดาต้าของลูกค้า และเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการคุ้มครองลูกค้า เพื่อไม่กระทบการใช้งานจากกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่”

image001

ดีแทคมีคลื่นย่านความถี่สูงมากพอ

ปัจจุบัน ดีแทคได้ถือครองความถี่ย่าน 2100 MHz จำนวน 2×15 MHz และมีคลื่นใหม่ความถี่ 2300 MHz จำนวน 1x60MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่เดียวที่กว้างที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถ้าหมดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และสิ้นสุดระยะเวลาเยียวยาแล้ว

ดีแทคยังมีคลื่นย่านความถี่สูงเพิ่มมากกว่าอีกเดิม 10 MHz จากคลื่นใหม่ 2300 MHz ที่จะนำมาให้บริการสำหรับคลื่นย่านความถี่สูงอย่างพอเพียง

image002

ทั้งนี้ คลื่น 2300 MHz ได้ถูกนำมาให้บริการ 4G TDD เพื่อตอบสนองการใช้งานดาต้าที่เน้นการดาวน์โหลด สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า ที่หันมานิยมการรับชมวิดีโอผ่านสมาร์ทโฟนจำนวนหลายชั่วโมงต่อวัน

ถึงแม้ว่าดีแทคจะสิ้นสุดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และ 850 MHz ดีแทคยังมีปริมาณคลื่นความถี่ ที่จะให้บริการต่อจำนวนลูกค้ามากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น (ดีแทคมีจำนวนคลื่นเฉลี่ย 2.75 MHz ต่อจำนวนลูกค้า 1 ล้านราย ในขณะผู้ให้บริการรายอื่นมีจำนวน 1.37 MHz และ 1.99 MHz)

image003

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย ดีแทคยังเร่งขยายสถานีฐานอย่างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา โดยมีการขยายเพิ่มสถานีฐาน 3G/4G บนโครงข่าย 2100 MHz จำนวน 4,000 แห่งต่อปีในช่วง 2560-2561 ซึ่งขยายรวดเร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ดีแทคยังรุกขยายสถานีฐาน สำหรับการใช้งานบนคลื่นความถี่ 2300MHz dtac TURBO ด้วยเทคโนโลยี 4G TDD ให้ได้อีกอย่างน้อย 4,000 แห่งในปีนี้ ตามข้อตกลงกับทีโอที และหากดีแทคสามารถทำได้เต็มกำลังการติดตั้งสถานีฐาน คาดว่าจะขยายได้มากถึง 7,000 แห่งในปลายปีนี้

อุตฯ โทรคมนาคมต้องการคลื่นย่านความถี่ต่ำ 

จากที่ประเทศไทยมีคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) รองรับบริการ ดีแทคขอย้ำว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในขณะนี้ ต้องการคลี่นความถี่ต่ำ (low-band spectrum) มากกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัด และพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมขั้นพื้นฐาน และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน การสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการ และปัญหาเฉพาะในแต่ละท้องถิ่น อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

แต่ประเทศไทยยังขาดแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ต่ำที่จะมาให้บริการ

image004

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังติดกับดักต้นทุนของคลื่นความถี่ที่สูงระดับโลก เมื่อรวมกับข้อกำหนดกรณีผู้เข้าร่วมประมูลมีจำนวนเท่ากับ หรือน้อยกว่าจำนวนใบอนุญาต หรือ N-1  จะนำประเทศไปสู่สภาวะขาดคลื่นความถี่เพื่อนำมาใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน

ประเทศไทยจ่ายค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่สูงกว่า แต่กลับได้ใช้งานความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่าประเทศอื่น

การตั้งหลักเกณฑ์ที่ไม่เหมาะสม จะนำไปสู่ภาวะการขาดแคลนคลื่นความถี่ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ช้าลง โดยจะส่งผลเสียต่อภาพรวม ในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย

มั่นใจให้บริการอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน การให้บริการมือถืออย่างต่อเนื่อง หรือ “ซิมไม่ดับ” คือ หน้าที่ร่วมกันของ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ในกิจกรรมโทรคมนาคม และถือเป็นความรับผิดชอบ ร่วมกับผู้ให้สัมปทานคลื่นความถี่

พร้อมกับผู้ประกอบการโทรคมนาคม ในการที่จะต้องให้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ เป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2558  เพื่อคุ้มครองลูกค้าให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยดีแทค และ CAT ได้ร่วมยื่นแผนคุ้มครองลูกค้าใช้งานมือถือ หลังหมดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และ 850 MHz ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา

image005

แผนความคุ้มครองลูกค้าในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานดังกล่าวที่ยื่นต่อ กสทช.  เพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ยังอยู่ในระบบสัมปทานเดิม จะต้องได้รับความคุ้มครอง และไม่กระทบการใช้งาน ตามที่เคยมีกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่ กับผู้ให้บริการรายอื่น และยังมีลูกค้าคงค้างในระบบเช่นเดียวกัน

ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่หมดสัมปทานได้รับระยะเวลา 9-26 เดือนในช่วงเยียวยา ซึ่งได้สิ้นสุดเมื่อผู้ชนะการประมูลคลื่น ได้ทำตามหลักเกณฑ์ และเปิดใช้งานคลื่น ดีแทคยืนยันที่ลูกค้าจะต้องได้รับการคุ้มครองตามประกาศ กสทช. คลื่น 1800 MHz ควรนำมาสู่การใช้งาน สำหรับมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว ในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน จนกระทั่งผู้ชนะการประมูล ได้ทำตามกฎเกณฑ์และเปิดให้บริการวันแรก สำหรับคลื่น 850 MHz ที่ไม่ได้นำไปประมูล ดีแทคจะต้องได้รับสิทธิ์ จนกระทั่งคลื่นได้ถูกนำไปจัดสรรให้กับผู้ได้รับอนุญาตใช้งานต่อไป

จากการที่ดีแทค ได้เร่งโอนย้ายลูกค้าที่ใช้บริการ 2G และเร่งขยายโครงข่ายทั้งคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz

จะเป็นมาตรการยืนยันเพื่อลูกค้าดีแทค ที่ใช้งานบนทุกคลื่นความถี่ทั้ง 2G, 3G และ4G จะมั่นใจได้อย่างเต็มที่ สำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความเสี่ยงจากซิมดับ

มุ่งสร้างโครงข่ายดาต้าที่ดีที่สุด

นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า

“ดีแทคยืนยันเต็มร้อย ที่จะสร้างโครงข่ายการใช้งานดาต้าให้ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย เราลงทุน 4,510 ล้านบาท ต่อปี เพื่อให้บริการคลื่น 2300 MHz ตามสัญญาทางธุรกิจและความร่วมมือกับทีโอที และดีแทคยังลงทุน 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท ในการขยายโครงข่ายคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz โดยการที่เป็นพันธมิตรคู่ค้ากับทีโอ ทียังทำให้ดีแทคมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ สู่การให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายประจำที่ (Fixed Wireless Broadband) และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ CAT ทำให้ดีแทคได้ใช้งานเสาสัญญาณโทรคมนาคม หลังจากสิ้นสุดสัมปทาน วันที่ 15 กันยายน 2561 ทั้งหมดนี้จะทำให้ลูกค้าดีแทคมั่นใจ สามารถใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดอีกด้วย”

นายลาร์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าดีแทคมั่นใจได้ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ดีแทคมีคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) มากที่สุด และเราได้เร่งสร้างโครงข่าย เพื่อการใช้งานดาต้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เพื่อวันนี้แต่เพื่อรองรับอนาคต โดยขณะนี้ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ต้องการมากที่สุด คือ การจัดสรรคลื่นย่านความถี่ต่ำ (low-band spectrum) ที่มีความชัดเจน เพื่อวางแผนในการให้บริการผู้ใช้งานดาต้า ได้ครอบคลุมทั้งในเมือง และทุกพื้นที่ทั่วไทย”

ทั้งนี้ นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมทั้งผู้บริหารคนอื่นอย่าง นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี, นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ และนายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ จะเปิดแถลงข่าว พร้อมตอบทุกคำถามว่า ทำไมดีแทคจะไม่ประมูลคลื่น 1800 MHz ภายในเย็นวันนี้ (15 มิ.ย.)


  • 8
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE