ที่เราสนใจตลาดผ้าอ้อมเด็ก เพราะ GOO.N เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น ประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาคนแก่ล้นเมือง อัตราการเกิดในญี่ปุ่นลดฮวบในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อันที่จริงลดมาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 แน่นอนกระทบต่อผู้ผลิตสินค้าเด็กอย่างต่อเนื่องแน่ๆ ดังนั้นการที่ญี่ปุ่นมาเปิดตลาดสินค้าเด็กในต่างแดน เป็นเรื่องที่เราอยากจับตามอง และ กูนน์ เลือกไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่เข้ามาปักธงเพื่อขยายตลาดในต่างแดน
กูนน์ ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ญี่ปุ่น เลือกมาลงทุนตั้งฐานการผลิตและ ปั้นไทยเป็น hub ในอาเซียน โดย มร.มาซาคาสุ โอกุระ กรรมการบริหาร บริษัท เอลิแอล อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวไว้อย่างน่าสนใจถึง มูลค่าตลาดรวมของผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ มูลค่าตลาดไม่เติบโตเท่าที่ควร แม้ว่าปริมาณการใช้งานจะเพิ่มขึ้น
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นรุ่นประหยัด คนซื้อรุ่นที่ใช้แทนกันได้ในราคาที่ถูกกว่า อาจจะเกี่ยวโยงไปถึงการซบเซาของเศรษฐกิจ ซึ่งสวนทางกับความตั้งใจของ กูนน์ ที่เคาะไว้ว่าจะดันส่วนแบ่งตลาดให้ไปแตะที่ 15% จากที่ผ่านมา กูนน์โตขึ้นถึง 30% และ ปีที่แล้วยอดขายอยู่ที่ 900 ล้านบาท หรือ 10% ของตลาดผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปในไทย ก่อนจะอ่านต่อ ลองเดาเล่นๆว่าอันดับ 1 กับ 2 ในตลาดคือแบรนด์อะไร??? …..อันดับ 1 ในส่วนแบ่งตลาดคือ มามี่โพโค 50% และ เบบี้เลิฟ 15%
ตอนนี้ กูนน์ ปักธงอยู่ที่อันดับ 3 จากส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด ซึ่ง กูนน์ เองก็มีสินค้ารุ่นประหยัดที่เข้ามาตอบโจทย์ตลาดคือ “กูนน์ เฟรนด์ ” แต่แบรนด์คู่แข่งก็มีสินค้าในกลุ่มราคาประหยัดวางตลาดอยู่เช่นกัน การเป็นผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ และความต้องการที่จะขยายตลาดนั่นหมายถึง กูนน์ ต้องทำให้ผู้บริโภคในตลาดที่ใช้สินค้าคู่แข่ง สวิตช์แบรนด์ให้ได้ รวมถึงให้ลูกค้าใหม่ได้ลองใช้สินค้า กูนน์ อาจจะด้วยวิธีแจก Sampling หรือ จัดแคมเปญลุ้นรางวัล (เป็นอะไรที่ผู้บริโภคบ้านเราชอบมาก)
จึงทำให้เกิดแคมเปญการตลาดอย่าง “Giving and Sharing” โดย Giving คือการแจกทองคำ 55 รางวัล รายละเอียดตามได้จากเฟสบุค GOO.N Thailand และชู CSR ในส่วนของ Sharing มอบวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 5,000 ชุด ให้แก่หน่วยงานที่ขาดแคลน ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์ที่สร้าง value ให้แบรนด์ พร้อมไปกับการสร้างความเชื่อมั่น โดยเคลมว่ามาตรฐานการผลิต กูนน์ ในไทย เหมือนญี่ปุ่นทุกประการ นี่คือสินค้าผลิตในไทยที่คนญี่ปุ่นเคลมว่า Quality Japan
มร.มาซาคาสุ โอกุระ ยังได้เผยถึงผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ที่จะวางตลาดในช่วงเดือนสองสามเดือนข้างหน้าคือ ทิชชู่เปียก และ facial tisstue เป็นทิชชู่แบบแห้งที่ผสมเนื้อโลชั่นลงไปในทิชชู่ เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้มีการนำเข้ามาขายในไทยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ กูนน์ ขยายโรงงานผลิตในไทยแล้ว ราคาจะถูกลงประมาณ 15% ซึ่งจะทำให้ GOO.N มีกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างและหลากหลายมากขึ้น โดย กูนน์ ตั้งเป้าไว้ว่าจะดันยอดขายให้ไปแตะที่ 4,800 ล้านบาทภายใน 5 ปี
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ที่ไทย กูนน์ ตั้งโรงงานที่อินโดนีเซียด้วย แต่เลือกที่จะตั้งไทยเป็นฮับในการกระจายสินค้าในภูมิภาคอาเซียน แทนที่จะเป็นอินโด ส่วนนึงเพราะ ประชากรอินโดมากกว่าไทยเกือบ 1 เท่าตัว volume แค่ที่อินโดขายในประเทศตัวเองก็มากกว่าไทยถึง 4 เท่า ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมายอดขายในไทยโต 40% ส่วนจากการส่งออกโต 60% และ ใน 5 ปีข้างหน้า กูนน์ ตั้งเป้าไว้ที่ 50:50 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่นักลงทุนต่างแดนยังมองเห็นศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจในไทย
*GOO.N มาจากคำว่า Good Nappy แปลว่า ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ดี