ในภาวะที่เกิดวิกฤตอยู่รอบตัว หากใครสามารถปรับตัวได้ดีได้เร็วจะถือเป็นการต่ออายุความได้เปรียบให้กับธุรกิจได้เติบโตต่อไป ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีธุรกิจในหลายวงการที่เดินหน้าเปลี่ยนแปลงหลายด้าน อย่างเช่น ‘Tesco Lotus’ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ หลังจากประกาศรีแบรนด์และเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็น Lotus’s เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ธุรกิจมากขึ้น โดย ‘s จะสื่อถึงคำว่า SMART และ (’) แทนเครื่องหมาย dropped pin ที่ต้องการเป็น destination ของทุกคน
ด้วยความหมายที่แฝงอยู่ใน ‘s (SMART) ในโลโก้แบรนด์ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าแนวทางที่ Lotus’s จะเบนเข็มต่อไปแน่ๆ ก็คือ การเป็นห้างรีเทลในแนวคิดที่สมาร์ทขึ้น
สมาร์ทอย่างไร? เชื่อว่ามูฟเมนต์ล่าสุดของ Lotus’s จะอธิบายความสงสัยตรงนี้ได้ โดยเมื่อเดือน ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัว Lotus’s สาขาเลียบคลอง 2 เป็นสาขาแรกนำร่องภายใต้แนวคิด Smart Community Center ซึ่งก็คือ การยกระดับให้เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตสไตล์ใหม่แบบ outdoor space ถือว่าเป็นการแตกไลน์ธุรกิจของ Lotus’s ที่น่าจับตาเพราะโดดเด่นและแปลกตาไปจากสาขาอื่น
ห้างแนวใหม่สไตล์ open air mall
จากภาพจำเดิมเมื่อครั้งยังเป็น Tesco Lotus เราจะเห็นถึงความเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตอีกแบรนด์หนึ่งที่ครบครัน แต่เมื่อ Lotus’s เปลี่ยนโฉมสาขาเลียบคลอง 2 ย่านคลองสามวาบนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตรให้เป็นเหมือน community center ที่มีทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ของที่ต้องซื้อต้องช้อป แต่หมายถึงกิจกรรมอื่นด้วย เช่น การทานอาหาร, การแชร์ประสบการณ์, การพักผ่อน, การอัพเดทสินค้าใหม่ๆ จากผู้ประกอบการ SMEs เหมือนเป็นแหล่งโอกาสหนึ่งที่อยู่บริเวณพื้นที่เดียวกับสโตร์หลักของ Lotus’s
ความโดดเด่นที่สุดก็คือ การออกแบบในสไตล์ open air mall มีพื้นที่ร้านค้าเช่าอยู่นอกตัวอาคารหลัก โดยจะมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับโซนต่างๆ ชัดเจน ทั้งโซนที่เป็นกลุ่มพาร์ทเนอร์ชื่อดังอย่าง KFC, MK restaurant หรือ ร้านแว่นท็อปเจริญที่มีอยู่แล้ว ก็จะมีพาร์ทเนอร์รายใหม่ๆ ที่เพิ่งมาเปิดสาขาแรกใน Lotus’s ด้วยเช่นกัน เช่น Bonchon และ Salad Factory
อย่างที่คุณเบญจวรรณ อ่องศรี ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายศูนย์การค้าและพื้นที่เช่าโลตัส ได้กล่าวว่า “เป้าหมายการเป็น Smart Community Center ที่เป็นจุดศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทของลูกค้า นอกจากโลตัสจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพสูงครบครัน ยังต้องเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอื่นของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย”
“โลตัสไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้า มีการปรับศูนย์การค้าและพื้นที่เช่าที่เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่สำคัญหลังจากการแพร่ระบาดโควิด คือ ต้องปลอดภัยเมื่อออกมาช้อปปิ้งหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งพื้นที่แบบ open space มีการถ่ายเทอากาศสะดวก เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย”
แนวคิด Smart Community Center แหล่งโอกาสของ SMEs
อย่างที่เราหยิบ case โมเดลธุรกิจใหม่ของ Lotus’s ขึ้นมาแชร์ เหตุผลไม่ใช่แค่ดีไซน์พื้นที่ที่แตกต่างไปจากสาขาอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งความน่าสนใจที่เรามองว่า SMEs ไทยหรือผู้ประกอบการรายเล็ก-รายกลาง จะได้ประโยชน์อย่างมากจากโมเดลนี้ เพราะในโซนที่เป็น open air mall ได้จัดพื้นที่โดยเฉพาะสำหรับนักธุรกิจคนตัวเล็กด้วย ซึ่งจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทยที่มีกว่า 95% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมด ถือว่า Lotus’s ใส่ใจและอยากช่วยเหลือให้ธุรกิจทุกขนาดเติบโตไปด้วยกัน
ด้วยแนวคิดของ Lotus’s ที่ต้องการเป็นแหล่งศูนย์กลางสำหรับทุกคน ดังนั้น การตั้งเป้าหมายเป็น ‘food destination’ ใช้มุมของอาหารมาเชื่อมต่อกับทุกคน ทุก generation นับว่าเป็นความฉลาดในการเดินเกมกลยุทธ์ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ดี โดยพื้นที่ outdoor จะมีทั้งโซน food truck ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับศิลปิน, นักสร้างสรรค์ต่างๆ ในโซนของ ‘artist market’ ซึ่งกลุ่ม SMEs ของไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ทำธุรกิจแนวนี้ โดยพวกเขาสามารถนำผลงานมาแสดงโชว์ หรือจำหน่ายในตลาดได้ หากมองในมุมความได้เปรียบทั้งฝั่ง Lotus’s และฝั่งผู้ประกอบการ SMEs มองว่า win-win ทั้งคู่ เพราะ Lotus’s เองก็ได้ช่วยเหลือ ได้เพิ่มความหลากหลายให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ส่วนมุมของ SMEs ได้มีช่องทางจำหน่ายเพิ่ม มีรายได้เพิ่ม
จริงๆ แล้ว Lotus’s มีโครงการช่วยเหลือ SMEs อย่างต่อเนื่องอยู่แล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งล่าสุดก็มีจัดกิจกรรม SME Business Matching เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอสินค้ากับทีมงานจัดซื้อโดยตรง เพื่อวางจำหน่ายในสาขากว่า 2,100 แห่งทั่วประเทศรวมถึงช่องทางออนไลน์ ทั้งยังมีทีมงานที่ให้การสนับสนุนให้ความรู้ และช่วยให้คำปรึกษาเรื่องการทำแคมเปญโปรโมชั่นด้วย
ความเซอร์ไพรส์จากแนวคิดของ Lotus’s สาขานี้ยังไม่หมด เพราะว่าในโซน open air ที่เป็นพื้นที่ food truck market และ artist market จะมีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี เพื่อเติมสีสันความไม่จำเจและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าด้วย
สิ่งที่น่าสนใจของ Lotus’s สาขาเลียบคลอง 2 มีมากมายจนพูดไม่หมด หากสรุปภาพให้เห็นกันชัดๆ ว่าโมเดลธุรกิจนี้ว๊าวอย่างไร และแตกต่างจากสาขาอื่นมากขนาดไหน เราสรุปให้ตรงนี้
- Lotus’s สาขาแรก(นำร่อง) ออกแบบในสไตล์ open air mall ต่างจากสาขาอื่น ซึ่งมีพื้นที่ศูนย์การค้าทั้ง outdoor และ indoor
- Lotus’s เริ่มดึงพาร์ทเนอร์ธุรกิจรายใหม่ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เช่น Bonchon และ Salad Factory เข้าไปในสาขาแรก
- สำหรับ IT Zone ได้รวมร้านค้าชั้นนำ ทั้งจำหน่ายอุปกรณ์ IT และ gadget ครบครันมากกว่าเดิม
- มีโซน food truck market ที่เป็นแหล่งหารายได้ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และจะหมุนเวียนเปลี่ยนสลับเจ้าใหม่ๆ เข้ามาในพื้นที่ตรงนี้ตลอดทั้งปี
- มีโซน artist market เป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับคนในชุมชน, SMEs, หรือศิลปินหน้าใหม่ที่อยากจะมาลองตลาด ซึ่งจะสับเปลี่ยนตลอดทั้งปีเช่นกัน
- มีโซน relax โดยเฉพาะในพื้นที่ outdoor ซึ่งจะมีบริการโต๊ะ-เก้าอี้ สำหรับผู้ที่จะมาทานอาหาร, พักผ่อน, ทำกิจกรรม
- มี pet-friendly zone สำหรับคนรักน้องหมาน้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงทุกประเภท ซึ่งสามารถพาน้องๆ มาทำกิจกรรมกับเจ้าของได้
- Lotus’s สาขานี้ เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร มีสินค้าหลากหลายมากขึ้นแต่ยังคงคอนเซ็ปต์ครบครัน
- Lotus’s สาขาเลียบคลอง 2 เป็นสาขาแรกที่เปิดในปี 2565
- มีการเพิ่มร้านที่เปิดตั้งแต่เช้า เช่น Flash coffee และร้านอาหารที่ให้บริการถึงดึก เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า (มีบริการ True 5G ด้วย)
- Lotus’s ต้องการตอบโจทย์กลุ่มที่อยู่ในสังคมไร้เงินสด (cashless) มีบริการรับชำระเงินผ่าน e-money wallet และ true money wallet
ทั้งนี้ สาขาเลียบคลอง 2 เป็นเพียงสาขาแรกนำร่องเท่านั้น ซึ่งมองว่าแบรนด์ที่มีวิสัยทัศน์ไกลและหนักแน่นอย่าง Lotus’s จะมีสาขาอื่นที่ใช้โมเดลธุรกิจนี้อย่างแน่นอน เช่น สาขา นอร์ธราชพฤกษ์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งมีประกาศออกมาแล้วว่าจะพร้อมให้บริการในไตรมาส 3 ปีนี้ ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยว่ารูปแบบธุรกิจ Lotus’s สาขาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะ Smart Community Center เป็น vision สำคัญของปีนี้ ซึ่งเราน่าจะเห็นอะไรที่มันตอบความสมาร์ทในการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้นอีกจาก Lotus’s
