“ธุรกิจรีเทลยังไม่ตาย แต่รีเทลที่น่าเบื่อต่างหากที่จะตาย” เจาะลึก สิรินฉัตร แสงศรี แม่ทัพแห่งทีมการตลาดของเมกาบางนา จัดอีเว้นท์ให้ปัง มัดใจลูกค้า

  • 12K
  •  
  •  
  •  
  •  

Mega_01

ถนนบางนาตราด โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ถือเป็นทำเลที่ได้ชื่อว่า Hot & Sexy สุดๆ เพราะมีอัตราการเติบโตสูง ทั้งเรื่องจำนวนศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น ที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบ อาคาร-สำนักงาน รวมถึงระบบขนส่งรถไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนที่อาศัยอยู่โซนนี้ ทำให้โซนบางนากลายเป็นสนามการแข่งขันที่น่าสนใจในหลายธุรกิจ

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน เหมือนกับที่ “เมกาบางนา” เป็นศูนย์การค้ารายแรกที่ปักธงในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกมาแล้วถึง 6 ปี วันนี้เราได้พูดคุยกับ คุณสิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์การค้าเมกาบางนาเพื่อหาคำตอบว่าอะไรที่ทำให้เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าสำหรับทุกคนในครอบครัว และแข็งแกร่งท่ามกลางสมรภูมิค้าปลีกที่ดุเดือดในทุกวันนี้

ค้าปลีกยังแข่งกันดุเดือดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือขยายตัวออกนอก CBD

คุณสิรินฉัตร เล่าถึงภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกตอนนี้ว่า ที่ผ่านมาก็แข่งขันกันสูงตลอด เนื่องด้วยในบ้านเรามี Shopping Center หลายแห่ง ทว่า วันนี้การแข่งขันไม่ได้กระจุกอยู่ในตัวเมืองอีกต่อไป มีการขยายตัวไปยังนอก CBD รวมถึงในต่างจังหวัด เช่น โซนบางนา เมื่อก่อนใครๆ ก็มองว่าไกล แต่เดี๋ยวนี้การขยายตัวของเมืองเริ่มกระจายออกรอบนอก คนเริ่มออกมาอยู่อาศัย ทำงานและใช้ชีวิตนอกเมืองมากขึ้น ทำให้โซนนี้ที่เคยถูกมองว่าไกล ในปัจจุบันมันถูกย่นระยะเข้ามาใกล้ขึ้น จึงมีพร้อมทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เข้ามารองรับและตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแถบตะวันออกของกรุงเทพฯ หลายศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ก็พยายามจะรองรับความต้องการของลูกค้าและตอบโจทย์ให้ครบทุกด้าน เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการ Renovate ให้ทันสมัยขึ้น หรือในอนาคตอันใกล้ก็มีหลายแห่งที่วางแผนทยอยมาเปิดใหม่ โดยเรามองว่าเป็นข้อดีที่มีผู้เล่นหลายรายเล็งเห็นการเติบโตของโซนนี้ และเข้ามาเติมเต็มและสร้างความเป็น Destination ของโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกให้ชัดเจนขึ้น เสริมพื้นที่ให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง และเป็น Tourist Destination อีกแห่งของกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปถึงในเมือง เรามองว่าเป็นเรื่องดีที่จะมีเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น และทุกคนต่างก็เข้ามาช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กันและกันทำให้โซนตะวันออกของกรุงเทพฯ คึกคักและเป็น Destination ของการมา Shopping อย่างแท้จริง

กลยุทธ์การเป็นศูนย์การค้าสำหรับครอบครัว

Mega_02

ในย่างก้าวสู่ปีที่ 6 เมกาบางนาไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองสู่การเป็นสถานที่ที่สร้าง Experience ให้ลูกค้า ที่เป็นมากกว่าแหล่งช้อปปิ้ง ทานอาหาร แต่ครบด้วยทุกองค์ประกอบของการใช้ชีวิต หนึ่งในจุดแข็งของเมกาบางนาคือ การเป็นพื้นที่ของครอบครัว เน้นการใช้ชีวิตและเวลาอย่างมีคุณภาพ และเติมเต็มความสุขให้กับลูกค้า โดยเป้าหมายหลักในอนาคต คือการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้ เป็นเมืองขนาดย่อม ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟไสตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ภายใต้ชื่อโครงการ “เมกาซิตี้” โดยมีเมกาบางนาเป็นศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย และเป็นเมืองที่คนสามารถทำงานและพักอาศัย รวมทั้งช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ทำกิจกรรมสันทนาการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และใช้เวลากับครอบครัวอย่างคุ้มค่า โดยเราจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นหลายเฟส ซึ่งในที่สุดแล้ว โครงการเมกาซิตี้จะเป็นศูนย์รวมแห่งประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และสวนพักผ่อน บนพื้นที่ 400 ไร่ เราจะสามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า 250,000 คนต่อวัน ตามรูปแบบการพัฒนาแบบยั่งยืนในระดับเมือง

ซึ่งในปีนี้ เราจะเห็นความคืบหน้าของโครงการที่เริ่มผุดขึ้นมากมาย อาทิ The Marvel Experience Thailand แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามมาด้วยโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติดิษยะศริน กรุงเทพ ในเครือ The American School of Bangkok ที่จะเปิดภาคเรียนแรกในเดือนสิงหาคมนี้, อีกทั้งเราเตรียมจะสร้าง Mega Park พื้นที่สีเขียวขนาด 7 ไร่ ซึ่งจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะมานั่งเล่น พักผ่อน ทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ รวมถึงพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ และจะมีเครื่องเล่นต่างๆ ให้กับเด็กๆและทุกคนครอบครัวได้มาใช้เวลาดีดีร่วมกัน ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวปลายปีนี้ และยังมีMega HarborLand ที่เป็น Indoor Family Entertainment Complex ที่ใหญ่ที่สุดในกท.   ซึ่งเตรียมจะเปิดในปี 2562 เช่นกัน

อีคอมเมิร์ซจะเข้ามาทำให้ธุรกิจรีเทลตายหรือไม่?

Mega_03

คนส่วนใหญ่มักบอกว่าธุรกิจออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซจะเข้ามา Disrupt ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเรามองว่าออนไลน์เป็นตัวช่วยสำคัญในการส่งเสริมการขาย เราเชื่อว่าประสบการณ์ และขั้นตอนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจำนวนมากต้องเห็น สัมผัส หรือลองสินค้าจริงก่อนซื้อ ดังนั้น ศูนย์การค้าจึงเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดประสบการณ์ตรง จะบอกว่าจริงๆ แล้ว
“รีเทลยังไม่ตาย แต่รีเทลที่น่าเบื่อต่างหากที่จะตาย” ด้วยเหตุนี้ทำให้เมกาบางนาเดินหน้าจัดกิจกรรมและอีเวนท์

อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า  เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่ามาที่นี่แล้ว เขาได้เจอแต่สิ่งใหม่ๆ และประสบการณ์ดีดีเอากลับไป

Event Marketing กลยุทธ์หลักของเมกาบางนา

เมื่อไม่ต้องการเป็นศูนย์การค้าที่น่าเบื่อ เมกาบางนาจึงจัดอีเวนท์เกือบทุกเดือน ทุ่มงบการตลาดเพิ่มอีก 20% จากปีที่ผ่านมา ที่สำคัญทุกอีเวนท์ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า และสนับสนุนยอดขายของร้านค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ประสบความสำเร็จในทุกครั้ง อาทิ เดือนมกราคม กับงานวันเด็ก “เมกา คิดส์เวิลด์ 2018”, เดือนเมษายน งานสงกรานต์ “เมกา สงกรานต์: ม่วนขนาด สาดสนุก…สุขสุดใจ ปี๋ใหม่เมือง”, เดือนสิงหาคมกับ Signature Event ช่วงวันแม่ในงาน “Mega Food Fun Fin”, ต้อนรับวันฮาโลวีนในเดือนตุลาคมด้วยงาน “มหกรรมเล่นกับผีที่เมกาบางนา”, สำหรับสายดูแลสุขภาพ ในเดือนพฤศจิกายน กับงาน “Mega Sport Arena” และส่งท้ายปีด้วย End-Year Sale และ Mega Countdown ที่ติด Top 10 ของสถานที่เค้าท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนสนใจมาร่วมงานกว่า 350,000 คน

ช้อปมันส์ ช้อปฟรี กับ 10 ดาราดัง Mega shopaholic : Money Catch Up จัดทุกครั้ง “ปัง” ทุกปี

มาถึงช่วงกลางปี เป็นช่วงที่ไม่มีเทศกาลเฉลิมฉลองที่สำคัญ เป็นช่วงที่ศูนย์ต้องกระตุ้นอารมณ์หรือความต้องการจับจ่ายของผู้บริโภค แน่นอนว่าทุกคนต้องรอ Mid-Year Sale ที่เมกาบางนาจึงกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านแคมเปญการตลาด 2 ส่วนใหญ่ คือ แคมเปญโปรโมชั่น คือ “Mega Shopping Instinct” ร่วมกับพันธมิตร คือ บัตรเครดิตซิตี้ เอาใจนักช้อปด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 80% จากร้านค้าภายในศูนย์การค้า และกิจกรรมการตลาด คือ เมกา ช้อปอะฮอลิค ตอน มันนี่ แคช อัพ” (Mega Shopaholic: Money Catch Up) ที่ Signature Event จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตอกย้ำแนวคิดของเมกาบางนา ที่มุ่งมั่นสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับลูกค้าในทุกครั้งที่มาใช้บริการ ประสบความสำเร็จสูงสุดในทุกครั้ง จัดกี่ครั้ง “ปัง” ทุกครั้ง ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า และสนับสนุนยอดขายของร้านค้าได้เป็นอย่างดี

Mega_04 Mega_05 Mega_06

เนื่องจากผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เมกาบางนาจึงสร้าง Engagement กับผู้บริโภค ด้วยการได้ใกล้ชิดกับดาราที่ชื่นชอบ ในปีนี้จึงเปิดตัว 10 ดาราสุดฮอตเป็นแรงดึงดูดให้แคมเปญน่าสนใจขึ้น อาทิ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ, ดีเจนุ้ย, รัศมีแข, โอ๊ต ปราโมทย์, ตู่ ภพธร และ ว่าน ธนกฤต เป็นต้น โดยลูกค้าผู้โชคดีจะได้จับคู่กับดารา ทำกิจกรรมและช้อปฟรีไปด้วยกัน เพื่อชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท อาทิ กิจกรรม Money Catch Up: ภารกิจคว้าเงินช้อป ท้าทายความไวด้วยการคว้าเงินในตู้ลม สูงสุดถึงรอบละ 50,000 บาท  และ กิจกรรม Black Friday: วิ่งช้อป… คว้าแชมป์ พิสูจน์ความสามัคคีของนักช้อปกับนักแสดงด้วยการผูกขาช้อปปิ้งด้วยกัน ที่ทั้งลุ้นและฮา กับการพิชิตภารกิจช้อปภายใต้เวลาที่กำหนด

ในปีที่ผ่านมา คุณสิรินฉัตร เผยว่า มีผู้ส่งคูปองร่วมสนุกกว่า 1 แสนใบ ปีนี้จึงตั้งเป้าไว้ที่ 150,000 -200,000 ใบ และคาดว่าจะเพิ่ม Traffic ให้เมกาบางนาได้ 5-10% จากฐานลูกค้าที่มาเมกาบางนาเฉลี่ย 3,500,000 คนต่อเดือน

อะไรที่ลูกค้าต้องการจะลงมือทำทันที

หากมองตั้งแต่ปีแรกจนถึงวันนี้ จะเห็นว่าเมกาบางนามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่สิ่งที่เราคำนึงถึงตลอดคือ Journey ของลูกค้า ตั้งแต่เรื่องการเดินทาง ไปจนถึงการคัดสรรร้านค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกคนในครอบครัว ทำให้เมกาบางนามีลูกค้าที่เป็น Loyalty เหนียวแน่นจำนวนมาก นอกจากนี้ คุณสิรินฉัตร กล่าวเสริมว่า เมกาบางนาให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของช่วงเวลาแห่งความสุข (Quality Time) เราต้องมั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกมาเมกาบางนาต้องได้รับประสบการณ์ดีกลับไป ไม่ว่าจะมาเพื่อช้อปปิ้ง ผ่อนคลาย หรือทำกิจกรรมต่างๆและได้รับการดูแลอย่างดีจากพนักงานทุกคน

Mega_07

ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเมกาบางนาในการสร้างความยั่งยืนด้วยตัวเองบนพื้นที่กว่า 400 ไร่ เพื่อยกระดับศูนย์การค้าเมกาบางนาให้เป็นศูนย์กลางของโครงการเมกาซิตี้ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นศูนย์การค้าสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง


  • 12K
  •  
  •  
  •  
  •