จับตา AI และ Cloud เครื่องมือสำคัญที่ Microsoft พุ่งเป้าเจาะธุรกิจสู่ Born in Thailand พร้อมเสริมทักษะดิจิทัล 1 ล้านคน

  • 16
  •  
  •  
  •  
  •  

เดี๋ยวนี้ธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยี AI และ Cloud เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะ Generative AI สำหรับการสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว AI และ Cloud ยังสามารถถูกพัฒนาเพื่อนำไปใช้กับอุตสาหกรรมอย่างอื่นได้อีกด้วย เช่น ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ AI ช่วยให้การสื่อสารทำได้สะดวกมากขึ้น อุตสาหกรรมการเกษตรที่ AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์พืชที่เหมาะสมการปลูกจากข้อมูลดินและความต้องการของตลาด

โดยทาง คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า AI และ Cloud จากนี้ไปจะมีบทบาทใน Real Sector มากขึ้น และจะช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์ธุรกิจหรือการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้น และช่วยเปลี่ยนผ่านภาพของประเทศไทยที่เคยเป็นการรับจาางผลิตในรูปแบบ Made in Thailand ไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ถูกนำไปใช้ในธุรกิจต่างๆ ในรูปแบบ Born in Thailand ผ่าน Startup ที่นำ AI ไปพัฒนาต่อยอดเป็นแอปฯ ต่างๆ

คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

 

เปิดวิสัยทัศน์ AI for All Thais

จากการมาเยือนประเทศไทยของ นายสัตยา นาเดลลา CEO ของ Microsoft และประกาศพันธสัญญาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตในยุค AI และ Cloud โดยจะผสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อยกระดับประเทศไทย รวมถึงยังมีแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน Data Center Region เพื่อขยายการให้บริการคลาวด์จากไมโครซอฟท์ให้กว้างขวางและทั่วถึงยิ่งขึ้น รองรับมาตรฐานของประเทศไทยด้านการจัดเก็บและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างครบถ้วน

ส่งผลให้ Data Center จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาสร้างโอกาสให้คนไทยและประเทศไทยสู่ความสำเร็จบนเวทีโลก จนเกิดเป็นวิสัยทัศน์ “AI for All Thais” ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก

  • การสร้างทักษะ AI เพื่อพัฒนาบุคลากรให้เกิดความสามารถทางด้าน AI
  • เสริมขีดความสามารถ ให้เกิดการนำAI ไปใช้ในวงกว้าง
  • สานต่อความมั่นคง เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ

 

เสริมสร้างทักษะด้าน AI 1 ล้านคน

จากข้อมูลของ World Digital Competitiveness Ranking 2023 พบว่า แม้ประเทศไทยจะขยับจากลำดับที่ 40 ขึ้นมาอยู่ที่ลำดับ 35 แต่พบว่า ทักษะการใช้งานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่พื้นบ้านอย่างมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 33 และอินโดนีเซียอยู่ในลำดับที่ 45 และมีแนวโน้มจะขยับเพิ่มมากขึ้น ทำให้ Microsoft ต้องเร่งพัฒนาทักษะการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับคนไทย

ส่งผลให้ Microsoft เตรียมเปิดตัวโครงการ “AI National Skill Initiative” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนทักษะ AI ที่จำเป็นให้กับคนไทย 1 ล้านคนภายใน 1 ปี โดยเฉพาะการ Prompt ใช้งาน AI และอีกหลากหลายหลักสูตรฝึกอบรมที่จะมีการแปลงให้เป็นหลักสูตรภาษาไทยกว่า 80% ซึ่งออกแบบให้ครอบคลุมผู้ใช้งานทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้งานทั่วไป ผู้บริหาร และนักพัฒนา เพื่อนำศักยภาพของ AI ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงาน ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ด้วยฝีมือคนไทย

โดยจะเน้นไปที่ 3 กลุ่มหลักทั้ง

  • กลุ่ม Developer ที่จะนำเทคโนโลยี AI ไปพัฒนาสู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ
  • กลุ่ม User ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • กลุ่ม Under Serve เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ที่ช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ

 

เสริมขีดความสามารถการใช้งาน AI

นอกจากการพัฒนาทักษะด้าน AI แล้ว Microsoft ยังส่งสริมศักยภาพให้กับคนไทยและองค์กรไทยสามารถประยุกต์การใช้งาน AI เพื่อนำไปใช้งานในวงกว้าง ทั้งระดับบุคคลและองค์กร

  • ระดับบุคคล: ซึ่ง Microsoft พร้อมขับเคลื่อนการใช้งาน AI ให้กับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น บุคคลทั่วไป นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ข้าราชการ และอีกมากมาย โดยเปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงเครื่องมือและประสิทธิภาพของเครื่องมือและบริการด้าน AI อย่าง Copilot บน Windows และ Edge, Microsoft Designer บนแอปพลิเคชันและผ่านเว็บ
  • ระดับองค์กร: พร้อมผลักดันให้ AI กลายเป็นผู้ช่วยที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการดำเนินงานให้กับองค์กรยุคใหม่ และช่วยรับมือความท้าทายต่างๆ ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก ผ่านนวัตกรรมโซลูชันที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความคล่องตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค

ยกตัวอย่างการใช้งาน AI ในองค์กร เช่น การนำ AI ตรวจสอบสินค้าที่ขายดีที่สุดเพื่อช่วยการวางแผนการขาย หรือการนำ AI มาใช้กับกลุ่มงาน HR เพื่อคนหาผูสมัครงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ และสามารถส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ ช่วยเพิ่มโอกาสการสมัครงานมากขึ้น ซึ่ง Microsoft มองว่า AI ไม่ใช่เรื่องของ IT แต่เป็นเรื่องของการบริหารธุรกิจเป็นหลัก

 

สานต่อความปลอดภัยเพื่อความมั่นใจ

นอกจากประสิทธิภาพการใช้งานแล้ว Microsoft ยังให้ความสำคัญในเรื่องของระบบ Security เพราะความปลอดภัยคือประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งที่ทุกผลิตภัณฑ์ ทุกบริการด้านเทคโนโลยีจะต้องมี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความไว้วางใจ และมั่นใจในการใช้งาน AI เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนั้นๆ

โดยเรื่องของความปลอดภัย Microsoft ตั้งอยู่บนแนวคิด 3 ด้าน

  • Secure by Design
  • Secure by Default
  • Secure Operation

ที่สำคัญ Microsoft ยังได้ขยายความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ เสริมทักษะด้านการใช้ AI เพื่อความปลอดภัยไซเบอร์ และแนวทางการใช้งาน AI อย่างถูกต้อง ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ

ด้วยวิสัยทัศน์ FY 2025 ของ Microsoft ส่วนหนึ่งเป็นการพัฒนาบุคลากรด้าน AI ของไทย แต่หากมองภาพใหญ่จะเห็นว่าการพัฒนาทักษะนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถสร้างผลิตผลทางด้านเทคโนโลยีของไทยออกสู่ตลาดโลก (Born in Thailand) เปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมที่ทั่วโลกมองประเทศไทยเป็นผู้ผลิต (Made in Thailand) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายการพัฒนาทักษะด้าน AI ให้ถึง 1 ล้านคนที่ถือเป้นความท้าทาย เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการที่ 1 ล้านคนต้องสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยได้ด้วย


  • 16
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา