น้ำแร่ไทยคุณภาพติดอันดับโลก เมื่อ Mont Fleur คว้ารางวัล 2 ปีซ้อนรายแรกของไทย

เป็นที่ทราบกันว่า “น้ำ” มีความสำคัญต่อชีวิต โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในการบริโภคถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องสะอาดจริงและบริสุทธิ์ไม่มีเชื้อโรคหรือสิ่งเจือปน แต่จะมีอะไรที่ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำที่อยู่ในมือสะอาดจริง ดื่มได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้จะมีการดื่มโชว์ที่แสดงให้เห็นถึงความใสสะอาด แต่เพราะน้ำต้องดื่มเข้าสู่ร่างกาย แล้วจะมีอะไรมากล้ารับประกันได้ว่า น้ำนั้นผลิตมาจากแหล่งที่สะอาดจริง

หลายคนจึงมักเลือกดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการผลิตเพราะมั่นใจในความสะอาด แต่สิ่งที่หลายคนต้องตระหนักคือแหล่งน้ำดิบที่นำมาใช้ในการผลิตมาจากแหล่งใด และมีความสะอาดมากเพียงพอต่อการบริโภคหรือไม่ หากไม่มั่นใจก็ยังมีทางเลือกให้กับคนที่ใส่ใจในเรื่องของความสะอาด แถมยังมีแร่ธาตุเสริมที่ร่างกายต้องการอย่าง “น้ำแร่”

น้ำแร่ที่หลายคนเข้าใจมักจะผลิตจากแหล่งน้ำธรรมชาติในต่างประเทศ นั่นจึงทำให้ทัศนคติในเรื่องน้ำแร่ของหลายคนเข้าใจว่าเป็นน้ำที่มีราคาแพงและไม่แตกต่างจากน้ำดื่มปกติทั่วไป แต่ในความเป็นจริงน้ำแร่เป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ โดยในประเทศไทยก็มีแหล่งน้ำแร่ที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับน้ำแร่จากแหล่งในต่างประเทศ ที่สำคัญเพราะเป็นแหล่งน้ำแร่ที่อยู่ในประเทศไทย ราคาจึงใกล้เคียงกับน้ำดื่มปกติ

แล้วถ้าพูดถึงน้ำแร่จากแหล่งในประเทศไทยก็ตามบอกว่า “Mont Fleur” เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแล้วว่า เป็นน้ำแร่ที่มีคุณภาพและคุณสมบัติเทียบเท่ากับแหล่งน้ำแร่ระดับโลกบนทวีปยุโรป โดย Mont Fleur ผลิตจากแหล่งน้ำแร่ใน อ.พบพระ จ.ตาก

โดย คุณผาสุข รักษาวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า “เดิมสหพัฒน์ฯ นำเข้าน้ำแร่จากต่างประเทศ แต่ด้วยตอนนั้นมีเรื่องของค่าเงินบาทลอยตัวเลยทำให้น้ำแร่เอเวียงที่นำเข้ามามีราคาแพง

ในช่วงเวลานั้นที่มีการเริ่มสำรวจหาแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยพบว่าแหล่งน้ำแร่ที่ดีที่สุดในไทยเท่าที่สำรวจพบเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่แหล่งพบพระ หรือ อ.พบพระ จ.ตาก และได้เริ่มดำเนินกิจการน้ำแร่มาตั้งแต่ปี 2539”

พร้อมทั้งนำตัวอย่างน้ำผ่านกระบวนการตรวจสอบในห้องวิจัยที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผลปรากฎว่ามีคุณภาพเทียบเท่าน้ำแร่ในยุโรป ในเวลาต่อมาก็มีการตั้งชื่อแบรนด์ว่า Mont Fleur

ล่าสุดปีนี้ Mont Fleur ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์น้ำแร่ดีเด่นระดับ 3 ดาว Gold Awards (Superior Taste Awards) เป็นปีที่ 2 จากสถาบัน iTQi (The International Taste & Quality Institute) ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลจะต้องได้คะแนนการทดสอบระดับ 90 คะแนนขึ้นไป การทดสอบจะถูกทดสอบโดยเชฟมิชลินและซอมเมอลิเย (Sommeliers) หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์และเครื่องดื่มมาทำการทดสอบ โดยใช้ผู้ทดสอบประมาณ 150-200 คน แบบการไม่เห็นแบรนด์ (Blinded Test)

ในปีนี้ Mont Fleur ผ่านการทดสอบด้วยคะแนนระดับ 95.1 ถือเป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าวถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ในปีหน้า หาก Mont Fleur ได้รับรางวัลอีกครั้ง ก็จะกลายเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่ได้รับรางวัล Crystal Awards

“สาเหตุที่ทำให้ Mont Fleur ผ่านการทดสอบเป็นเพราะแหล่งน้ำแร่ที่ใช้มีความบริสุทธิ์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 379 เมตร โดยอยู่ห่างไกลจากโรงงานและชุมชน นอกจากนี้ยังมีเรื่ององค์ประกอบของแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำได้สัดส่วนสมบูรณ์ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์น้ำแร่ดังระดับโลก จะมีสัดส่วนเกลือแร่ที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะสัดส่วนระหว่างแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ทำให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ทั่วโลก”

 

ไม่เพียงเท่านั้นกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ก็มีความสำคัญ โดย Mont Fleur มีกระบวนการที่ได้มาตรฐานและทันสมัย ซึ่ง Mont Fleur ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานจากหลายสถาบันในประเทศไทย นี่จึงทำให้ Mont Fleur มีรสชาติที่ยอดเยี่ยม

“จุดเด่นหนึ่งของ Mont Fleur คือเรื่องของรสชาติ นั่นจึงทำให้เราใช้ข้อความในการสื่อสารว่า ‘น้ำแร่ไม่เหมือนน้ำธรรมดา Mont Fleur เป็นน้ำแร่ที่มีรสชาติดี’ นอกจากนี้เราจะเน้นไปที่เรื่องกลยุทธ์การสร้างแบรนด์มากกว่ากลยุทธ์ด้านราคา พร้อมทั้งการกระจายสินค้าไปยังทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารที่ Mont Fleur อาจจะยังเข้าไปไม่ครบถ้วน”

นั่นจึงทำให้ Mont Fleur วางตำแหน่งสินค้าเป็นน้ำแร่ที่มีราคาแพงสุด เพราะแหล่งน้ำที่ใช้เป็นแหล่งน้ำที่ดีอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ เพราะความห่างไกลนี่เองทำให้เกิดต้นทุนค่าขนส่ง โดยเป้าหมายของ Mont Fleur คือการเปลี่ยนจากการดื่มน้ำธรรมดาหรือแบรนด์อื่น ให้มาดื่ม Mont Fleur มากขึ้น ผ่านการสื่อสารถึงจุดเด่นของ Mont Fleur ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม

โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของ Mont Fleur จะเป็นกลุ่มคนที่ดูแลและรักษาสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้ยังแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยภาพยนตร์โฆษณาจะใช้ตัวแทนภาพลักษณ์เพื่อเจาะเข้าไปทั้ง 3 กลุ่ม อย่างเช่นที่ผ่านมาตัวแทนในการสื่อสารเป็น คุณไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช ที่มาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ทันสมัย ตามด้วย คุณหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา เป็นตัวแทนของกลุ่มคน Aging และล่าสุด มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นตัวแทนในการสื่อสารไปยังกลุ่มนักธุรกิจ

สำหรับตลาดรวมน้ำแร่ในประเทศไทยมีขนาด 4,000 กว่าล้านบาท โดยในปีนี้ Mont Fleur มีอัตราเติบโตสูงถึง 27% และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 16%-17% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ Mont Fleur เข้าไปในตลาดเพื่อนบ้านเป็นหลักทั้งลาว กัมพูชา พม่า รวมไปถึงสิงคโปร์ ซึ่งมีอัตราเติบโตทุกปี นอกจากนี้จะมีการสร้าง Awareness ในเรื่องของรางวัลที่ได้รับมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ

“เราจะใช้ภาพยนตร์โฆษณาที่ฉายในประเทศไทยไปโฆษณาต่างประเทศด้วย เนื่องจากประเทศที่เราไปทำตลาดอย่างลาว กัมพูชาและพม่า ก็สามารถรับชมรายการทีวีของไทยได้ เราจึงไม่จำเป็นต้องใช้ผู้มีชื่อเสียงในประเทศนั้นๆ เพื่อมาโฆษณา นอกจากนี้ยังนำเรื่องของรางวัลที่ได้มาโปรโมทเพื่อให้ผู้บริโภคในต่างประเทศมั่นใจในผลิตภัณฑ์ Mont Fleur อีกด้วย”