ประธานโนเบิลฯ ชี้แจงซื้อหุ้นล็อตใหญ่จากผู้ถือหุ้น พร้อมประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ให้สิทธิผู้ถือหุ้นทุกรายที่สนใจตอบรับคำเสนอซื้อในราคาเดียวกัน ตอกย้ำความเป็นเอกภาพและมั่นคงของโครงสร้างผู้ถือหุ้น เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงเพื่อผู้บริโภคมากขึ้น
นายกิตติ ธนากิจอำนวย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าวันนี้ (12 มิถุนายน 2561) ได้แจ้งแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่านายกิตติ ธนากิจอำนวย และ nCrowne Pte. Ltd ได้ซื้อหุ้นโนเบิล (NOBLE) จากผู้ถือหุ้น จำนวนรวมทั้งสิ้น 224,288,798 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 49.14 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 12.25 บาท
“การซื้อหุ้นโนเบิลในครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส โดยหลังจากซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวนี้แล้ว นายกิตติจะเปิดทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไป (Tender Offer) เพื่อให้โอกาสอันเสมอภาคกับผู้ถือหุ้นทุกท่าน อันเป็นการดำเนินการด้วยความยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน”
การทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไปจะเป็นในราคาหุ้นละ 12.25 บาท โดยไม่จำกัดจำนวน และได้แจ้งไปยัง ตลาดหลักทรัพย์ฯและก.ล.ต.ไปแล้ว ตามแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์ (247-3) ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2561 สำหรับระยะเวลาการรับซื้อจะแจ้งเมื่อยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มิถุนายน 2561 นี้
โดยได้มอบหมายให้บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ หลังจากเสร็จสิ้นการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ในครั้งนี้ นายกิตติยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ อย่างไรก็ดี เมื่อสิ้นสุดการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แล้วจะรายงานสรุปจำนวนหุ้นให้ชัดเจนต่อไป
“ผมมั่นใจว่าการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ในครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจในเรื่องความเป็นเอกภาพและความมั่นคงของบริษัทฯ แบรนด์ “โนเบิล” จะมีความแข็งแกร่ง ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น เรายังคงเป็นผู้นำในการเสนอแนวคิดใหม่ๆของการอยู่อาศัยที่แตกต่างด้วยดีไซน์และนวัตกรรม มาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง”
ที่ทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นำความเติบโตที่มั่นคงเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ถือหุ้นและสังคมได้อย่างดีต่อไป ในอนาคตเราจะสร้างสรรค์โครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ครอบคลุมทั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวซึ่งเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์พร้อมอยู่แล้ว” นายกิตติกล่าวสรุป
อนึ่ง ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2561 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประสพความสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครได้ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว โนเบิล แจ้งวัฒนะ และ โนเบิล อราวด์ อารีย์ เป็นมูลค่ารวมกว่า 5,700 ล้านบาท