ชวนคุยกับ 2 ผู้ก่อตั้ง ‘SOUR Bangkok’ เอเจนซี่ผู้หญิงถึงการก้าวสู่ปีที่ 3 ซึ่งจะเพิ่มดีกรีความเปรี้ยวและแซ่บกว่าเดิม

  • 192
  •  
  •  
  •  
  •  

กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 3 แล้ว สำหรับ ‘SOUR Bangkok’ เอเจนซี่ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า เป็นเอเจนซี่สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ทั้งด้านการสร้างสรรค์งาน และการกระโดดไปทำงานนอกกรอบการเป็นเอเจนซี่ กับการสวมบทบาท Creator ของ ‘เด็กใหม่ เดอะ ซีรีส์’ ที่ต้องบอกว่า กระแสเปรี้ยงเลยทีเดียว

sour

ทาง Marketing oops จึงชวน 2 ผู้ก่อตั้ง คุณเล็ก-ดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนาCo-founder and Executive Creative Director และ คุณบี-พิมพ์มาศ ลีนุตพงษ์Co-founder and Managing Director แห่ง SOUR Bangkok (บริษัท เซาเออร์ บางกอก) มานั่งคุยกันแบบ exclusive ในหลายประเด็น พร้อมมาอัพเดทความเคลื่อนไหวของแวดวงเอเจนซี่ในมุมองของทั้งสองด้วย

“ลูกค้าเยอะมาก จนไม่รู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี หรือวงการโฆษณาอยู่ในช่วงยากลำบาก อาจเป็นเพราะเรามีโพซิชั่นชัดเจน คือ เป็นเอเจนซี่ที่เจาะผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ลูกค้ามองหา specialist ง่าย ๆ ใครอยากเข้าถึงลูกค้าผู้หญิงต้องมาหาเรา” คุณเล็ก เริ่มต้นอัพเดทถึงภาพรวมของ SOUR Bangkok ให้เราฟัง

ขณะที่ คุณบี บอกว่า “ช่วงปีแรก ๆ คนอาจงงอยู่ว่า เราคืออะไร แต่ตอนนี้ลูกค้าเข้าใจแล้ว เราเองเคยถามลูกค้าว่า รู้จักเราจากที่ไหนถึงสนใจ คำตอบคือ รู้จักจากผลงาน และการเป็น specialist ที่มีจุดยืนชัดเจน ทำให้เราพอใจกับ 2 ปีที่ผ่านมามาก ทั้งในเชิงรางวัลที่ได้รับ และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาตลอด เรียกได้ว่า หัวกะไดไม่แห้ง”

Stand for women จุดยืนที่ไม่เปลี่ยน

คุณบี – ปีนี้เรากำลังจะก้าวสู่ปีที่ 3 เรายังคงย้ำจุดยืนเดิม คือ เป็นเอเจนซี่ที่ชำนาญและเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง ซึ่งในปีที่ 3 เรามีแผนจะพัฒนาดาต้าและเครื่องมือที่จะหาข้อมูลเชิงลึกเป็นของตัวเอง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับพาร์ทเนอร์อยู่ เหตุผลที่ต้องการมีดาต้าและเครื่องมือในการเจาะลึกของตัวเอง เพราะเราต้องการช่วยให้ลูกค้ารู้ insight  ของผู้หญิงจริง ๆ ดังนั้นสิ่งที่เราจะพัฒนามาจะเน้นในเชิงวิเคราะห์ ส่วนงานของเราจะยังคงคาแรคเตอร์ตามความของ Sour คือ ทั้งเปรี้ยวและแซ่บกว่าเดิม

นอกจากนี้มีแผนจะเพิ่มทีมภายในปลายปีนี้ เพื่อให้สามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาต้องปฏิเสธลูกค้าไปหลายราย เพราะคนไม่พอ

คุณเล็ก– จุดยืนของเราตั้งแต่วันแรก และพยายามสร้างต่อไป คือ SOUR Bangkok จะเป็นอะไรที่ Stand for women วิธีการทำงานของเรา จะต่างจากเอเจนซี่ใหญ่ที่เอาแบรนด์เป็นที่ตั้ง แต่เราจะโฟกัสและเอากลุ่มเป้าหมายเป็นที่ตั้ง แล้วจะทำอะไรรอบ ๆ ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น คอมมูนิเคชั่น , โปรดักท์ ดีไซน์ , เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ , แฟชั่น เราทำอะไรก็ได้รอบ ๆ ความสนใจของผู้หญิง

ลูกค้าตอนนี้มีหลายราย อาทิ คิวท์เพรส , แสงโสม ,GMM GRAMMY ที่จับมือกันทำซีรีส์ ‘เด็กใหม่’ ด้วยกัน และมีลูกค้าอื่น ๆ อาทิ เครื่องสำอางที่กำลังจะเปิดตัว , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะเริ่มทำโปรเจ็คกันต่อ และมีบริษัทอสังหาฯที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะ

จากเอเจนซี่โฆษณากระโดดไปทำซีรีส์ ‘เด็กใหม่’

เด็กใหม่

คุณเล็ก หลายคนถามเยอะมากว่า เราเป็นเอเจนซี่มาทำซีรีส์ทำไม เพราะมันนอกกรอบการทำงานของเอเจนซี่มาก อย่างที่บอกหลักคิดและการทำงานของเรา คือ ทำอะไรก็ได้รอบ ๆ ความสนใจของผู้หญิง ไม่จำกัดรูปแบบ

อย่างการจับมือกับGMM GRAMMY ทำเด็กใหม่ซีรีส์แนว Mysterious-fantasy หรือแนวลึกลับแฟนตาซี มีความยาว 13 ตอน เราวางชัดเจนว่า เป็นซีรีส์สำหรับผู้หญิงเพื่อผู้หญิง และสิทธิสตรี ตามจุดยืนของเรา ขณะที่ทาง  GMM GRAMMY มีโจทย์ต้องการเจาะกลุ่มนี้เหมือนกัน ถึงเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้น ซึ่งผลตอบรับถือว่าดีมาก

ในอนาคตเราอาจมีอะไรใหม่ ๆ ออกมาอีก อย่างตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับบริษัทผลิตซีรีส์ยักษ์ใหญ่จากเกาหลี ที่อาจจะเห็นความร่วมมือในการผลิตซีรีส์ร่วมกัน

ตอนนี้เอเจนซี่ใหญ่ขยับตัวมากขึ้น เรากังวลกับการแข่งขันหรือไม่

คุณบี การแข่งขันเป็นเรื่องปกติในทุกวงการการที่เราเป็นเอเจนซี่เล็ก ทำให้การทำงานเราคล่องตัว ทำงานได้สนุกเป็นอิสระ เรียกว่า กบฏนิด ๆ และการที่เราวางจุดยืนชัดเจน ยิ่งทำให้ลูกค้าเห็นความต่างจากเอเจนซี่อื่นชัดเจน อย่างที่บอกลูกค้ามาหาเราตลอด จนเราต้องปฏิเสธไปหลายรายและงานเราได้รับรางวัล ทำให้เราคิดว่า เรามาถูกทางแล้ว

a3

คุณเล็ก– ช่วงที่ผ่านมาเอเยนซี่ใหญ่มีการขยับมากขึ้น ขณะที่เอเจนซี่อิสระที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะก็เกิดมากขึ้นด้วยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะกลุ่มผู้หญิง มีหลายด้านทั้งดิจิทัล ทั้งด้าน storytelling เป็นต้น เพราะลูกค้ามองหา specialist  อีกอย่างมาจากปัจจุบันมี SME เกิดขึ้นเยอะ ซึ่งเวลาทำงานเขาอยากได้อะไรที่คุยกับเจ้าของโดยตรงแล้วจบ ทำให้การตัดสินใจได้ง่ายและ move on ได้เร็ว ไม่ต้องผ่านหลายเลเยอร์เหมือนการทำงานกับเอเจนซี่ใหญ่ ๆ ที่วิธีการทำงานจะมีระบบและกรอบของตัวเอง

ส่วนราคามีผลต่อการเลือกใช้หรือไม่ เราไม่ถูกนะ(หัวเราะ) จริง ๆ ราคาไม่มีผล หากลูกค้าชอบและเห็นศักยภาพของงาน สามารถใช้งบได้คุ้มค่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และจริง ๆ การแข่งขันเกิดขึ้นพร้อมกับความร่วมมือ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลง คือ แม้เอเจนซี่เล็ก ๆ จะเกิดขึ้นมาก แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกัน กลับเป็นพาร์ทเนอร์กัน เช่น CJWORK มีโปรเจ็คของเอพี(ไทยแลนด์) ก็ให้บริษัท  STORYTELLER ดู branding และดึงพาร์ทเนอร์อื่น ๆ ที่มีความชำนาญแต่ละด้านมาร่วมทำโปรเจ็ค

ผลกระทบจาก Digital Disruption

คุณบี– พวกเทคโนโลยีส่วนใหญ่ช่วยเรื่องดาต้า อย่าง AI ก็ช่วยเรื่องดาต้า แต่โจทย์ทุกโจทย์ต้องอาศัย creativity ในการคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ ซึ่งสุดท้ายต้องใช้คน และตอนนี้ลูกค้ายังใช้เอเจนซี่อยู่ เพราะเขาเชื่อว่า เราจะคิด Business Solution ให้ได้ และตามธรรมชาติคนเอเจนซี่จะมีความคิดครีเอทีฟอยู่แล้ว เพียงหยิบเทคโนโลยีมาช่วยให้ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณเล็ก– เคสนี้เคยพูดให้น้อง ๆ ในออฟฟิคฟัง คือ AI ในไทยกับต่างประเทศยังเทียบกันไม่ได้ ไทยยังอยู่ในช่วงเรียนรู้ และยังไม่เห็นเคสไหนที่ทำออกมาแล้วเป็นรูปธรรมในเรื่องเทคโนโลยี ในทางกลับกันถ้าเทคโนโลยีดีจริง คำถามคือ จะใช้ให้เป็นไอเดียได้อย่างไร ยังต้องใช้   creativity อยู่ดี ดังนั้นคนต้องเท่าทันเทคโนโลยี ต้องเข้าใจและเอามาใช้ให้ถูก

การรุกคืบเข้ามาของ Tec Company ในธุรกิจโฆษณา

คุณบี – ส่วนตัวมองเป็นเรื่องที่จับตา แต่อย่ากังวลหรือกลัว ถ้าคุณสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีจุดแข็งของตัวเอง สิ่งที่ต้องทำ คือ ต้องเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี แล้วนำมาประยุกต์ใช้เสริมการ creativity ต่าง ๆ ให้ได้

คุณเล็ก –  จริง ๆ เรื่องนี้มีกระแสมา 2 ปีแล้ว คือ พวก Tec Company ดึงตัวคนจากเอเจนซี่เข้าไปเยอะมาก เพื่อเปิดแผนกของตัวเองมาแข่งกับเอเจนซี่ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน ยังเป็นช่วงจับตามองอยู่

ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า ลูกค้าเริ่มทำงานกับพวก Tec Company โดยตรงไม่ผ่านเอเจนซี่ อย่างเคสของอเมซอนที่พยายามทำอยู่ เราต้องถามกลับว่า ทำไมลูกค้าไม่ใช้เอเจนซี่ อาจเพราะทำงานไม่เวิร์ค ไม่ตอบโจทย์หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คือ เราต้องกลับมาถามตัวเองมากกว่าว่า เราทำงานตอบโจทย์ได้ดี มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าหรือไม่

IMG_2068

เอเจนซี่จะอยู่รอดต่อไปได้อย่างไร

คุณเล็ก– เอเจนซี่ต้องเริ่มซีเรียสแล้วว่า จะต้องหาความเชี่ยวชาญของตัวเองไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดไหน จะใหญ่หรือเล็ก เนื่องจากงานสมัยใหม่ ‘แบรนด์’ ไม่ได้เป็นที่ตั้งอีกต่อไป แต่กลายเป็น‘คอนซูเมอร์’ มันเปลี่ยนมาได้ 3-4 ปีแล้ว หมายความว่า เราจะแมทช์กลุ่มเป้าหมายกับความเชี่ยวชาญของเราได้อย่างไร เพื่อให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ เพราะตอนนี้งานโฆษณาเกินคำว่า ไวรัลหรืออะไรเดิม ๆ แล้ว ตอนนี้ต้องสร้างฟอร์แมทใหม่ ๆ ในแก้ปัญหาหรือตอบโจทยที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งการทำได้ ต้องกลับมาที่ตัวเองเชี่ยวชาญอะไร แล้วกระจายรอบ ๆ ความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร เป็นสิ่งที่เอเจนซี่ต้องขยับ

ที่แน่ ๆ คือ ไม่ได้แข่งกับรายอื่น อย่างเราเอง จับมือกับ GMM GRAMMY ทำซีรีส์ สำหรับผู้หญิง เพราะมีจุดหมายเดียวกัน คือ GMM GRAMMYต้องการจับกลุ่มผู้หญิง เรามีความเชี่ยวชาญด้านนี้ ดังนั้นสิ่งที่เอเจนซี่ต้องเดินไป คือ ทำอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมานำเสนอ สร้างธุรกิจหรือแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพื่อสร้างไอเดียไปแก้ปัญหาและตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการบางรายอาจถึงขั้นพัฒนาโปรดักท์ให้ลูกค้า

คุณบี– เรามองเป็นความท้าทายที่น่าจับตามอง แต่ไม่ได้หมายความว่า เราต้องกลัว เพราะเชื่อในสิ่งที่ทำและทิศทางของตัวเองว่า มาถูกทางแล้ว เห็นได้จากจำนวนลูกค้า การปากต่อปาก และรางวัลที่ได้รับ

สำหรับ SOUR Bangkok เอง ทั้งคุณเล็กและคุณบี  ย้ำว่า ยังคงเดินด้วยจุดยืนเดิม คือ ‘เอเจนซี่ที่ชำนาญและเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง’ ที่แนวคิดและหลักการทำงานจะไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ ซึ่งจากนี้เราจะเห็น SOUR Bangkok เป็นผู้หญิงที่ทั้งเปรี้ยวและแซ่บกว่าเดิมแน่นอน

 

Copyright© MarketingOops.com


  • 192
  •  
  •  
  •  
  •