สรุปความสำเร็จ ที่ผ่านมาของ TIDLOR
ถ้ากล่าวถึง TIDLOR หลายคนต้องนึกถึง 2 ธุรกิจหลักที่โดดเด่นอย่าง “เงินติดล้อ” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ที่ให้โอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน พร้อมส่งเสริมความรู้และวินัยทางการเงินแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันยังได้นำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับบริการทางการเงินให้ชีวิตลูกค้าหมุนต่อได้ไม่สะดุด ผ่านนวัตกรรมอย่าง ”บัตรติดล้อ” ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านตู้ ATM ทั่วประเทศ และ “บริการโอนเงินสินเชื่อ” ผ่าน “แอปพลิเคชันเงินติดล้อ” ที่ช่วยให้ลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งธุรกิจคือ “ประกันติดโล่” ธุรกิจนายหน้าประกันภัยแบบ Face to Face ที่ต่อยอดจากธุรกิจสินเชื่อของเงินติดล้อ เพื่อเสริมสร้างหลักประกันหรือความมั่นคงในชีวิตให้กับลูกค้า ช่วยบรรเทาความเสี่ยง ที่อาจเกิดจากเหตุไม่คาดคิด
หัวใจของความสำเร็จนี้คือการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ โดยเฉพาะนวัตกรรม ‘ผ่อนเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0% สูงสุด 10 เดือน’ ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงประกันภัย พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการของโบรกเกอร์ประกันภัย โดยมอบความสบายใจ และดูแลลูกค้าตั้งแต่ซื้อยันเคลม อีกสิ่ง คือ การพัฒนา Insurance Service API ที่เชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ของพาร์ทเนอร์บริษัทประกันกว่า 15 แห่ง ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกัน ออกกรมธรรม์ และติดตามสถานะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา InsurTech Platform ที่ต่อยอดสู่การสร้าง แบรนด์ อารีเกเตอร์ (Areegator) และแบรนด์ ‘เฮ้ กู๊ดดี้’ (heygoody.com) 2 แบรนด์ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
อารีเกเตอร์ (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ สำหรับนายหน้าประกันอิสระ
หนึ่งใน Pain Point ของนายหน้าประกันอิสระ คือ ข้อจำกัดในการเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายและการผ่อนชำระเบี้ยประกัน ซึ่งต้องพึ่งพาระบบและทุนสำรองที่เพียงพอ
“อารีเกเตอร์” (Areegator) เข้ามาช่วยปลดล็อคข้อจำกัด เพิ่มประสิทธิภาพและโอกาส ให้นายหน้าประกันอิสระเสนอขายได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้ง
- ระบบช่วยเปรียบเทียบเบี้ยและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจากบริษัทประกันชั้นนำกว่า 15 แห่ง ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- ระบบผ่อนเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0% สูงสุด 10 เดือน ช่วยให้เสนอการผ่อนได้ โดยไม่ต้องสำรองเงินของตัวเองให้กับลูกค้า
- ระบบบริหารจัดการลูกค้า ช่วยลดงานเอกสารและขั้นตอนที่ยุ่งยาก สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว
- การให้คำปรึกษาและพัฒนาทักษะการขาย ช่วยสร้างเครือข่ายที่แข็งแรง
ปัจจุบันอารีเกเตอร์เพิ่มโอกาสให้นายหน้าสามารถแนะนำสินเชื่อ “เงินติดล้อ” เสริมจากการขายประกัน สร้างรายได้และการเติบโตที่มากขึ้น
‘เฮ้ กู๊ดดี้’ (heygoody.com) แพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล
แพลตฟอร์ม สำหรับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวในการซื้อประกัน
สำหรับจุดเด่นของแพลตฟอร์ม heygoody.com ประกอบไปด้วย
- ไม่โทรขาย : จะให้ลูกค้าเลือกซื้อประกันภัยได้ด้วยตัวเอง พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เข้าใจง่าย
- เปรียบเทียบเบี้ยประกัน : จากบริษัทชั้นนำกว่า 15 แห่ง ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบราคาได้อย่างชัดเจน
- ระบบผ่อนชำระเบี้ยประกัน 0% นานสูงสุด 10 เดือน : เพื่อให้สะดวกในการซื้อประกัน มีทั้งแบบผ่อนเงินสดและบัตรเครดิต
- แชทได้ 24 ชม. : เพื่อลดข้อสงสัยและความไม่เข้าใจ ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน LINE Official Account @heygoody
ทำไมต้องปรับโครงสร้างจาก TIDLOR สู่ Tidlor Holdings
แม้ธุรกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ของโครงสร้างปัจจุบัน ทำให้การขยายธุรกิจที่มีเป็นไปได้อย่างจำกัดและเสียโอกาสในการเติบโตได้เต็มศักยภาพอย่างเต็มที่
ข้อดีของการปรับโครงสร้างจาก TIDLOR สู่ Tidlor Holdings
- ปลดล็อกข้อจำกัดและเพิ่มศักยภาพ : การปรับโครงสร้างเป็น Holding Company ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและเปิดรับโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่
- เพิ่มความยืดหยุ่น คล่องตัว และโอกาสในการเติบโต : โครงสร้างใหม่จะช่วยให้แต่ละธุรกิจภายใต้ Tidlor Holdings สามารถบริหารได้คล่องตัวมากขึ้น สามารถกำหนดกลยุทธ์และแผนงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- ลดภาระภาษี เพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุน : ช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้บริษัทสามารถนำไปลงทุนและขยายธุรกิจได้มากขึ้นเนื่องจากปัจจุบัน TIDLOR มีสถานะเป็น ‘บริษัทจดทะเบียนซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างด้าว’ (นิติบุคคลต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่า 50%) ซึ่งทำให้ต้องดำรงอัตราส่วนเงินกู้ต่อทุนชำระแล้ว (Interest-Bearing Debt/Paid-up Capital Ratio) ไว้ไม่ให้เกิน 7 เท่า
โดยที่ผ่านมา TIDLOR ต้องจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นทั้งในรูปแบบ ‘เงินสด’ และ ‘หุ้นปันผล’ โดยหุ้นปันผลใช้ในการควบคุมอัตราส่วนเงินกู้ต่อทุนชำระแล้ว (Interest-Bearing Debt/Paid-up Capital Ratio)
ทั้งนี้ ภายใต้โครงสร้างในปัจจุบัน TIDLOR จะมีภาระที่จะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากการจ่ายเงินปันผลไม่ว่าจะเป็นการเงินปันผลรูปของเงินสด หรือหุ้นปันผล
โดยภายหลังจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการในครั้งนี้ Tidlor Holdings ซึ่งเป็น Holding Company จะไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการดำรงสัดส่วนเงินกู้ต่อทุนชำระแล้ว ไม่เกิน 7 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้ Tidlor Holdings สามารถจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพียงอย่างเดียวได้
ก้าวต่อไปหลังปรับโครงสร้างธุรกิจ
การปรับโครงสร้างสู่ Tidlor Holdings ไม่ได้เป็นเพียง Holding Company หรือการเป็นบริษัทที่ลงทุนในบริษัทอื่นทั่วไป แต่การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ และสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น
- การต่อยอดธุรกิจที่แข็งแกร่ง : Tidlor Holdings ไม่ได้เกิดจากการรวมธุรกิจที่แตกต่างกัน หรือซื้อกิจการใหม่ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ต่อยอดธุรกิจหลักที่ประสบความสำเร็จ โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจที่ยาวนานของ TIDLOR
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ : TIDLOR เป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ‘เงินติดล้อ’ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ‘ประกันติดโล่’ อีกทั้งมีนวัตกรรม InsurTech Platform อย่าง อารีเกเตอร์ (Areegator) และ เฮ้ กู๊ดดี้ (com) ที่มีศักยภาพและมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก
- ทีมผู้บริหารและทีมงานมากประสบการณ์ : ขับเคลื่อนด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจสินเชื่อ นายหน้าประกันภัย และเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีมากกว่า 10 ปี ซึ่งคือปัจจัยสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งหมดนี้คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างครั้งสำคัญของ TIDLOR สู่ Tidlor Holdings ผ่านรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมกับก้าวต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ปัจจุบัน แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 69/247-1) ของ Tidlor Holdings ได้มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ จะได้รับสิทธิแลกหุ้นเป็นหุ้นของ Tidlor Holdings ในอัตรา 1:1 (1 หุ้นสามัญของ บมจ. เงินติดล้อ ต่อ 1 หุ้นสามัญของ Tidlor Holdings) โดยจะเริ่มตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ผ่านการแลกหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ถึงวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยผู้ถือหุ้นจะต้องทำการตอบรับคำเสนอซื้อด้วยตนเอง จะไม่ได้เป็นแบบอัตโนมัติ
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ TIDLOR แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต
บริษัทฯ คาดว่าจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) จากผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ และนำหุ้นของ Tidlor Holdings เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในไตรมาส 2/2568
นอกจากนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างดำเนินการเสร็จสิ้น บมจ. เงินติดล้อ จะดำเนินธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ Tidlor Holdings โดยยังคงมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ภายใต้แบรนด์ เงินติดล้อ และธุรกิจนายหน้าประกันภัยผ่านสาขา ภายใต้แบรนด์ ประกันติดโล่ รวมถึงพัฒนา InsurTech Platform ภายใต้แบรนด์ อารีเกเตอร์ และ เฮ้ กู๊ดดี้
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.tidlorinvestor.com/tidlorholdings
