เจาะลึกกลยุทธ์ ‘วัตสัน’ ในการเจาะกลุ่ม Younger ที่ต้องมีมากกว่าโปรฯ ‘ชิ้นที่สอง 1 บาท’

  • 997
  •  
  •  
  •  
  •  

watson

แม้โปรโมชั่น ‘ชิ้นที่สอง 1 บาท’ จะเป็นหมัดเด็ดที่สร้างทั้งชื่อและยอดขายให้กับร้านมัลติแบรนด์ประเภท Beauty & Wellness อย่าง ‘วัตสัน’ แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์การแข่งขันที่เปลี่ยนไป ทำให้กลยุทธ์‘ราคา’ไม่เพียงพอกับการตอบโจทย์ของลูกค้ายุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่ม Younger อายุต่ำกว่า 18 ปี ฐานลูกค้าใหม่ที่วัตสันต้องการเข้าไปพิชิตใจ

ปัจจุบันเราจะเห็นมีผู้เล่นหลายรายรุกเข้ามาอย่างหนักในธุรกิจร้านมัลติแบรนด์ความสวยความงาม ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอก ไม่ว่าจะเป็น Boots, Eve and Boy , Matsumoto Kiyoshi กระทั่งน้องใหม่รายล่าสุด @cosme store ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นสมรภูมิเดือดไปเลยทีเดียว

“การแข่งขันตอนนี้ดุเดือดมาก และมีแค่ราคาไม่พอ ต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ความหลากหลายของสินค้า การใช้บริการที่สะดวกสบายไปที่ไหนก็เจอ และ expertise ด้วย ซึ่งเป็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไป 4 ปีแล้ว” นวลพรรณ ชัยนาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด วัตสัน ประเทศไทย ฉายภาพของการแข่งขันในธุรกิจมัลติแบรนด์ความสวยความงาม

S__87376030

ขยับฐานสู่ Younger อายุต่ำกว่า 18 ปี

สำหรับวัตสันเอง ถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ ด้วยจำนวนสาขาที่มีมากที่สุด คือ 490 สาขา หลัก ๆ จะอยู่ตามศูนย์การค้า(โดยเฉพาะเซ็นทรัล) นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดไทยมานานกว่า 20 ปี ทำให้ได้เปรียบในการเข้าใจและเข้าถึงทั้งตลาดและความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่าคู่แข่ง

อย่างไรก็ตาม ด้วย Cycle ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้ทิศทางจากนี้ของวัตสัน ต้องการเจาะฐานลูกค้าใหม่ ๆ โดยกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย ก็คือ Younger อายุต่ำกว่า 18 ปี จากกลุ่มเป้าหมายเดิม จะมีอายุ 18-39 ปีเพื่อเป็นการสร้างความผูกพันและ Brand love กับผู้บริโภคกันตั้งแต่เด็กหรือเริ่มเป็นสาวเลย

“โปรโมชั่นชิ้นที่สอง 1 บาท เป็นซิกเนอร์เจอร์ของเรา และได้ผลดีมาก คือ ไม่เพียงจะช่วยให้ยอดการใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เท่านั้น ยังดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาด้วย แต่แค่นี้ไม่พอ ต้องมีอะไรมากกว่านั้น โดยต้องตอบไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าเป้าหมายให้ได้”

มุ่งสร้าง Seamless ผ่าน Omni- Channel

ภายใต้โจทย์นี้ นอกจากพระเอกอย่าง โปรโมชั่นชิ้นที่สอง 1 บาท ที่ใช้มานานกว่า 10 ปี โดยถูกจะเป็นการนำมาใช้เป็นประจำทุกปีใน 2 ช่วงหลัก คือ ปลายเดือน มี.ค.- เม.ย. และปลายเดือนส.ค.-ก.ย. ปัจจุบันมีสินค้ากว่า 1,800 รายการ จาก 4 กลุ่มสินค้าที่เรียกได้ว่า ‘ฮอต’ และ ‘ฮิต’ ได้แก่ กลุ่มสกินแคร์ , แฮร์แคร์ , เครื่องสำอาง และสุขภาพแล้ว

ประเด็นสำคัญในการเจาะฐานกลุ่ม Younger  ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ก็คือ การสร้าง Seamless Experience สร้างประสบการณ์การชอปแบบไร้รอยต่อ ในรูปแบบ Omni- Channel ที่เริ่มดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อปีที่ผ่านมา

1DX_0054

ไม่ว่าจะเป็น การให้ความสำคัญกับการใช้งบมาร์เก็ตติ้งด้านออนไลน์มากขึ้น โดยขณะนี้ออฟไลน์อยู่ที่ 60% อีก 40% เป็นออนไลน์ จากก่อนนี้สัดส่วนของออนไลน์ไม่มากนัก โดยในส่วนของออนไลน์ จะเน้นทำมาร์เก็ตติ้งในรูปแบบของ Muti-Platform ประกอบด้วย

–          เว็บไซต์ ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมลูกค้าเข้ากับหน้าร้านและออนไลน์ รวมถึงเป็น Community ในการให้ข้อมูลข่าวสาร

–          โมบายล์ แอพพลิเคชั่น ทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารและทำอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งดำเนินการมา 3 ปี ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแล้ว 1.4 ล้านราย และมีแผนจะเปิดเวอร์ชั่นใหม่ช่วงต้นปี 2562 ที่มีการพัฒนาให้มีการใช้งานได้ง่ายขึ้น

–          โซเชียล มีเดีย ได้แก่Facebook, Twitter , IG และ Line รวม ๆ แล้วมีผู้ติดตามกว่า 7 ล้านราย โดยแพลตฟอร์มโซเชียล จะทำหน้าที่สร้างCommunity ในการให้ข้อมูลข่าวสาร และสร้าง Brand Awareness

–          CRM Platform ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งอัพเดทข่าว โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่มีแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เติมพลัง ดิจิทัล ในโมเดลร้านใหม่ เริ่มเซ็นทรัลเวิล์ดสาขาแรก

ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติม เพราะการที่ลูกค้าหาร้านได้ง่าย และเข้ามาใช้บริการได้สะดวก ถือเป็นกลยุทธ์การแข่งขันที่สำคัญ ซึ่งปีนี้วัตสันมีแผนขยาย 50 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศราว 490 สาขา

1DX_0039

นวลพรรณบอกว่า โลเคชั่นที่ไปจะเน้นตามศูนย์การค้า ส่วนรูปแบบจะเน้นบรรยากาศที่เป็นมิตร มีความสนุกสนานในการชอป มีความหลากหลายของสินค้า ที่ขาดไม่ได้ คือ ยังคงจัดเต็มในโซนเครื่องสำอางแบรนด์จากเกาหลี และญี่ปุ่น โซนยาและวิตามิน ซึ่งเป็นจุดขายของวัตสัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยการวางกลุ่มเป้าหมายใหม่ เป็นกลุ่ม Younger บวกกับดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกธุรกิจ ได้มีการเปิดร้านโมเดลใหม่

โดยภายในร้านจะมีการเพิ่ม ในเรื่องDigital Touch Point  เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ พร้อมกับเพิ่มความสะดวกสบายและสนุกสนานในการใช้บริการตอบไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

อาทิ Self Check Out  บริการชำระสินค้าด้วยตนเอง , Style me บริการในรูปแบบ Interactive ให้ลูกค้าทดลองดูว่า ถ้าเลือกเครื่องสำอางมาแต่งจะแมทช์กันหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งร้านโมเดลใหม่นี้สาขาแรกอยู่ที่เซ็นทรัลเวิล์ด และอนาคตเตรียมจะขยายโมเดลนี้ไปในสาขาที่จะเปิดใหม่ รวมถึงสาขาเดิมที่จะมีการรีโนเวต

page

 “ตอนนี้เป็นยุคทองของ Experience Marketing เราต้องดู Journey ของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร เราต้องไปทุก Journey และตอบโจทย์ความต้องการของเขา ถามว่า กังวลเรื่องการแข่งขันหรือเปล่า บอกได้ว่า เราจับตาและไม่กังวล เพราะอยู่ในตลาดมานาน เราผ่านมาหมดแล้ว และตลาดนี้เติบโตทุกปี จึงขึ้นอยู่กับว่า ใครจะหาพื้นที่ของตัวเองอย่างไรในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ”

 

 


  • 997
  •  
  •  
  •  
  •