[บทความนี้เป็น Advertorial]
รถยนต์เป็นยานพาหนะที่สำคัญสำหรับเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการท่องเที่ยว การทำงาน รวมถึงการขนส่งสินค้า หลายครั้งที่ต้องเดินทางยาวไกลหรือฝ่าการจราจรที่คับคั่งกับสภาวะอุณหภูมิที่สูง ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานอย่างหนักและเป็นตัวการสำคัญในการทำให้เครื่องยนต์สึกหรอและเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งในช่วงที่มีวันหยุดยาว การขับรถเพื่อกลับบ้านหรือท่องเที่ยวกลายเป็นพฤติกรรมประจำช่วงวันหยุดยาว นั่นหมายถึงรถยนต์จำนวนมหาศาลที่พร้อมใจกันออกนอกเมืองหลวงและส่งผลให้เกิดการจราจรที่ติดขัด ซึ่งใครที่เคยประสบมาจะทราบดีว่าการติดอยู่บนถนนเกินกว่า 1 ชม. เป็นเช่นไร
เพราะการจราจรที่ติดขัดอย่างมากรวมไปถึงการที่ต้องเดินทางในระยะทางที่ยาวไกล ล้วนส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้นและทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่ระบบระบายความร้อนในห้องเครื่องจะสามารถช่วยได้ จนอาจเกิดอาการ “เครื่อง Overheat” และนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
การเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น แต่อะไรที่จะช่วยให้มั่นใจในการเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่น ประสบการณ์ที่ยาวนาน? สารประกอบภายในน้ำมันหล่อลื่น? หรือรางวัลการันตีคุณภาพในระดับสากล?
น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURiO (ฟิวริโอ้) “ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้อง จากสนามแข่งสู่รถคุณ” มาพร้อมกับ Respoplex Technology เทคโนโลยีโมเลกุลอัจฉริยะ ช่วยลดการสึกหรอแม้เครื่องร้อนจัดปกป้องเครื่องยนต์ในทุกสภาวะการใช้งานผ่านการ พิสูจน์จริงบนสนามแข่งระดับโลก ณ เมืองเลอม็อง ประเทศฝรั่งเศส ที่ทรหดด้วยการขับต่อเนื่องเป็นระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร 367 รอบ ตลอด 24 ชั่วโมง
FURiO ช่วยดูแลเครื่องยนต์แม้ต้องเดินทางไกลอย่างต่อเนื่องหรือต้องขับในสภาพการจราจรติดขัดที่ต้องขับๆ เบรกๆ ทำให้เครื่องเกิดความร้อนไม่ต่างกับการขับในสนามแข่งรถ ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Respoplex Technology ที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยลดอาการเครื่องยนต์ Overheat ช่วยให้ทุกการเดินทางผ่านไปได้อย่างมั่นใจ ลดการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากเครื่องยนต์ดับกระทันหันเพราะความร้อน
แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ? หรือไปดู Infographic ง่ายๆ ตามด้านล่างนี้
การเลือกน้ำมันหล่อลื่นที่ดีสามารถดูได้จาก 3 องค์ประกอบหลักทั้ง ประเภทของน้ำมันหล่อลื่น ที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้อยู่ ความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างราบรื่น พร้อมประสิทธิภาพระบายความร้อน โดยสามารถศึกษาค่าความหนืดน้ำมันหล่อลื่นได้จากคู่มือรถยนต์ และคุณสมบัติที่ช่วยให้น้ำมันหล่อลื่นมีความพิเศษ ทั้งเรื่องของความแรง เรื่องของความทน เป็นต้น
โดยน้ำมันหล่อลื่นสามารถแบ่งประเภทได้เป็น 3 ประเภท ประเภทแรกน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100%(Fully Synthetic) ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ดีที่สุด ช่วยยึดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นได้ยาวนานขึ้น ขณะที่น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยม และน้ำมันหล่อลื่นแบบธรรมดา (Mineral) ที่นิยมสำหรับรถยนต์ใช้งานน้อยหรือจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน
ค่าความหนืดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับน้ำมันหล่อลื่น แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบหรือไม่รู้วิธีการดูค่าความหนืดจากผลิตภัณฑ์ โดยหลักการดูค่าความหนืดให้ดูที่ตัว “W” เป็นหลัก ซึ่งตัวเลขที่อยู่ด้านหน้า W หมายถึงอุณหภูมิต่ำสุดที่น้ำมันหล่อลื่นยังไม่แข็งตัวหรือหมดสภาพ สำหรับประเทศไทยที่ไม่ใช่เมืองหนาวระดับติดลบสามารถใช้ได้ตั้งแต่ค่า 20-0 ส่วนตัวเลขที่อยู่ด้านหลัง W จะหมายถึงอุณหภูมิสูงสุดที่น้ำมันหล่อลื่นยังสามารถใช้ได้โดยไม่หมดสภาพ ซึ่งสามารถเลือกค่าความหนืดได้ตามคำแนะนำคู่มือการใช้รถ
ยกตัวอย่างเช่น 0W-40 หมายความว่าน้ำมันหล่อลื่นนี้สามารถใช้ได้ในอุณหภูมิต่ำสุดที่ 0 องศาเซลเซียสและสามารถใช้น้ำมันหล่อลื่นได้ในอุณหภูมิที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติพิเศษ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับน้ำมันหล่อลื่น เพราะนอกจากประเภทน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมและค่าความหนืดตรงตามคำแนะนำแล้ว คุณสมบัติพิเศษจะช่วยให้น้ำมันหล่อลื่นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการลดแรงเสียดทานช่วยให้เครื่องยนต์เดินได้ราบรื่น ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์ลดการสึกหรอจากการทำงานหนัก
ทั้งหมดนี้ มีอยู่ในน้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURiO ที่มี Respoplex Technology ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้องจากสนามแข่งสู่รถคุณ เป็นเจ้าของน้ำมันหล่อลื่นสูตรพรีเมียม FURiO ได้แล้วที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ร้านขายน้ำมันหล่อลื่นทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://furio.bangchaklubricants.com/th/
[บทความนี้เป็น Advertorial]