ในช่วง 2-3 ปีหลัง การเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลและ Smart Device ได้เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น ทั้งยังเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการใช้ชีวิตไปจนถึงแนวคิดการทำธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ตลาดพรินเตอร์ที่กำลังมีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“องค์กรธุรกิจ” กลายเป็นอีกหนึ่งตลาดหลักของพรินเตอร์ในวันนี้ นอกเหนือไปจากตลาดHome Use โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME, กลุ่ม Soho รวมถึง Start Up รุ่นใหม่ ที่มีพฤติกรรมการเลือกใช้เครื่องพรินเตอร์ที่แตกต่างออกไป เพราะผู้บริโภคเหล่านี้ อาจไม่ยึดเรื่องแบรนด์เป็นปัจจัยสำคัญมากนัก หากแต่เริ่มที่จะให้ความสำคัญกับราคา คุณภาพสินค้า และความคุ้มค่าในการลงทุน และยังต้องมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการแท้จริง ส่งผลให้ลูกค้าธุรกิจหลายรายจึงหันมานิยมใช้ พรินเตอร์แท็งก์แท้ ด้วยมองว่ามีความคุ้มค่าในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะตัวเครื่องที่มีราคาไม่สูงมากนัก และต้นทุนในการพิมพ์ต่อแผ่นที่ต่ำมาก พร้อมทั้งรองรับการใช้งานในปริมาณมากอีกด้วย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยท้าทายที่ทำให้พรินเตอร์ในตลาดนี้มีการแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้น
เหตุผลดังกล่าวนี้เอง ที่ทำให้ “แคนนอน” ในฐานะผู้นำพรินเตอร์อิงค์เจ็ทอันดับ 1 ในประเทศไทยต่อเนื่องมาแล้ว 17 ปีซ้อน มุ่งทำการตลาดอย่างจริงจังกับพรินเตอร์ในกลุ่มแท็งก์แท้จากโรงงาน เห็นได้จากการเติบโตด้านยอดขายของ Canon PIXMA Printer รุ่น G Series สูงถึง 138,696 เครื่อง ในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตสูงถึง 166% จากปี 2016
แต่ความสำเร็จดังกล่าวก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แคนนอนนิ่งนอนใจ หากแต่กลับไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกันปีนี้ แคนนอนยังมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์พรินเตอร์แท็งก์ใหม่สู่ตลาด ผ่านแนวคิดสินค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ที่ “เหนือกว่า” เพื่อรักษาจุดยืนความเป็นแบรนด์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเสมอ หนึ่งในนั้นก็คือลูกค้าองค์กรธุรกิจทุกรูปแบบที่ต้องการเครื่องพรินเตอร์ที่ลงทุนไม่สูง แต่ให้การงานที่คุ้มค่า เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจกำลังเริ่มเติบโต
โดยปีนี้แคนนอนได้แนะนำพรินเตอร์แท็งก์แท้จากโรงงานรุ่น G Series ทั้ง 4 รุ่น ใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งหากดูแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกของพรินเตอร์ทั้ง 4 รุ่นนี้ หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าการมาของพรินเตอร์ตัวใหม่นี้ดูไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม
แต่ในความเป็นจริง หากได้ลองศึกษาสิ่งที่อยู่ “ภายใน” ของ G-Series รุ่นนี้ จะพบว่ามันมาพร้อมกับการเพิ่มฟังก์ชั่นที่ทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นกว่าเดิมในหลายจุด
ภายใต้แนวคิด “แท็งก์แท้น้องใหม่ยังไงก็ดีกว่า” G-Series ทั้ง 4 รุ่นนี้ ล้วนเป็นผลผลิตจากแนวคิดซึ่งเกิดจากไอเดียของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแคนนอน ที่อยากจะแก้ปัญหาต่างๆ ที่ผู้บริโภคต้องเจอจากการใช้งาน หรือเป็นสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน
1. ยืดระยะเวลาการใช้งานพิมพ์ได้ยาวนานขึ้น ด้วย Bigger Ink Absorber
เมื่อพบว่าผู้บริโภคประสบปัญหาจากการที่เครื่องจะเตือนเรื่องแผ่นซับหมึก และต้องนำเข้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์เป็นประจำ จนทำให้ขาดความต่อเนื่องในด้านการพิมพ์ Canon PIXMA G Series รุ่นใหม่นี้ จึงได้ขยายขนาดแผ่นซับหมึกให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น จึงยืดการใช้งานด้านการพิมพ์ให้ยาวนานขึ้น และเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น
2. ใช้งานง่ายและสะดวกขึ้น ด้วยการเพิ่มจอแสดงผลแบบ LCD
เพื่อความสะดวก คล่องตัวในการงานของลูกค้ามากขึ้น ในรุ่น PIXMA G2010 และ G3010 จึงได้มีการเพิ่มจอ LCD Display ขึ้นมา ซึ่งจอดังกล่าวจะสามารถแสดงสถานะจำนวนแผ่นที่ถ่ายเอกสาร / สถานการณ์เชื่อมต่อ และสถานะเมื่อเครื่องมีการแจ้งเตือนปัญหา ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
3. สะดวกกับการเชื่อมต่อตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ด้วย One Touch Wireless Connection
ในรุ่น PIXMA G3010 ได้เพิ่มปุ่ม “Direct” ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ท Device ขึ้นมา ทำให้การเชื่อมต่อการใช้งานไร้สาย เป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าให้ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน
Better Printing Quality
ขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่การมีฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากเดิม ในส่วนที่เป็นฟังค์ชันการใช้งานเด่น ๆ ในรุ่นก่อน ทางแคนนอน ก็ยังคงเอาไว้ใน G Series อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรองรับการพิมพ์ปริมาณมาก ด้วยการพิมพ์สีได้ 7,000 แผ่น และการพิมพ์ขาว-ดำ 6,000 แผ่น พร้อมคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีขึ้น
การดีไซน์แท็งก์หมึกในตัว ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน และไม่ต้องกังวัลเรื่องการเคลื่อนย้าย เพราะแท็งก์หมึกอยู่นอกตัวเครื่อง
นอกจากนี้ ยังให้การรับประกัน ถึง 2 ปี พร้อมฟรี ค่าแรง ค่าอะไหล่ ค่าหัวพิมพ์ และค่าแผ่นซับหมึก (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)