หลังลุกขึ้นมาประกาศปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ GRAND UNITY เดินเกมบุกคอนโดตลาดกลาง ในเมืองให้ระอุ พร้อมกับงัดกลยุทธ์เด็ดหวังมัดใจกลุ่มลูกค้า Gen X และ Gen Y มากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปท์ Simply Makes Sense. ล่าสุดเปิดตัว เดอ ลาพีส จรัญ 81 (De LAPIS Charan 81) ชูจุดทำเลศักยภาพติดสถานีรถไฟฟ้า MRT บางพลัด พร้อมวิวแม่น้ำ
ปัจจุบัน “ทำเล” กลายเป็นตัวเลือกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดของผู้บริโภค
เมื่อแนวโน้มลูกค้าในเมืองส่วนใหญ่บอกว่าอยากอยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า เนื่องจากสะดวกในการเดินทาง และสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตได้ดีกว่า ในมุมของผู้พัฒนาโครงการคอนโด คงไม่อาจปฏิเสธกระแสความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (GRAND UNITY) อีกหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมในเครือบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์คอนโดที่กลุ่มลูกค้าคุ้นเคยมานาน ไม่ว่าจะเป็น “ยู ดีไลท์” และ “ยู ดีไลท์ เรสซิเดนท์” ซึ่งที่ผ่านมาทางแบรนด์มีการเลือกพัฒนาโครงการโดยเน้นทำเลศักยภาพรอบๆ กรุงเทพมหานคร แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยข้อจำกัดในบางโลเคชั่นเอง อาจทำให้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพอสมควร
แต่เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง แกรนด์ ยูนิตี้ จึงไม่ลังเลที่จะเดินหน้าปฏิวัติโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเลือกหันมาปักหมุดพัฒนาโครงการในทำเลติดรถไฟฟ้า และอยู่ “ในเมือง” มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบความสะดวกสบาย มองหาโครงการเรียกว่า “ติด” สถานีรถไฟฟ้า จนถึงขนาดเกือบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว
เดินหน้าสู่แบรนด์ออกแบบและนวัตกรรม
ต้นปีที่ผ่านมาหลังการประกาศตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น และก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งมั่นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ทางแกรนด์ ยูนิตี้ ได้เดินหน้าปรับโมเดลธุรกิจใหม่ควบคู่ไปกับการพัฒนาจุดแข็งด้านทำเล โดยมีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ ผ่านแนวคิดการออกแบบและนวัตกรรม ด้วยแนวคิด Simply Makes Sense. ใช้ชีวิต…บนเหตุผลของคุณ สะท้อนปรัชญาในการสร้างที่พักอาศัยที่ยึดแนวคิดการออกแบบว่า ที่อยู่อาศัยที่ดีนั้นต้องตอบโจทย์กับทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของห้อง รวมทั้งตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ที่พักอาศัยมีคุณค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านการออกแบบ มีการปรับดีไซน์ให้มีความเรียบง่าย แต่ยังคงใส่ใจทุกรายละเอียด สร้างความสะดวกสบายลงตัวในทุกการใช้งาน ที่สำคัญคือราคาที่สมเหตุสมผล ภายใต้มาตรฐานวัสดุคุณภาพ
โดยทางแกรนด์ ยูนิตี้ เชื่อว่าจากการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้จะดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความมั่นใจและภูมิใจให้กับลูกค้าเดิมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen X และ Gen Y
พร้อมกันนี้จะมีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ทั้ง 4 โครงการตลอดปีนี้ คือ เซียล่า (CIELA) เดอ ลาพีส (De LAPIS) แมสซารีน (Mazarine) และเดนิม (Denim) โดยทั้งหมดมีจุดเด่นในเรื่องโลเคชั่นติดรถไฟฟ้าทั้งสิ้น
De LAPIS Charan 81 มาพร้อมทำเลศักยภาพที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร
โดยหลังประสบความสำเร็จกับการเปิดตัว เซียล่า (CIELA) โครงการแรกไปเมื่อไตรมาสแรกของปี “เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) เป็นโครงการที่สองที่มีจุดเด่นสำคัญคือเป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน พร้อมสัมผัสวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ในมุมที่สวยกว่าใครเพราะอยู่ในจุดที่ถนนจรัญสนิทวงศ์อยู่ใกล้โค้งน้ำเจ้าพระยาที่สุด
“เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) ยังคงยึดแนวคิดเรื่องการใช้ชีวิต แต่เป็นการใช้ชีวิตบนเหตุผลที่สามารถตอบสนองความรู้สึกอย่างแท้จริง ด้วยการชูความเป็นที่สุดของทำเล ที่โดดเด่นด้วยการคมนาคมเชื่อมต่อถนนได้หลายสายและหลายรูปแบบ ทั้งยังโดดเด่นด้วยวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยกว่าใคร มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการพักอาศัยด้วยห้องที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นสไตล์ แต่คงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่แท้จริงได้อย่างลงตัว ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท (สำหรับห้อง 1 Bedroom)
กระชับทุกเส้นทางรอบกรุงเทพฯ ให้ใกล้ขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันทำเลย่านฝั่งธนฯ ที่กำลังถูกพลิกโฉมให้เป็นทำเลศักยภาพมากยิ่งขึ้นเพื่ออนาคต ทั้งด้านการคมนาคมขนส่ง สิ่งอำนวยความสะดวก และด้านที่อยู่อาศัยคือ “จรัญสนิทวงศ์” ที่มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง และบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งเมื่อรวมกับรถไฟฟ้า MRT หรือรถไฟฟ้าใต้ดินสายปัจจุบันจะกลายเป็นวงแหวนหรือ Circle Line ขนาดใหญ่เชื่อมต่อทุกมุมเมือง เหมือนสาย Circle Line ของรถไฟในหลายประเทศชั้นนำ
ซึ่งจะวิ่งวนและเชื่อมต่อเส้นทางรอบเมือง ด้วยการเชื่อมกันระหว่างรถไฟฟ้าสายสำคัญถึง 5 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางไปได้ทุกเส้นทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเชื่อมต่อจากเมืองสู่เมือง พาดผ่านกรุงเทพฯ ตอนเหนือจรดกรุงเทพฯ ตอนใต้ และกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกไปยังกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก สามารถช่วยลดระยะเวลาการเดินทางได้เป็นอย่างดี แทบไม่ต้องเผชิญกับปัญหาจราจรในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมกับโครงการ Mega Project อย่างสถานีกลางบางซื่อ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และถือเป็นสายหลักที่เข้าสู่ย่าน CBD ของกรุงเทพฯ มากมาย อาทิ ย่านรัชดาภิเษก, พระราม9, อโศก – สุขุมวิท และสีลม – สาทร ทำให้ จรัญสนิทวงศ์ถือเป็นอีกทำเลที่มีศักยภาพ
นอกจากจะเป็นเส้นที่มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแล้ว การเดินทางบนท้องถนนก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เนื่องจากสามารถเชื่อมการเดินทางไปสู่ย่านต่างๆ ได้ เพราะจากถนนจรัญสนิทวงศ์สามารถเชื่อมการเดินทางไปสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้ด้วยสะพานกรุงธน, สะพานพระราม 8 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รวมทั้งเชื่อมต่อสู่ถนนรัชดาผ่านสะพานพระราม 7 และยังใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และจุดขึ้น – ลง ทางด่วนศรีรัช ที่จะทำให้เดินทางต่อไปสู่ย่านสำคัญๆ ทั่วเมืองได้อย่างสะดวก
ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกยิ่งหมดห่วง เพราะในละแวกนี้ยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ทั้งสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, ที่ทำการไปรษณีย์บางอ้อ ยังใกล้กับโรงพยาบาลยันฮี, โรงพยาบาลศิริราช,โรงพยาบาลวชิรพยาบาล,ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า เป็นต้น
เพราะความรู้สึก คือเหตุผลของการใช้ชีวิต
ส่วนการออกแบบดีไซน์ของโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “ถ้าความรู้สึกคือเหตุผลของการใช้ชีวิต เดอ ลาพีส จรัญ 81 จะตอบทุกเหตุผลของคุณ”
ซึ่งคำว่า LAPIS LAZURI มาจากภาษาลาติน “ลาพิส” ที่แปลว่าก้อนหิน และ “อาซูล” ภาษาอาหรับที่หมายถึงสีน้ำเงิน เรียกสั้นๆว่า LAPIS ซึ่งคือแร่รัตนชาตสีน้ำเงินสด เป็นของหายากมีมาแต่สมัยอียิปต์โบราณ เชื่อกันว่าเป็นหินแห่งสวรรค์ แหล่งพลังของพระเจ้า มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างสติปัญญาและสมาธิ เพิ่มญาณแห่งการหยั่งรู้ นำมาสู่ภาพลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงภาพ เบิกบาน บาลานซ์ มีสไตล์ ซึ่งเป็น Sense of Delight สำหรับกลุ่มที่ต้องการ Live Balance ส่วนการออกแบบดีไซน์ของโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “ถ้าความรู้สึกคือเหตุผลของการใช้ชีวิต เดอ ลาพีส จรัญ 81 จะตอบทุกเหตุผลของคุณ” เพราะความรู้สึก คือเหตุผลของการใช้ชีวิต
เพื่อสื่อถึงความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุด ที่มาพร้อมกับวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยกว่าใคร ให้ทุกวันสามารถ ดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติก ใกล้ชิดโค้งน้ำเจ้าพระยา สัมผัสกลิ่นอายริมน้ำในมุมที่สวยที่สุด สำหรับผู้ที่หลงไหลในวิวพาโนรามา ซึ่งถือเป็นโครงการเดียวบนถนนจรัญสนิทวงศ์ที่ตั้งอยู่บนโค้งน้ำเจ้าพระยา จุดบรรจบผืนน้ำที่ทอดยาวพริ้วไหวตามสายลมและแสงแดด
ในด้านความคุ้มค่าและความสบาย ยังมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบ Fully Fitted โดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพ ชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in ฟังก์ชั่นลงตัวที่ทางโครงการออกแบบทุกตารางเมตรอย่างพิถีพิถัน ให้ห้องพักสูงโปร่งด้วยฝ้าสูง 2.75 เมตร และชุดครัวที่ทางแบรนด์ตั้งใจเพิ่ม Kitchen Island เพื่อยกระดับชุดครัวให้เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดอื่นใน Segment เดียวกัน เฟอร์นิเจอร์ Built in ดีไซน์พิเศษที่ทางโครงการออกแบบร่วมกับผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Chic Republic
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต บนชั้น Roof Top ของอาคาร จะประกอบไปด้วย Sky Fitness ที่สามารถมองเห็น Panorama View รอบด้านทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ Infinity Edge Swimming Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้รู้สึกว่าขอบสระไม่มีอะไรมาขวางกั้นกับวิวพาโนรามา ทำให้เกิดความรู้สึกสวยงามแบบไร้ขอบเขต
Sky Garden สวนชั้นดาดฟ้า สำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดีกับสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างสวยงาม ตลอดเวลาที่พักผ่อน ทำให้เปรียบเสมือนคุณเป็นเจ้าของแม่น้ำเจ้าพระยาโถง Lobby ยังตกแต่งให้มีความโมเดิร์นด้วยการปรับความสูงของโถงให้เป็น Double Volume High Ceiling ที่มีความสูงถึง 9เมตร พร้อมปูพื้นกระเบื้องลายหิน จาก Italyให้มีความทันสมัยและหรูหรา Co-Working Space ที่มีสัดส่วนลงตัวกว่าเดิม พร้อมเพิ่มห้อง Private Room เพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับการนัดพบปะหรือนัดประชุมสำคัญ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต
เช่นเดียวกับทุกโครงการ เดอ ลาพีส ยังมีนโยบายให้ทุกโครงการต้องผ่านการอนุมัติรายงานสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ก่อนเริ่มขาย ทั้งจับมือกับพันธมิตรมืออาชีพในธุรกิจอสังหาฯ มีการติดตั้งกระจกนิรภัยทั้งตึก ทั้งภายในและภายนอกห้องชุด โดยติดตั้งกระจกบานเลื่อน กระจกตู้เสื้อผ้ารวมทั้งเทคนิคดีไซน์ Private Balcony ระเบียงที่มีความเป็นส่วนตัว และสามารถใช้งานบริเวณระเบียงได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องของที่อาจจะตกลงสู่ด้านล่าง โครงการ เดอ ลาพีส จรัญ 81 เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 635 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต อาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคารมูลค่าโครงการประมาณ 2,018 ล้านบาท รวมพื้นที่โครงการทั้งสิ้น 3-1-3.7 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง Studioขนาด 26 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. และยังมีห้อง Type พิเศษ อย่าง ห้อง 1 Bedroom Corner ขนาด 34.50 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม. โดยเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท (สำหรับห้อง 1 Bedroom)
“เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) กำหนดเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 – 20 พฤษภาคม ศกนี้ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วดลดสูงสุดถึง 250,000 บาท ได้ที่ http://grandunity.co.th พร้อมเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-652-4000 หรือ www.grandunity.co.th หรือ www.facebook.com/GrandUnityDevelopment
