ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันของตลาดเครื่องปรับอากาศ ที่ดูท่าจะดุเดือดไม่แพ้อากาศร้อนๆ ในบ้านเรา แบรนด์ที่คิดทำตลาดในเวลานี้อาจต้องเหนื่อยสักหน่อย เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตาม เมื่ออากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ เครื่องปรับอากาศถือเป็นสินค้าที่ทุกบ้านต้องมี
ด้วยเหตุนี้ทำให้ GREE (กรี) แบรนด์เครื่องปรับอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทยแล้ว ปัจจุบัน GREE เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก คว้ารางวัลต่างๆ มาแล้วมากมาย อีกทั้งยังมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในจีน ครองส่วนแบ่งการตลาดในจีนถึง 50%
ทั้งนี้ GREE มีกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์กว่า 5,500,000 เครื่องต่อปี และเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 60,000,000 เครื่องต่อปี ทำให้ GREE สามารถส่งออกไป 120 ประเทศทั่วโลก และผลิตให้แบรนด์อื่นๆ ได้
ที่ผ่านมา GREE ทำตลาดในไทยมาหลายปี จนมีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร ซึ่งเกิดจากการบอกต่อปากต่อปาก เรื่องความคุ้มค่าและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ ทำให้ในช่วงหน้าร้อนนี้ GREE มองเห็นโอกาสสำคัญในการทำตลาดอย่างจริงจังเพื่อชิงยอดขาย
เย็นอย่างเดียวไม่พอ ต้องมี “เทคโนโลยี” ที่ใช่
อย่างที่ทราบกันว่า เครื่องปรับอากาศไม่ใช่สินค้าที่จะซื้อได้บ่อยๆ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจึงต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าเครื่องปรับอากาศทุกเครื่องสามารถให้ความเย็นได้ “เทคโนโลยี” จึงเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างให้แบรนด์นั้นๆ
GREE ชูจุดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีที่ไม่หยุดพัฒนา ทำ R&D ต่อเนื่อง ด้วยทีมวิศวกรกว่า 5,000 คน ศูนย์ทดสอบระดับประเทศ 2 แห่ง สถาบันวิจัยด้านการทำความเป็น 4 แห่ง ห้องทดสอบกว่า 400 ห้อง และใช้ Robot ในการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า
หากถามว่ากลุ่มเป้าหมายของ GREE คือใคร เมื่อดูจากเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ต้องบอกว่าเป็นกลุ่มคนยุคใหม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Smart Life function ที่ลิ้งค์กับสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้ และยังมีระบบโซล่าร์เซลเพื่อประหยัดพลังงาน
หลังจากประสบความสำเร็จจากทั่วโลก คงต้องจับตาดูว่าการนำเสนอนวัตกรรมที่ดี คุณภาพสูง จะทำให้ GREE ขึ้นเป็น Top of Mind ในใจของผู้บริโภคชาวไทยได้หรือไม่
ที่สุดแห่งเทคโนโลยีจาก GREE
