สยามสินธรกับแผนเดินหน้า อสังหาฯ ลีสโฮลด์ (LEASEHOLD) รับที่ดินใจกลางเมือง

  • 25.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

SDT_1

อสังหาริมทรัพย์แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรืออสังหาริมทรัพย์ในแบบสิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น เมื่อที่ดินแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ใจกลางเมือง ย่านหลังสวน-เพลินจิต-ชิดลม-ราชดำริ ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD (Central Business District) ที่สำคัญของประเทศไทยเริ่มเหลือน้อยลงเต็มที และเป็นเจ้าของได้ยากขึ้น ลองดูกันว่าโครงการไหนเป็นทีเด็ดน่าสนใจทั้งอยู่อาศัย และการลงทุน

เมื่อจำนวนที่ดินในย่าน CBD เหลือน้อยลง ขณะที่ความต้องการในการพัฒนาที่ดินในเมืองทั้งกลุ่มเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยยังมีอย่างต่อเนื่อง การนำที่ดินลีสโฮลด์ (Leasehold) ออกมาพัฒนาบน เช่น คอนโด Leasehold ในย่านดังกล่าวจึงได้รับการตอบรับดีไม่แพ้โครงการในแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use บนที่ดินลีสโฮลด์ (Leasehold)  ที่เกิดขึ้นบนทำเลใจกลางเมืองย่านหลังสวนเพลินจิตชิดลมราชดำริ จะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าว กลายเป็นตลาดหลักของการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์

จากการสำรวจโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบริเวณรอบสวนลุมพินีที่เรียกได้ว่าเป็นที่พักอาศัยซึ่งได้วิวแบบ Central Park แห่งมหานครนิวยอร์ก พบว่ามี 3 โครงการ มูลค่ารวมกันแล้วเฉียดๆ 2 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการ One Bangkok มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท โครงการ SINDHORN VILLAGE มูลค่ารวมกว่า 39,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและเครือเซ็นทรัล บนที่ดินเดิมของโรงแรมดุสิตธานีที่จะถูกพัฒนาให้เป็นโครงการ Mixed Use ที่ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน, โรงแรม, ค้าปลีก และที่พักอาศัย

ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนี้สูงขึ้น โดยโครงการประเภทที่อยู่อาศัยบนที่ดิน ลีสโฮลด์ (Leasehold) ย่านใจกลางเมืองจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นของทั้งกลุ่มผู้ซื้ออยู่เอง และซื้อเพื่อการลงทุน บนทำเลศักยภาพย่านใจกลางเมืองที่เป็นเจ้าของได้ยากขึ้น

SDT_2

สินธร ต้นสน (SINDHORN TONSON) คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ขนาด 59 ยูนิต ภายใต้โครงการ สินธร วิลเลจ (SINDHORN VILLAGE) ที่พัฒนาโดยสยามสินธร บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบลีสโฮลด์ สิทธิการเช่าครั้งละ 30 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีกครั้งละ 30 ปี โดยสยามสินธรจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการเองทั้งหมด ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยโครงการสินธร วิลเลจ (SINDHORN VILLAGE) ยังประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อีก 4 อาคาร (Sindhorn Residence / Sindhorn Lumpini / Baan Sindhorn และโครงการที่จะเป็น Branded Residence) โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ 3 อาคาร และพื้นที่ค้าปลีก (Walking Street)

สินธร ต้นสน (SINDHORN TONSON) ตั้งอยู่ติดกับสวนลุมพินี ทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเมือง ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้พักอาศัยระดับไฮเอ็นด์ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ และมีไลฟ์สไตล์ในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งจุดเด่นของโครงการคือ

1. ความเป็น Best Location โครงการของสยามสินธรนอกจากจะอยู่ใจกลางเมืองบนถนนหลังสวนจรดถนนสารสิน ยังได้จัดสรรพื้นที่โครงการให้มีสวนขนาดใหญ่เพื่อสร้างบรรยากาศที่อยู่อาศัยให้ร่มรื่น ให้ความเป็นส่วนตัว มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ใกล้ CBD ย่านธุรกิจที่เป็นทั้งออฟฟิศทำงาน สถานศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาล และแหล่งช้อปปิ้ง เดินทางสะดวก โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ตอบโจทย์ทั้งคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุน

SDT_3

2. โครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) มีระดับราคาที่ถูกกว่าราคาซื้อขายที่อยู่อาศัยแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ในย่านเดียวกันมากถึง 40% ในมุมมองของนักลงทุนแล้ว นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้โครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) เป็นที่น่าสนใจของตลาดนักลงทุน เพราะต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่มีโอกาสในการปล่อยเช่าได้ในอัตราค่าเช่าเดียวกับที่อยู่อาศัยแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) มีโอกาสในการสร้างอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าที่อยู่อาศัยแบบฟรีโฮลด์ (Freehold)

ตัวอย่างการประเมินส่วนต่างราคา ซึ่งจากการสำรวจตลาด Leasehold มีราคาถูกกว่า Freehold ประมาณ 40%

ราคา (บาท)/ตรม. ราคา (บาท) /100ตรม. ส่วนต่าง (บาท)
Leasehold 220,000 22,000,000 8,000,000
Freehold 300,000 30,000,000

 

นำเงินส่วนต่างไปลงทุนในกองทุน หรือตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงในระยะยาว

จำนวนเงินส่วนต่าง ดอกเบี้ย 3.5%ต่อปี (ปีแรก) ดอกเบี้ยรวม 3.5% ระยะเวลา 30 ปี (ทบต้น)
8,000,000 280,000 14,500,000
รวมระยะเวลา 30 ปีจะมีเงินในบัญชีประมาณ 22,500,000 บาท*
  *เงินจำนวนนี้ เพียงพอที่จะนำไปใช้ต่ออายุสัญญาเช่าในอีก 30 ปี ข้างหน้าได้

 

3. การดูแลบริหารโครงการ โครงการแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือกรรมสิทธิ์การเช่าระยะยาว จะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่ผู้พัฒนาที่ดิน (Developer) เช่าพื้นที่จากเจ้าของที่ดิน (Landlord) แล้วนำมาพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ เมื่อพัฒนาเสร็จแล้วก็จะจัดตั้งนิติบุลคลให้เข้ามาดูแลโครงการต่อ และอีกแบบหนึ่ง คือ เจ้าของที่ดิน (Landlord) เป็นผู้พัฒนาโครงการเองจนแล้วเสร็จ และยังคงบริหารจัดการโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นโครงการ สินธร วิลเลจ (SINDHORN VILLAGE) ของสยามสินธร ที่เป็นทั้งผู้พัฒนาและดูแลบริหารโครงการเอง ทำให้มั่นใจว่าโครงการจะคงคุณภาพระดับสูงไปตลอด การดูแลซ่อมบำรุงจะไม่ถูกละเลยด้วยแนวคิดการพัฒนาที่เน้นคุณภาพ ใส่ใจตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง อาทิ ผนังห้อง 2 ชั้นที่เว้นช่องว่างระหว่างผนังทำให้ผนังแต่ละห้องไม่ติดกัน ช่วยกันเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียงสร้างความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  ผนังใช้วัสดุคุณภาพสูง ป้องกันการลามไฟจากห้องข้างเคียงเมื่อเกิดเพลิงไหม้  การแยกท่อครัว และท่อระบายอากาศอิสระ แต่ละยูนิตเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน หรือแม้แต่กระจกอาคารซึ่งโดยทั่วไปมีเพียง 1-2 ชั้น  แต่สำหรับโครงการนี้มีการติดตั้งกระจกแบบ 3 ชั้น พร้อมช่องตรงกลาง เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนและป้องกันความร้อนจากภายนอก เป็นต้น รวมไปถึงการดูแลความสะดวกสบายและความปลอดภัยของลูกบ้าน และการบำรุงรักษาอาคารไม่ให้เสื่อมโทรม ซึ่งทั้งหมดนี้ดำเนินการโดยผู้พัฒนาโครงการ

SDT_4

ดังนั้น มูลค่าของอาคารในระยะยาวย่อมมีมากกว่า แม้ระยะเวลาผ่านไป 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี ก็สามารถมั่นใจได้ว่า อาคารยังคงสภาพการใช้งานได้อย่างดีอยู่เสมอ หากต้องการปล่อยเช่าต่อก็สามารถทำราคาได้ดี  แต่หากเป็นโครงการแบบฟรีโฮลด์ (Freehold)หรือโครงการแบบลีสโฮลด์ (LEASEHOLD) ที่ Developer ไม่ได้เป็นผู้บริหารโครงการเอง ภาระการดูแลจะตกเป็นหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งอย่างแรกที่เป็นปัญหาคลาสสิคของคอนโดส่วนใหญ่คืออาคารทรุดโทรมเพราะขาดการดูแลที่ดี เนื่องจากวัสดุอุปกรณ์มีอายุการใช้งานสั้น และหากได้นิติบุคคลอาคารชุดที่ขาดความรับผิดชอบและขาดความเป็นมืออาชีพ สภาพอาคารในระยะยาว 30 ปี ก็อาจทรุดโทรมหนักจนไม่สามารถปล่อยเช่าต่อได้อีก ทั้งในแง่ของการอยู่อาศัยและการลงทุน

สินธร ต้นสน (SINDHORN TONSON) คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ คืออีกหนึ่งทางเลือกของโครงการที่อยู่อาศัยย่านใจกลางเมือง ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ทั้งในเรื่องของทำเลพื้นที่สีเขียวติดสวนลุมพินี เพื่อการพักผ่อนย่านใจกลางเมืองอย่างแท้จริง การเดินทางที่สะดวกสบาย และการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ

สัมผัสความประณีตและสุนทรียภาพของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงได้แล้ววันนี้ ที่สำนักงานขายโครงการ สินธร ต้นสน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02-650-9595 ถึง 6 หรือ www.sindhorntonson.com

SDT_5


  • 25.7K
  •  
  •  
  •  
  •