สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ คงพอได้ยินข่าวเกี่ยวกับ Whizdom 101 กันมาบ้าง ว่าเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ รับสังคมดิจิทัลแห่งแรกในเมืองไทย เป็นผลงานการพัฒนาของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่รับทราบความต้องการของผู้บริโภค จึงได้พัฒนา Whizdom101 ออกมาในรูปแบบ Mixed-Used ผสมผสานระหว่างที่พักอาศัย สำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกไว้ด้วยกัน
จะว่าไปแล้วชื่อของแบรนด์ Whizdom ถูกจับตามองตั้งแต่ MQDC เริ่มประกาศดำเนินการ ส่วนหนึ่งอาจมาจากชื่อของบริษัทฯ ผลงานที่ผ่านมา รวมถึงการพัฒนาทำเลทองริมถนนสุขุมวิท ย่าน BTS ปุณณวิถี ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ด้วยจำนวนคอนโดที่มากขึ้นทุกวัน ทุกโครงการจึงพยายามสร้างความแตกต่างให้ตนเอง เพื่อดึงดูดการตัดสินใจครั้งสำคัญของผู้บริโภค งานนี้ Whizdom Connect Sukhumvit ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เพราะที่อยู่อาศัยถือเป็นหัวใจหลักของโครงการ Whizdom Connect Sukhumvit ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ More Than Just A Living Space ที่แฝงไปด้วยความละเอียดที่ถักทอจนเป็นภาพใหญ่ สะท้อนทุกองค์ประกอบของการใช้ชีวิต เชื่อมโยงเทคโนโลยีและธรรมชาติไว้อย่างแนบเนียน
ใช้เทคโนโลยี “Energy Recovery Ventilation” (ERV) ที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทอย่างทั่วถึง
นอกจากมีพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนหย่อนใจ Whizdom Connect Sukhumvit ยังได้นำเทคโนโลยี “Energy Recovery Ventilation” (ERV) เข้ามาใช้เป็นหนึ่งในกลไกนวัตกรรมที่ช่วยให้เกิดการถ่ายเท หมุนเวียนอากาศที่ดีเข้ามาในที่อยู่อาศัยเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในห้องปรับอากาศให้เหมาะสมกับปริมาณผู้อยู่อาศัย ช่วยให้ห้องมีอากาศที่มีคุณภาพ และส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย
หากใครยังนึกภาพไม่ออกว่าห้องที่มีเครื่อง ERV และห้องไม่มีแตกต่างกันอย่างไร ในขณะที่เรานอนในห้องปรับอากาศจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากการหายใจออก การเผาผลาญของร่างกายของผู้ที่อยู่ในห้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปวดศีรษะ และเหนื่อยง่าย รวมถึงมีผลต่อการตัดสินใจ และประสิทธิภาพการทำงาน เครื่อง ERV จะช่วยเติมอากาศจากด้านนอกเข้ามาภายในห้อง และนำอากาศในห้องออกสู่ภายนอก ทำให้สภาพอากาศมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลงจนเหมาะกับการพักผ่อนที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ โครงการฯ ได้ติดเครื่อง ERV สำหรับห้องขนาดใหญ่ หรือห้องที่มีผู้นอน 2 คน (มีผลสำรวจระบุว่า ห้องนอนที่มี 2 คนขึ้นไป จะมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 1,400 ppm ซึ่งเกินค่าที่มาตรฐานงานระบบวิศวกรรม ASHREA กำหนด) เพื่อแลกเปลี่ยนอากาศบริสุทธิ์เข้ามา ทำให้ผู้อยู่อาศัยตื่นมารู้สึกสดชื่น และดึงออกซิเจนเข้ามาในห้อง
สร้างความเชื่อมั่นด้วยการรับประกันนาน 30 ปี
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การซื้ออสังหาฯ ประเภทใดก็ตามถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ นอกเหนือจากความสะดวกสบายเดินทางง่ายแล้ว การดูแลหลังการขายก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน โดยรวมแล้ว ขอบเขตการรับประกันของ MQDC มีด้วยกัน 2 ส่วนคือ รับประกันตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ รับประกันโครงสร้าง 5 ปี อาทิ เสา,คาน และพื้น เป็นต้น และรับประกันส่วนควบ 2 ปี คือ ส่วนที่ติดตรึงกับโครงสร้างไม่สามารถรื้อถอนออกไปติดตั้งใหม่ ได้แก่ ผนัง พื้นกระเบื้อง เป็นต้น
และอีกส่วนเป็นการรับประกันของ MQDC ใน 4 เรื่องหลัก ซึ่งจะรับประกันเพิ่มเติมจากที่กฎหมายกำหนดจนครบ 30 ปี ได้แก่ โครงสร้าง, หลังคา, ประตูหน้าต่าง และท่องานระบบ
วิถีชีวิตคนเมืองกับ Home Automation
ในยุคไทยแลนด์ 4.0 เราปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือเรียนรู้ที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด เหมือนกับที่ MQDC เปิดตัวแอปฯ Home Automation ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยควบคุมการเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ ผ่านแอปฯ จากนอกบ้านได้ อีกทั้งยังเป็นช่องทางให้ลูกค้าร้องเรียนผ่าน Call Center อาทิ เรื่องงานซ่อมแซม งานรับประกัน หรือติดต่อฝ่ายขาย เป็นต้น
ความละเอียดของ MQDC ไม่ได้มีแค่นี้ หากคุณได้มายังสถานที่จริงจะเห็นถึงการออกแบบ วางผังโครงการเพื่ออนุรักษ์พลังงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย ทั้งการจัดวางทิศทางอาคารเหนือ-ใต้ ให้ไม่ปะทะแสงโดยตรง การจัดโซนกั้นส่วนจอดรถแยกจากตัวอาคาร พร้อมปลูกต้นไม้เพื่อบังแนวเสียง การวางตำแหน่งไฟในห้องเพื่อลดแสงแยงตา ลดความร้อน และลดการเกิดเงาขณะอ่านหนังสือ ฯลฯ
อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ ถ้ายังไม่ได้เห็นของจริง ลองมาสอบถามหรือพูดคุยกับฝ่ายขายของ Whizdom Connect Sukhumvit ใกล้ BTS ปุณณวิถี ได้ที่งาน Whizdom Connect | Connect to Every Aspect of Life ในวันที่ 27-28 มกราคมนี้ ชมห้องชั้นสูง วิวสวย พร้อมรับโปรโมชั่นราคาพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น เริ่ม 3.9 ล้านบาท ลงทะเบียนสำหรับส่วนลด 50,000 บาท https://mqdc.com/whizdom-connect/registration/
