เซ็นทรัล รีเทล สยายปีกทุ่มงบ 28,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจ ไทย-เวียดนาม-อิตาลี หวังรายได้กว่า 270,000 ล้านบาท

  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  

 

 

การเดินหน้าของ CRC หรือ เซ็นทรัล รีเทล มีการวางรากฐานแผนระยะยาวยุทธศาสตร์ 5 ปี เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 มีการวางแผนของการดำเนินธุรกิจทั้งหมดใน Portfolio ทั้งการขยายสาขาและการทุ่มงบทางการตลาด 5 ปี กว่า 100,000 ล้านบาท เปิดปี 2566 ด้วยการตอกย้ำยุทธศาสตร์ พร้อมเร่งเครื่องสร้างการเติบโตในปี 2566 แบบก้าวกระโดดใน 5 กลุ่มธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่ The Next Sustainable Growth นำธุรกิจค้าปลีกเติบโตอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน โดยในปีนี้เตรียมทุ่มงบลงทุน 28,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างรายได้รวม 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% จากปี 2565

 

ปี 2566 กางแผนรุกขยายธุรกิจ ไทย-เวียดนาม-อิตาลี หวังรายได้กว่า 270,000 ล้านบาท

เป้าหมายของเซ็นทรัลรีเทล คือการมุ่งสู่ The Next Sustainable Growth เร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และอิตาลี โดยจะดำเนินการให้ครบทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ฟู้ด, แฟชั่น, ฮาร์ดไลน์, พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส งบ 28,000 ล้านบาทมีการแบ่งการลงทุน เป็นในประเทศ 70%-75%  ต่างประเทศ 25%-30%

 

  • ไทย มีการวางงบประมาณในการขยายธุรกิจในพอร์ตและขยายสาขาเพิ่ม แบ่งเป็น ห้างสรรพสินค้า 2 สาขา โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ 1 สาขา ไทวัสดุ 10 สาขา และ ท็อปส์ 15 สาขา ส่วน FamilyMart เซ็นทรัลรีเทลได้ส่งสัญญาณการชะลอขยายสาขาเนื่องจากโมเดลธุรกิจที่จะต้องปรับขนาดร้านให้เล็กลงเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ถือว่าน่าจับตามองว่า FamilyMart ที่อยู่ในมือของ เซ็นทรัล รีเทล นั้นจะได้ไปต่อหรือไม่

 

  • เวียดนาม การขยับขยายธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล ในประเทศเวียดนามนั้นมีความน่าสนใจไม่น้อยและถือเป็นมูฟเมนต์ใหญ่ เพราะในประเทศเวียดนามเองห้างค้าปลีกมีสัดส่วนเพียง 25% ทำให้ เซ็นทรัล รีเทล มองว่ายังสามารถเติบโตได้อีกขั้น พร้อมรุกขยายสาขา Go! ที่ประเทศเวียดนามในช่วงกลางปี 2566เพิ่ม 5-7 สาขา อย่างไรก็ตาม สำหรับการตีตลาดเวียดนาม เซ็นทรัลจะส่ง 3 แบรนด์เรือธงลงสมรภูมิค้าปลีกเวียดนาม ได้แก่ Go! Mall ค้าปลีกผสมความเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต / Mini Go! ค้าปลีกขนาดย่อมลงมา เจาะทำเลเมืองรอง ชนบท / Tops ซูเปอร์มาร์เก็ต เน้นกลุ่มกลาง-บน

 

  • อิตาลี มีการเดินหน้ายกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ในประเทศอิตาลีและรวมถึง ไทย เวียดนามอีกด้วย

 

 

คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เซ็นทรัล รีเทล มองเห็นสัญญาณบวกของภาคค้าปลีกและบริการในทั้ง 3 ประเทศ จากสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก การเปิดประเทศของจีน รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ตามเจตนารมณ์การเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย”

 

มุ่งสู่ The Next Sustainable Growth ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก

โดยเป้าหมายทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้จริงจากการสร้างปรากฏการณ์ The Next Sustainable Growth ของเซ็นทรัล รีเทล ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

 

Accelerate Core Leadership – เร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ

  • กลุ่มแฟชั่น : ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มแฟชั่น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักชูรี่ในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มของห้างลักชูรี่ทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งจากทุกห้างของกลุ่มได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขยาย และรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อีก 2 สาขา ในปีนี้
  • กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เสริมแกร่งความเป็นผู้นำในกลุ่มฮาร์ดไลน์ของประเทศไทย ด้วยการเร่งเครื่องขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท รวมอีก 10 สาขาในปีนี้
  • กลุ่มฟู้ด : สร้างการเติบโตในเวียดนามอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และ เบอร์ 1 Food Omni Retailer ด้วยการขยายสาขา Tops รวมอีก 15 สาขาในปีนี้
  • กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ขึ้นแท่นผู้นำศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community Platform ของประเทศไทย ด้วยการขยายและรีโนเวทศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ในเวียดนามก็มีการก่อสร้างศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่ๆ เพื่อเตรียมเปิดอีก 6-8 สาขา ในปี 2567
  • สร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และเร่งขยาย Proven Format และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความรวดเร็ว คล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น สำหรับสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป

 

Reinvent Next-Gen Omni Retail – ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภค ทั้งในด้าน Experience-driven ที่เชื่อมโยงทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ การใช้ AI เพื่อมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าแบบ Smart Retail รวมถึงการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย Agile Commerce และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกที่ทุกเวลาแบบ Multi-Moment

 

Build New Growth Pillars – ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม

 

Drive Partnership, Acquisition and Spin Off – ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A พร้อมนำ MEB เบอร์ 1 แพลตฟอร์ม E-Book เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

 

คุณญนน์ กล่าวปิดท้ายว่า ยุทธศาสตร์ที่วางไว้นั้นยังคงมีความเกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ก็ยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนของยุทธศาสตร์ 5 ปีต่อไป และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนตอกย้ำการเป็น Green & Sustainable Retail ผ่าน 4 กลยุทธ์ ‘ReNEW’ โดยตั้งเป้าระยะสั้นในปี 2566 ที่จะนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% และลดการใช้น้ำ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าทั้งหมด และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่าอีก 5,000 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยเซ็นทรัล รีเทล พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อส่งมอบโลกที่น่าอยู่ให้กับคนเจนเนอเรชั่นต่อๆ ไป

 


  • 3
  •  
  •  
  •  
  •