จะเป็นอย่างไรถ้า Google Maps จะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับจุดที่แออัดของระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงถนนหรือเส้นทางรถติดได้
ถึงแม้ว่าระบบ Google Maps ในปัจจุบันจะมีการแบ่งสีอย่างชัดเจนตามสถานะความแออัดบนท้องถนนอยู่แล้ว เช่น เส้นที่มีการจราจรติดหนัก = สีแดง, การจราจรที่แออัดปานกลาง = สีเหลือง, เส้นทางที่ไม่แออัด = สีเขียว
แต่ล่าสุด Google ได้แถลงการณ์ว่า “ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบอัปเดตระบบใหม่ในบางประเทศ เกี่ยวกับการเพิ่มสถานะของจุดที่แออัดบนท้องถนน เพื่อให้ผู้ใช้งานเห็นข้อมูลที่ละเอียดขึ้น และช่วยให้ตัดสินใจเลี่ยงเส้นทางนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น”
“จากเดิมที่ระบบสามารถบอกข้อมูลจุดที่แออัดได้ครอบคลุมประมาณ 200 เมือง Google จะขยายความร่วมมือกับหน่วยงานการขนส่งกว่า 10,000 แห่งใน 100 ประเทศ เพื่อให้สามารถระบุข้อมูลการเดินทาง และบอกตำแหน่งความแออัดได้แม่นยำขึ้น”
โดยการทดสอบในระหว่างนี้ เช่น ในนครนิวยอร์ก และซิดนีย์ ได้มีการระบุข้อมูลเพิ่มเติม บ่งบอกสถานะความแออัด เช่น พื้นที่นี้ความแออัดต่ำ และจำนวนรถที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ เป็นต้น หรือสถานีรถไฟที่ผู้ใช้ Google Maps จะสามารถเห็นข้อมูลว่า ขณะนี้ตู้รถไฟแต่ละโบกี้มีจำนวนคนหนาแน่นจำนวนเท่าไหร่ แทนที่จะบอกเพียงข้อมูลทั่วไปว่า แออัด – ไม่แออัด
นอกจากนี้ Google Maps จะเพิ่มฟีเจอร์อีกหนึ่งอย่างในระบบ Android คือ ‘ไทม์ไลน์ของคุณ’ (Your Timeline) เพียงแค่เราแตะที่รูปโปร์ไฟล์ Google account และเข้าแถบ Insight เพื่อดูประวัติย้อนหลังของเราว่าเคยไปที่ไหน, วิธีการขนส่งมวลชนที่เราใช้, ระยะทางเท่าไหร่, ใช้เวลาไปกี่นาที ฯลฯ
โดยเราสามารถเลือกดูตรงที่ค่า ‘Trips’ เพื่อเข้าไปดูประวัติการรวบรวมสถานที่ที่เคยไปมาก่อนหน้านี้ และสามารถ export ข้อมูลเพื่อแนะนำต่อไปให้เพื่อนได้อีกด้วย
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/22730338/Timeline_Insights.gif)
อย่างไรก็ตาม Google Maps สามรถปิดแจ้งเตือนได้สำหรับคนที่ไม่ต้องการให้ระบบรวบรวมประวัติย้อนหลังของเรา แค่เข้าไปปิดโลเคชั่นของเราเฉพาะฟีเจอร์นั้นๆ
ที่จริงความจริงจังเรื่องการอัปเดตระบบเกี่ยวกับจุดที่แออัด ให้สามารถบอกข้อมูล in details ได้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ผู้คนสามารถหลีกเลี่ยงและทำตามมาตรการ social distancing ให้ได้มากที่สุด
ที่มา: the verge
