LPN คัมแบ็กอย่างเก๋า รีเฟรชแบรนด์ในรอบ 5 ปี ผุดโครงการใหม่ 17 โครงการ พร้อมรุกตลาดต่างจังหวัด มั่นใจรายได้เกิน 7,600 ล้าน

  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  

 

LPN อสังหาฯ รุ่นเดอะ กลับมาอีกครั้งในรอบ 5 ปี ด้วยการเดินหน้าเต็มกำลัง รีเฟรชแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้นพร้อมรุกกลุ่มลุกค้า GenY พร้อมวางแผนรุกพัฒนาโครงการให้เกิดความน่าอยู่ในทุกมิติ ภายใต้แบรนด์ “168” โดยมีแผนเปิดตัวโครงการ 17 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท

 

LPN คัมแบ็ก! ดันแบรนด์ใหม่ 168 ให้ครอบคลุมทุกมิติ

ปี 2566 เป็นปีที่ LPN ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายมิติ ทั้งการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสถดถอย อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2566

 

บริษัทฯ จึงวางแผนยกระดับการบริหารจัดการเพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่การนำร่องเผยโฉมรูปลักษณ์ใหม่ของการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ ‘168’ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับ LPN ได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงแผนการขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยไปสู่โครงการบ้านพักอาศัยระดับพรีเมี่ยม

 

โดยการก้าวสู่มิติใหม่ของ LPN ที่ยึดความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาองค์กรเป็นสำคัญ แอลพีเอ็นจึงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ของแบรนด์ ‘168’ รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารจัดการภายในให้สามารถกระจายรายได้อย่างสม่ำเสมอ และมีการเติบโตของกำไรอย่างน้อย 10% ต่อปี ตามแผนการขับเคลื่อนองค์กร ‘Turnaround” ภายใต้แนวคิด “Transform for Better Living”

 

LPN ผุด 17 โครงการ วางกลยุทธ์  Scale & Speed

ในปี 2566 LPN ได้วางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 7,600 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 20 % จากปี 2565 โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “168” แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 5,000ล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัย 13 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดพรีเซลล์ 3 โครงการ ที่พักอาศัยระดับพรีเมี่ยม ได้แก่ Residence 168 ราชพฤกษ์ / Maison 168 เมืองทอง และ Villa 168 เวสต์เกต พร้อมกันในวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้

 

 

และมีกำหนดเริ่มส่งมอบโครงการในปี 2566 จำนวน 14 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ ลุมพินี คอนโดทาวน์ เอกชัย 48 และลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 (เฟส 3) และบ้านพักอาศัย 12 โครงการ ได้แก่ Residence 168 ราชพฤกษ์, Residence 168 อ่อนนุช 46, Maison 168 เมืองทอง, Villa 168 เวสต์เกต, Venue 168 เวสต์เกต, Venue 168 คูคต สเตชั่น, Venue 168 ราชพฤกษ์, Haus 168 เวสต์เกต, Haus 168 คูคต สเตชั่น, Haus 168 ราชพฤกษ์, และโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ

 

สำหรับในปี 2565 แอลพีเอ็นมีรายได้รวม 6,136 ล้านบาท เติบโต 42% เมื่อ เทียบกับปี 2564 แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 3,769 ล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัย 2,064 ล้านบาท และรายได้จากการธุรกิจเช่า 303 ล้านบาท รวมทั้งยังมีรายได้พิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน 2,590 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่า 1,845 ล้านบาท ที่จะสร้างรายได้ในปี 2566-2568 และสินค้าคงเหลือ (Inventory) มูลค่า 7,000 ล้านบาท

 

LPN รุกตลาดต่างจังหวัดในรอ 5 ปี

ปี 2566 นี้จะเป็นปีแรกในรอบ 5 ปีของ LPN ที่จะขยายการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในต่างจังหวัด  อีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดอุดรธานี ชลบุรี พัทยา และชะอำ มาแล้ว เนื่องจาก   เห็นโอกาสในการขยายการลงทุนตามการขยายตัวของเมือง เส้นทางคมนาคม และความต้องการของผู้ซื้อโดย LPN จะเน้นขยายการพัฒนาโครงการไปในจังหวัดที่มีศักยภาพในการขยายตัวและกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในทำเลเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor)

 

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมที่ถือเป็นบิ๊กมูฟครั้งใหญ่ของ LPN ที่ห่างหายจากการสร้างสีสันให้กับตลาดไประยะหนึ่ง น่าจับตามองว่าการรุกตลาดในครั้งนี้จะสามารถรีเฟรชแบรนด์ให้ขุถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้หรือไม่

 

#LPNdevelopment #transformforbetterliving #Striveforexcellence #LPN168brand #6greenlpn


  • 6
  •  
  •  
  •  
  •