ไม่เพียงเป็นประเด็นในบ้านเราเท่านั้น สำหรับกรณีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันหรือส่วนแบ่งรายได้ (GP) ของบริการ Food delivery จากร้านอาหาร ซึ่งในต่างประเทศมีการใช้โมเดลนี้เช่นเดียวกัน โดยมีการเรียกเก็บอยู่ประมาณ 20-30% และเกิดประเด็นว่า เหมาะสมหรือไม่ในสถานการณ์ตอนนี้ที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญความยากลำบากจากการแพร่ระบาด COVID-19
นายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกประกาศจำกัดการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นของผู้ให้บริการส่งอาหารหรือ Food delivery จากร้านอาหารได้ไม่เกิน 15% เป็นการชั่วคราว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไปจนถึงสถานการณ์ฉุกเฉินจะสิ้นสุด หรือจนกว่าร้านอาหารจะสามารถเปิดให้บริการลูกค้านั่งรับประทานได้ที่ร้านตามปกติ
การออกประกาศนี้ ก็เพื่อไม่ให้กระทบรายได้ของร้านอาหาร หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคระบาดที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านได้ และขณะนี้รายได้ของร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาช่องทางเดลิเวอรี่เป็นหลัก ซึ่งตามปกติ Food delivery จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากร้านอาหารราวอ20-30% ทำให้ร้านอาหารได้กำไรไม่มากนัก โดยเฉพาะรายเล็ก ๆ ที่แทบจะมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการพยุงกิจการต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีบริษัท Food delivery หลายแห่งออกมาตรการช่วยเหลือร้านค้าแล้ว อาทิ Grubhub ผ่อนผันการชำระค่าคอมมิชชั่นให้กับร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากบริษัท , UberEats ประกาศยกเว้นค่าคอมมิชชั่นให้กับร้านอาหารรายใหม่ที่เข้ามาเป็นพันธมิตร ฯลฯ
ที่มา : businessinsider