หนุ่มสาวชาวการตลาดหรือนักธุรกิจคนใดที่ใจยังหวานเย็นไม่เริ่มปรับเปลี่ยนแนวคิดตามโลกที่เทคโนโลยีก้าวไม่หยุดในยุคนี้ คงเริ่มรู้สึกสั่นไหวกันบ้างแล้ว เมื่อดิจิทัลได้รุกคืบเข้ามากลืนกินการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการก้าวเข้าสู่การตลาดออนไลน์และอีคอมเมิร์ซเต็มตัวของกลุ่มเซ็นทรัล Central Online, Big C, CP 7-11 รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยยังระบุว่าปี พ.ศ. 2016 ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งขอปิดสาขาเก่าหรือลดสาขาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนหันไปทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนกันเสียส่วนใหญ่ เป็นต้น
จากตัวอย่างที่กล่าวมานี้คงพอทำให้เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่นักการตลาดหรือนักธุรกิจจะต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยียุคใหม่ในการดำเนินการธุรกิจ โดยอนาคตทิศทางของการทำธุรกิจในปีหน้ามีดังนี้
1. อินเทอร์เน็ตเพื่อทุกสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT)
ธุรกิจเป็นเรื่องของความไว วันนี้เกือบทุกคนมีอินเทอร์เน็ตใช้ในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพียงเข้า Google ก็สามารถค้นหาข้อมูลหรือข่าวสารต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อสินค้าที่คนมักเสิร์ชหาข้อมูลหรือเปรียบเทียบคุณภาพก่อนสั่งซื้อ หรือจะเป็นในเรื่องการติดตามหรือติดต่อองค์กรที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ ทั้ง Facebook, Instagram, line หรือ Application เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันไม่เพียงแต่หน่วยงานเอกชนเท่านั้นที่เห็นความสำคัญ แต่ภาครัฐก็กำลังผลักดันการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ เช่นโครงการ Mobile Intelligent Cloud Solution หรือ MICS ที่ กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ได้ร่วมมือกับบริษัท วี บิลด์ แอนด์ โอเปอร์เรต จำกัด สร้าง Mobile Application Platform เพื่อให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ เพิ่มโอกาสและช่องการในการติดต่อสื่อสารกับองค์กรโดยตรงกับประชาชนได้มากขึ้น
2. e-Commerce ซื้อขายจบด้วยปลายนิ้ว
ระบบซื้อขายสินค้าแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าร้าน ที่สำคัญหมดข้อจำกัดในเรื่องเวลาและสถานที่ด้วย โดยมีทั้งรูปแบบ E-Commerce Stand-Alone การทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และ e-Commerce Marketplace เว็บไซต์ตัวกลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เช่น Lazada, 11 Street, Kaidee, Amazon, Ebay เป็นต้น
นอกจากนี้ใครที่กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควรมีระบบจัดการหน้าร้านที่เรียกว่า POS ซึ่งเป็นระบบดูแลจัดการบริหารร้านค้าที่สามารถเช็กสต็อก ซื้อขาย ดูรายรับบัญชี รวมทั้งเปิดและปิดร้านบนโลกออนไลน์ได้ สำหรับผู้ให้บริการของไทยก็อย่างเช่น iget POS เป็นต้น
3. ลดต้นทุน ขยายช่องทางการรับรู้ เติมรายได้ ย้ายงบประมาณไปพัฒนาการตลาดดิจิทัล
โดยปกติแล้วการที่ธุรกิจของคุณจะเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ หรือเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายพื้นที่ ได้นั้นจะต้องทำการขยายสาขาให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีต้นทุนมหาศาลในการก่อสร้าง การตกแต่ง และการหาทรัพยากรบุคคลมาบริหารจัดการดูแลสาขาใหม่ แต่เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ด้วยระบบ conference ระบบการประชุมออนไลน์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การประชุมอีกต่อไป เพราะธุรกิจสถาบันการเรียนการสอน ได้นำระบบ conference มาช่วยลดต้นทุน เพิ่มช่องทางสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นการสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต ตัวอย่างเช่น สถาบันกวดวิชา Eureka ที่มีสาขากระจายตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ในกรุงเทพ ฯ อยู่ 6 สาขา แต่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มนักเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง โดยการ ให้ครูพี่ต้อม แนะแนวบทเรียนคณิตศาสตร์แสนสนุก ถ่ายทอดการเรียนการสอนสดออนไลน์ ด้วยระบบ CAT conference ส่งตรงมายังผู้บริหาร คณะครูอาจารย์ และนักเรียน โรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมกับ CAT ในการทำกิจกรรม “CAT Testival เทศกาลลองดีให้ถูกที่ ส่งสัญญาณความแนวแนะน้องให้ถูกทาง” ที่พานักแสดงพิธีกรชื่อดังและเหล่าอาสาสมัครไปให้ความรู้กับนักเรียนชั้นมัทธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” จังหวัดสระบุรี
4. มีอาชีพใหม่ที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอลและเทคโนโลยี
เมื่อเทคโนโลยีใหม่ถือกำเนิด ย่อมแน่นอนว่าจะต้องมีทรัพยากรบุคคลมาทำหน้าที่ดูแลและจัดการสิ่งเหล่านี้เช่น Chatbot, Digital marketing specialist หรือ On-demand-service application เป็นต้น
5. เงินเคลื่อนไหวอยู่แต่ในออนไลน์
เมื่อการซื้อขายย้ายชีวิตไปฝากอยู่บนเทคโนโลยีหรือโลกออนไลน์เป็นหลัก นักธุรกิจหรือนักการตลาดที่เรียกกันว่า Startup จึงผุดไอเดียปรับปรุงการทำธุรกรรมด้านการเงิน เช่น Fintechธุรกิจที่สร้างและขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีและโลกออนไลน์เป็นหลัก, Block Chain & Digital Currency เทคโนโลยีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ผ่านคนกลาง เป็นต้น
มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงเริ่มมองหาว่าเทคโนโลยีใดกันที่จะตอบโจทย์ธุรกิจของตนที่สุด เพื่อก้าวให้ล้ำกว่าผู้อื่นในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560 โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท จะมีการจัดงานสัมมนาที่สามารถตอบโจทย์นักธุรกิจที่ต้องการปรับตัวให้ทันยุค 4.0 ในหัวข้อ “Digital Transformation ปรับโฉมธุรกิจด้วยแนวคิดดิจิทัล” งานสัมมนาที่ชวนคุณไปรู้ทิศทางอนาคตโลกธุรกิจให้มากขึ้น โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญชื่อดังมาร่วมกันชี้ทิศทางและพูดคุยแนวทางการใช้เทคโนโลยีในอนาคตของธุรกิจในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น “NO LINE MARKETING อนาคตธุรกิจค้าปลีกที่ไร้ขีดจำกัด”และ “MOBILE INTERLIGENTCLOUD SOLUTION (MICS) นวัตกรรมอัจฉริยะสู่การออกแบบ โลกยุคอนาคต” ใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ http://cattestival.catebusiness.com ตั้งแต่วันนี้ – 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560
รายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/CATeBusinessTH/
