เทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2017?

  • 188
  •  
  •  
  •  
  •  

เห็นกันชัดๆแล้วว่าปี 2016 ทำเราคาดไม่ถึงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอเมริกา Uber ย้ายบริการออกจากจีน และคำถามที่ตามมาคือ “จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2017?”

และนี่คือ 7 คำทำนายสำหรับเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2017

 

1. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นตลาดอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่กว่าอเมริกาไปแล้ว

กว่า 300 ล้านคนที่ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคอาเซียนในปี 2017 เทียบกับอเมริกาที่มีแค่ 225 ล้านคนเท่านั้น แอปฯระดับโลกหรือบริการที่คุณคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นแอปฯอีเมล สื่อสังคมออนไลน์ แชทแอปฯ แอปฯพวกนี้มีฐานผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าฐานผู้ใช้งานอเมริกา บริษัทอินเตอร์เน็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องขยายใหญ่กว่าในอเมริกา

ไม่ช้านี้แน่นอน

o7wnbwl8sfk-wanaporn-yangsiri-1024x682

2. การระดมทุนเป็นเรื่องไม่ง่ายอีกแล้ว (ฉะงั้นกอดเงินที่มีของคุณไว้เถอะ)

การระดมทุนเป็นเรื่องยากขึ้นทุกทีๆในปี 2017 สำหรับหลายๆบริษัท บรรยาการของนักร่วมลงทุน (Venture Capital หรือ VC) ที่โหดหิน และสภาพแวดล้อมการหาทุนที่ท้าทายขึ้นทุกที เราเห็นเงินมันกองอยู่ข้างหน้า แต่นักลงทุนและนักลงทุนร่วมพวกนี้หลังๆเรียกร้องคุณสมบัติของตัวบริษัทมากเกินควรที่จะให้เงินทุน ถ้าคุณไม่รู้จักคำว่า “CAC (Customer Acquisition Cost)” คืออะไร ก็ไม่ต้องไปขอทุนจากใครแล้ว ไม่มีใครให้หรอก

ซึ่งถ้าเป็นที่แล้วคุณอาจจะได้ก็ได้ (เพราะนักลงทุนตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักเลยว่า CAC คืออะไร)

 

3. อย่างน้อยก็มี 3 บริษัทที่หาเงินทุนได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญละกัน

2017 เป็นปีที่การหาทุนในทุกๆรอบนั้นมีไว้สำหรับบริษัทเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ทำให้เกิดสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆได้ ขนาดสตาร์ทอัพอย่าง Gojek and Grab ยังไม่ได้เงินทุนในปีที่แล้วเลย เราอยู่ในภูมิภาคเราอยู่ในภูมิภาคที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่เกิดขึ้นและผู้ประกอบการที่ฉลาดๆจะขยายกิจการได้เร็วก็ต่อเมื่อมีทุนหนุนเพื่อกำจัดคู่แข่งจากนอกภูมิภาค

A Grab bike rider is seen during rush hour traffic in Jakarta

4. บริษัทที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านเหรียญจะต้องถูกซื้ออีกหลายๆเจ้า

เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา 3 บริษัทอย่าง Jobstreet, iProperty และ Lazada ก็ถูกซื้อไปแล้ว และแนวโน้มที่บริษัทใหญ่ๆจะถูกซื้อก็มีมากตามไปด้วย ผู้ซื้อกิจการจากประเทศฝั่งตะวันตกและทางเหนือซึ่งได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ก็รู้ดีว่าไปคนเดียวท่าจะไม่ไหว ฉะนั้นต้องร่วมมือกับผู้ประกอบการท้องถิ่นเพื่อเจาะตลาดที่ยังไม่มีใครเคยเจอมาก่อน สามบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างสูง Baidu, Tencent และที่ขาดไม่ได้อย่าง Alibaba ก็เตรียมดีลใหม่ๆใหญ่ๆกับบริษัทในภูมิภาคนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว

5h_dmux_7re-li-yang-1024x682

5. ปีทองของจีน

จีนมีอิทธิพลแบบเงียบๆแต่รวดเร็วมากในภูมิภาคนี้ มากกว่าทุกๆบริษัทอินเตอร์เน็ตด้วยซ้ำด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ผู้ประกอบการชาวจีจะทุ่มเงินทุนมากในภูมิภาคนี้และอีกหลายบริษัทของจีนก็จะลงทุนเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีเงินไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

china_tech-600x330

6. Fintech มาแรงทุกหย่อมหญ้า

มีนักธุรกิจน้อยใหญ่ลงทุนใน Fintech เช่นกัน แต่ในปี 2017 Fintech จะแทรกซึมไปอยู่ทุกๆภาคส่วน ผู้บริโภคยอมเปิดใจใช้เทคโนโลยี รัฐบาลเริ่มคุ้นเคยกับไอเดียของ Fintech และธนาคารก็กำลังมองหาผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อน Fintech ด้วย

20151107100541-shutterstock-281485034

7. จะต้องมีสตาร์ทอัพเงินหมดทุกอาทิตย์แน่ๆ

ต่อให้มีโปรไฟล์ดีๆก็เถอะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะปิดกิจการเงียบหายไปซะงั้น ไม่มีใครเคยบอกว่าการสร้างธุรกิจที่ทำนวัตกรรมขึ้นมานั้นง่าย ข่าวดีคือทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพที่ล้มเหลวจะได้รับบทเรียนที่ทำให้ประสบความสำเร็จไปตามๆกัน

 

ตื่นเต้นกับปี 2017 แทนจริงๆ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปลี่ยนโลกอินเตอร์เน็ตและเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนั้น

 

แหล่งที่มา

http://www.businessinsider.my/patrick-grove-7-predictions-asean-tech-scene-2017


  • 188
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th