Ban Only! ‘ยามาโตะ’ นำร่องโมเดลเมืองแรกในญี่ปุ่น ใช้กฎ ‘ห้าม’ ใช้โทรศัพท์ขณะเดินถนน – พื้นที่สาธารณะ เริ่ม 1 ก.ค.นี้

  • 149
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในโลกที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทุกเพศ ทุกวัย เชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดน ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่า ในปัจจุบันผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตติดโทรศัพท์กันมากขึ้น มีพฤติกรรมการติดหน้าจอเป็นเวลานาน ระหว่าง 7-9 ชั่วโมง/วัน ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายทรุดโทรมกว่าอายุจริง +2 ถึง 5 ปี

ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย Western Washington ในสหรัฐฯ ได้ศึกษาพฤติกรรมการเดินของบุคคลอื่นที่มักจะใช้โทรศัพท์ไปด้วย พบว่า ส่วนใหญ่ใช้ฟังเพลงในระหว่างเดิน, คุยโทรศัพท์ และ สำหรับคนที่เดินกันเป็นคู่และใช้โทรศัพท์ไปด้วย จะทำให้การเดินนั้นช้าลง หยุดดูโทรศัพท์บางครั้ง และเปลี่ยนทิศทางการเดินบ่อยขึ้น ที่น่าตกใจคือ มีโอกาสน้อยที่จะรับรู้ว่ามีบุคคลอื่นอยู่รอบข้าง หรือมีกิจกรรมการจราจรอยู่รอบๆ

ที่น่าสนใจ คือ ในงานวิจัยระบุว่า ‘การเดินของมนุษย์’ ต้องอาศัยทักษะในการรับรู้หลายอย่างพร้อมๆ กัน เช่น สมาธิ, กระบวนการรับรู้ (จากการเห็น – การได้ยิน), การประมวลผลข้อมูลรอบตัว, การตัดสินใจ และการเคลื่อนไหว เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเราใช้โทรศัพท์มือถือในขณะเดิน จะทำให้ทักษะในการรับรู้ทั้งหมดลดลงไปทันที

ดังนั้น ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงมีรายงานข่าวออกมาบ้างว่า มีหลายประเทศสนใจที่จะใช้มาตรการ ‘ห้าม’ (ban) ใช้โทรศัพท์ในขณะเดิน หรือทำกิจกรรมที่ขัดขวางการจราจร และต้องถูกลงโทษ อย่างเช่น เมืองโฮโนลูลู ในรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ที่ประกาศห้ามคนเดินถนนมองโทรศัพท์, ส่ง Text หรือ ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในระหว่างเดินพื้นที่สาธารณะ โดยมีบทลงโทษถูกปรับเงินเป็นจำนวน 15 – 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ (463 – 1,081 บาท) และปรับสูงสุดเป็นเงิน 99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (3,059 บาท)

 

 

ล่าสุด ข้ามโลกมาฝั่งเอเชียกันบ้าง ‘เมืองยามาโตะ’ ในจ.คานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองแรกที่ประกาศกฎระเบียบ ‘ห้ามใช้’ โทรศัพท์ขณะที่เดินถนน หรือตามพื้นที่สาธาณะโดยเด็ดขาด ซึ่งในวันนี้ (26 มิ.ย. 2563) ได้ผ่านร่างกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 จะเตรียมบังคับใช้อย่างเป็นทางการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่เพิกเฉยต่อข้อกฎหมายนี้ แต่คาดว่ากฎหมายนี้จะช่วยให้ผู้คนมีจิตสำนึกที่ดีขึ้น และสามารถลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์ได้มากขึ้น

โดยผลสำรวจก่อนหน้านี้ ระบุว่า ประชากรทุก 6,000 คน ที่เดินผ่านสถานีรถไฟ 2 แห่งในเมืองยามาโตะ มีประมาณ 12% ที่ใช้โทรศัพท์ในขณะเดิน และบางกลุ่มก็ประสบอุบัติเหตุ และเดินชนสิ่งของที่อยู่ริมถนน เช่น เก้าอี้ และเสาไฟ

ทั้งนี้ ยังมีการคาดการณ์กันว่า กฎหมายนี้น่าจะขยายผลต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่น ซึ่งมีปริมาณคนทำงาน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น กรุงโตเกียว, เกียวโต, ฮอกไกโด และ โอซาก้า เป็นต้น

ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญในญี่ปุ่นพูดว่า ‘เอเชีย’ เป็นกลุ่มภูมิภาคที่ใช้โทรศัพท์ค่อนข้างมาก และเกือบจะใช้ตลอดเวลา ดังนั้น กฎหมายดังกล่าวคาดหวังที่จะยกให้เป็นโมเดลนำร่องของประเทศอื่นในอนาคตได้

 

 

ที่มา : japantoday, westerntoday


  • 149
  •  
  •  
  •  
  •  
prakai
'ชีวิต' ต้องมีสีสันหลากหลาย เหมือนกับความรู้ที่มีหลายมิติ ทั้งไลฟ์สไตล์, การตลาด, ดิจิทัล, ประเพณี-วัฒนธรรม