[ข่าวประชาสัมพันธ์]
เอสซีจี ตอกย้ำบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำบนเวทีโลก สะท้อนความสำเร็จจากงาน INTERCEM Asia 2025 งานประชุมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ระดับโลก ซึ่งเอสซีจีร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมงานจาก 52 ประเทศทั่วโลก กว่าหนึ่งพันคน ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีใหม่ พร้อมเปิดมุมมองขยายโอกาสทางธุรกิจท่ามกลางความท้าทาย และการปรับตัวรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการก่อสร้าง ลูกค้า และตลาดเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ

คุณสุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน กล่าวสรุปผลการจัดงาน INTERCEM Asia 2025 ถึงการตอบรับด้วยดีจากผู้เข้าร่วมงาน โดยเอสซีจีมีการนำเสนอข้อมูลในเรื่อง SCG’s Inclusive Green Growth: มุมมองเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน และนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ซึ่งเอสซีจี ได้แสดงศักยภาพในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ที่พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมกรีนเพื่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนแนวทาง Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นจุดแข็งด้านนวัตกรรมกรีน Low-carbon Cement และโซลูชันงานก่อสร้างอย่างยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียและตลาดโลก ผ่านไฮไลต์
- SCG LC3 Structural Cement: ปูนงานโครงสร้าง คาร์บอนต่ำ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 30-40% โดยไม่กระทบต่อคุณภาพการใช้งาน โดดเด่นด้วยมาตรฐานระดับสากล เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงควบคู่ความยั่งยืน
- SCG 3D Printing: โซลูชันก่อสร้างยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปสามมิติปูนคาร์บอนต่ำ ช่วยเพิ่มความเร็ว ในการก่อสร้าง ลดเศษวัสดุ ลดแรงงาน และเปิดทางสู่การออกแบบสถาปัตยกรรมอิสระ ชูศักยภาพของเอสซีจี ในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับอุตสาหกรรมก่อสร้าง
เอสซีจี มีความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ จากการผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีต ภายในปี 2050 พร้อมบูรณาการความยั่งยืนด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต เทคโนโลยีการก่อสร้าง และความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน ประกอบด้วย 4 กรีน ได้แก่
- Green Products: การพัฒนานวัตกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีตคาร์บอนต่ำ ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเอสซีจี นับเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายแรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน EPD (Environmental Product Declaration) มาตรฐาน North America
- Green Process: เพิ่มการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกและการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต โดยมีเป้าหมายการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก 70 เปอร์เซ็นต์ และพลังงานทดแทน 53 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2030 และตั้งเป้า 100 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2040
- Green Construction: การพัฒนาโซลูชันการก่อสร้างอย่างยั่งยืน ด้วยการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ ลดระยะเวลาและลดการใช้ทรัพยากร
- Green Society: ความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำให้เป็นไปได้จริง
รวมไปถึงการนำเสนอเนื้อหาเรื่อง Saraburi Sandbox เมืองคาร์บอนต่ำต้นแบบแห่งแรกของไทย ในการผลักดันคลัสเตอร์อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ผ่านแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเรียกว่ารูปแบบ PPPP (Public – Private – People – Partnership) โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนถึง 5 ล้านตัน CO2 ภายในปี 2027 ซึ่งโครงการนี้ มุ่งเน้นไปที่ 5 ด้านหลัก ได้แก่
- การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล
- การเปลี่ยน Waste ให้มีมูลค่า ดำเนินการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และการรีไซเคิลเพื่อลดขยะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่ม
- อุตสาหกรรมสีเขียวและผลิตภัณฑ์สีเขียว ส่งเสริมการผลิตปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ โดยลดการใช้ปูนเม็ด และเพิ่มการใช้วัสดุทางเลือก เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต
- อุตสาหกรรมการเกษตรคาร์บอนต่ำ สนับสนุนเกษตรกรปลูกพืชพลังงาน เช่น หญ้าเนเปียร์ ใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ช่วยลดการเผาพืชผล และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
- พื้นที่สีเขียวและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ขยายพื้นที่ป่าและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ภายในการจัดงานครั้งนี้ ยังได้เชิญคณะผู้ร่วมงานเข้าเยี่ยมชม SCG Home Experience สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ศูนย์แสดงสินค้านวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัย พร้อมชมนวัตกรรม SCG 3D Printing เทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปสามมิติด้วยปูนคาร์บอนต่ำ ที่สามารถสร้างโครงสร้างที่มีความซับซ้อนสูง ตอบโจทย์งานสถาปัตยกรรมล้ำสมัย และ TORA S-ONE เครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซลที่ตราเสือพัฒนาร่วมกับคูโบต้า เพิ่มความเร็วในการฉาบผนังปูนซีเมนต์ได้ถึง 40% ช่วยยกระดับฝีมือแรงงาน ใช้วัสดุได้อย่างคุ้มค่า และเยี่ยมชมโซนต่าง ๆ ภายในศูนย์ฯ
การจัดงาน INTERCEM Asia 2025 ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมกรีน และโซลูชันงานก่อสร้างคาร์บอนต่ำของเอสซีจี โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของเอสซีจีในฐานะผู้บุกเบิกนวัตกรรมที่สามารถเชื่อมโยงความร่วมมือระดับภูมิภาคได้อย่างเป็นรูปธรรม พันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน ต่างแสดงความสนใจต่อศักยภาพของโซลูชัน และวิสัยทัศน์ที่เอสซีจีขับเคลื่อน พร้อมประกาศจุดยืนสู่การเป็นผู้นำระดับภูมิภาคที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ‘Inclusive Green Growth’ ด้วยความเชื่อมั่นว่า “ความร่วมมือวันนี้ คือรากฐานของอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน”
[ข่าวประชาสัมพันธ์]