ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระดมเหล่าผู้ประกอบการและนวัตกรด้าน Travel Tech Startup ผู้สร้างสรรค์แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่นด้านการท่องเที่ยวมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านนวัตกรรมกับผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายในงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” เพื่อให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล ในการเพิ่มเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน  ทางธุรกิจ

ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์  รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สร้างวัคซีนการท่องเที่ยวหลังวิกฤติ COVID-19” และภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนา หัวข้อ Surviving Disruptive Startup Thailand สร้างจุดแข็งให้อยู่รอด” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย คุณรังสรรค์ พรมประสิทธิ์ CEO of QueQ (Thailand) Co.,Ltd. คุณเพียงพลอย จิตรปิยธรรม Co-Founder Local Thailand คุณธีระ ศิริเจริญ CEO & Co-Founder Golfdigg Co.,Ltd พร้อมทั้งการเสวนาช่วงบ่ายในหัวข้อ “Share to Travellers X Startup เที่ยวสบายสไตล์ 4.0” โดย คุณปราโมทย์ กีรติเกรียงไกร Founder & Head of Product, KORBOK.com และคุณสมศักดิ์ บุญคำ Founder & CEO Local Alike Co.,Ltd.

 

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กล่าวว่าการเตรียมความพร้อมของการท่องเที่ยวไทย ในเรื่องของมาตรฐานการให้บริการและมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างวัคซีนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะสร้างให้เกิด “Trust” หรือความเชื่อมั่นในมาตรการป้องกันโรคและมาตรฐาน ในการบริการที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี ให้เกิดประโยชน์ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายใต้คำว่า BEST ได้แก่ B-Booking (in Advance) E-Environment S-Safety (Come First) และ T-Technology (Enhance Tourist Experience)

เราจึงต้องสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการ Startup ใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก ททท.จะส่งเสริม Startup ที่มีศักยภาพ เข้ามาช่วยสร้างให้เครื่องมือของตนเพิ่มความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไป

โดย ททท. จะร่วมผลักดันให้เกิดการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเริ่มจากการฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และคาดหวังว่า การท่องเที่ยวในประเทศจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ภายในไตรมาสที่ 3 และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศได้กว่า 4 แสนล้านบาท” คุณฐาปนีย์ ได้ให้ความมั่นใจ

 

การเสวนาหัวข้อ “Surviving Disruptive Startup Thailand สร้างจุดแข็งให้อยู่รอด”

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณรังสรรค์ พรมประสิทธิ์
CEO of QueQ (Thailand) Co.,Ltd.

คุณรังสรรค์ กล่าวว่าการริเริ่มทำแพลตฟอร์ม QueQ เนื่องจากได้เห็นปัญหาหรือ pain point ที่ประสบอยู่คือจากการเสียเวลารอคิว ทำให้ร้านส่วนใหญ่ต้องมีการแจกบัตรคิวและลูกค้าต้องรอคิวหน้าร้าน ซึ่งทำให้ลูกค้าเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เราจึงเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยลูกค้าทุกคนสามารถจองคิวผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ และใช้บริการหรือรับสินค้าเมื่อถึงคิวของตน ไม่ต้องเสียเวลารอ

โดย “QueQ ได้ร่วมมือกับ ททท. ทำโครงการ ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ QueQ ได้เพื่อลดความแออัดในการใช้บริการ เช่น ร้านทำผม คลินิก สปา ลูกค้าสามารถจองคิว พบแพทย์ สปา ช่างตัดผม ผ่านทางระบบได้เลย นอกจากนี้ เราได้คิดค้น Model ใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่หาดไร่เลย์ จ.กระบี่ เนื่องจากหาดนี้ถูกล้อมไปด้วยภูเขา ทางที่จะไปได้คือทางเรือเท่านั้น ซึ่งปกติเรือจะจอดตรงจุดไหนก็ได้ของหาด เป็นภาพที่คุ้นชินของที่นี่ แต่พอโควิดมาจำเป็นต้องมีการจัดระบบและใช้การสแกน ไทยชนะ จะทำอย่างไรให้เรือเข้าออกได้อย่างเป็นระเบียบ จึงพัฒนาระบบขึ้นมา โดยทำทุ่นห่างออกไป 50 เมตร ให้เรือทุกลำไปจอดที่ทุ่น และมีระบบการจองคิวลำไหนถึงคิวก็แล่นเรือมาส่งลูกค้า ยกตัวอย่างให้นึกถึงสนามบินเป็นหลักเพื่อเห็นภาพง่ายๆ คือ คันนี้เข้า คันนี้ออก ตามคิวที่ได้รับ” คุณรังสรรค์บรรยายให้เห็นประโยชน์ของการใช้ระบบการจองทางออนไลน์ ที่ลดความแออัดในการใช้บริการลงได้

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณเพียงพลอย จิตรปิยธรรม
Co-Founder Locall Thailand

นอกจากนั้น คุณเพียงพลอย ผู้บริหาร Locall Thailand ได้เล่าถึงการ เข้ามาในเรื่องของการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เกิดขึ้นจากการที่เห็นภาพของคนที่เดือดร้อน เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ไกด์หรือมัคคุเทศก์ และตัวเราเองคือ SMEs ไปจนถึงร้านค้าชุมชน จึงเกิดแนวคิดว่าจะช่วยชุมชนได้อย่างไรด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ทำให้เกิดแพลตฟอร์ม Locall ขึ้นมาเกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เริ่มจากทำ Delivery ให้ร้านค้าเล็กๆ ที่ไม่พร้อมกระโดดสู่ตลาดออนไลน์ แต่สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์ COVID-19 และยังคงมีรายได้จุนเจือ รวมถึงสนับสนุนคนในชุมชนให้มีอาชีพการสร้างชุมชนให้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง

“โดยตอนนี้เรามีย่านที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้ออาหารและสินค้าทั้งหมด 12 ย่าน เช่น ประตูผี เยาวราช ตลาดพลู คลองเตย วังบูรพา บางซื่อ ด่านสำโรง ราชพฤกษ์ ตลาดในสระบุรี วัดด่านสำโรง สุทธิสาร ล่ามช้าง (เชียงใหม่) โดยเฉพาะคลองเตยที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่เยาวราช ทำไมไม่มีใครนึกถึงคลองเตย เราจึงต้อง สร้างความเข้มแข็งให้กับทุกชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดย “เชื่อมโยงทั้งย่านถึงบ้านคุณ” สามารถสั่งหลายร้านได้ในออเดอร์เดียว สิ่งที่เราได้คือ สนับสนุนร้านค้าในชุมชน สร้างรายได้ให้พี่คนขับในชุมชนและได้เป็น ส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชน” คุณเพียงพลอย ได้กล่าวสรุป

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณธีระ ศิริเจริญ
CEO-Founder Golfdigg Co.,Ltd.

คุณธีระ ให้ข้อมูลถึงประโยชน์และความสำคัญของการใช้แอปพลิเคชั่น golfidgg  ช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน  ทำให้สนามกอลฟ์ต้องหยุดให้บริการ และไม่มีรายได้ เราจึงต้องคิดวิธีการใหม่ๆ เช่น พัฒนาระบบ อี -คูปอง สำหรับสนามกอลฟ์ ที่ทางสนามกอลฟ์เองสามารถนำคูปองมาขายแบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา สะดวกง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรและได้รับเงินสดล่วงหน้า ทำให้ตอนนี้มีสนามกอลฟ์ที่สนใจและทดลองขาย อี-คูปอง จาก golfidgg แล้ว 65  สนามกอลฟ์  เสียงของลูกค้าคือ in-put ที่สำคัญในการพัฒนา golfdigg โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ เปลี่ยน Business Model, การเพิ่มบริการขายตั๋ว กิจกรรมอื่นๆ รวมทั้งกิจกรรม  Leisure สำหรับนักกอล์ฟ, การเพิ่มบริการ Web Reserve ซึ่งเป็นบริการให้นักกอล์ฟสามารถจองสนามผ่าน เว็บไซต์ของสนาม ถือเป็นช่วงเริ่มต้นที่กำลังทยอยปล่อยฟีเจอร์ต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง  จุดเปลี่ยนแต่ละครั้งมาจากฟีดแบคของนักกอล์ฟและสนามกอล์ฟ ซึ่งแต่ละครั้ง  ถือเป็นการเปลี่ยนเพื่อขยายขอบเขตของการให้บริการที่กว้างขึ้น เจาะลึกมากขึ้น แต่ยังคงโฟกัสที่อุตสาหกรรมกอล์ฟที่สามารถเป็นได้ทั้งกีฬาและการท่องเที่ยว  คุณธีระได้ให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ

 

การเสวนาหัวข้อ “Share to travellers X Startups เที่ยวสบายสไตล์ 4.0” (ช่วงที่ 2)

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณปราโมทย์ กีรติเกรียงไกร
Founder & Head of  Product, KORBOK.com

คุณปราโมทย์ ได้กล่าวถึงการทำ Application “KORBOK”  นี้ขึ้นมาเพราะเห็นปัญหาว่าสมัยก่อนการแสดงความคิดเห็นตามร้านอาหารทั่วๆ ไป เราต้องใช้ปากกาและเขียนด้วยมือ เป็นการยุ่งยากทั้งลายมือ ที่อ่านยากและการหาปากกา แต่เมื่อ “KORBOK” เข้ามาเพียงเพียงแค่สแกน พิมพ์ และส่งความคิดเห็น ก็จบทุกขั้นตอน “ซึ่ง ภารกิจของ “KORBOK” คือเข้ามาเพื่อช่วยผู้ประกอบการ ให้เข้าใจปัญหาของลูกค้าตัวเองมากขึ้น  เราเชื่อว่าความเข้าใจลูกค้าคือต้นกำเนิดนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าให้ธุรกิจ เราคือเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการ ซึ่งต้องเรียนรู้ว่าลูกค้ามีความรู้สึกเช่นไรต่อธุรกิจ    โดยลูกค้าสามารถส่งเรื่องร้องเรียนมาถึงคุณได้โดยตรง ง่าย สะดวก และเป็นส่วนตัว”  คุณปราโมทย์กล่าวอย่างเชื่อมั่น

ททท. จัดงาน “เที่ยวไทย ไฮเทค” สนับสนุนท่องเที่ยวไทยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล

คุณสมศักดิ์ บุญคำ
Founder & CEO Local Alike Co.,Ltd.

คุณสมศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า Local Alike  เกิดจากความตั้งใจ ที่จะสร้างรายได้ให้กับพี่น้องในชุมชนมากกว่าการท่องเที่ยว จึงเกิด ทีมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จึงเกิดเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ช่องทางใหม่ ด้วยการขายสินค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ “Local A Lot”

“Local A Lot” ได้เพิ่มช่องทางการขายและเพิ่มรายได้ให้ กับชุมชนอย่างยั่งยืน เราทำงานไปพร้อมกับชุมชนช่วยกันพัฒนาสินค้าท้องถิ่น เพิ่มคุณภาพ แต่คงอัตลักษณ์และนำกลับมาขายในช่องทางออนไลน์ และห้างสรรพสินค้า ในแนวความคิด “ล้านรอยยิ้มจากชุมชนถึงชุมชน”

“Local  Alike เป็น platform ที่เราอยากจะทำขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงระหว่างการท่องเที่ยวกับชุมชน ที่สนใจในเรื่องการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเข้าด้วยกัน แต่เราไม่ใช่แค่ platform  อย่างเดียว เราจะทำหน้าที่เป็นพาร์ทเนอร์กับชุมชนแบบระยะยาว โดยทำเรื่องการพัฒนาชุมชน โดยตอนนี้เราทำร่วมกับชุมชนประมาณ 200 กว่าชุมชนทั่วประเทศไทย” คุณสมศักดิ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติม


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •