เมื่อมิลเลนเนี่ยมกำลังครองโลก: Facebook เผยสถิติสะท้อนอนาคตปี 2020 สำหรับนักการตลาด

  • 610
  •  
  •  
  •  
  •  

ในปี 2020 บอกได้เลยว่าเป็นปีที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัว ไม่ใช่แค่นักการตลาดแต่เป็นทุกอาชีพในองค์กรธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและความคิดของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

มาดู 5 สถิติสำคัญที่ Facebook เผยและสะท้อนอนาคตปี 2020

412facebook

 

1. เอกลักษณ์จากวัฒนธรรมผสม

เพราะถ้าคุณลองไปถามคนในประเทศอย่างไนจีเรีย เกาหลีใต้ สหราชอาราจักรและอเมริกา คนกว่าครึ่งก็จะบอกคุณว่าบทบาทเรื่องเพศเดิมๆอย่างผู้ชายและผู้หญิงไม่มีความหมายอีกแล้ว มีเพียงแค่ 1 ใน 3 ของคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั่วโลกเท่านั้นที่รู้สึกว่าครอบครัวของตัวเองนั้นอยู่ในจุดที่ดีที่สุดแล้ว และพวกฮิสแพนิคที่พูดภาษาสเปนเป็นและอาศัยอยู่ในอเมริกากว่า 80% รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเลิกพูดภาษาสเปนเพื่อแสดงถึงการเป็นคนอเมริกันด้วย

เรากำลังเข้าสู่ในยุคที่คนกำลังหาตัวตนผ่านวิถีชีวิตที่ซับซ้อนขึ้น รวดเร็วมากขึ้น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น

 

2. การสร้างความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปเพราะเทคโนโลยี

เอาแค่จำนวนบทสนทนาบน Facebook ในอเมริกาอยู่ๆก็โตขึ้น 5.2 เท่าข้ามปีแล้ว ขาช็อปในอเมริกาก็มีแนวโน้มที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อกับความสะดวกในการซื้อของหรือสถานที่ที่จะไปซื้อของ ความสัมพันธ์ของคนกับธุรกิจ และผู้บริโภคกับแบรนด์กำลังพัฒนาไปเรื่อยๆซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยี บรืการใช้รถร่วมโดยสารผ่านการใช้แอปฯพลิเคชั่นก็ได้รับความนิยมมากขึ้นต่อให้มีราคาแพงขึ้นก็ตาม

 

3. มิลเลนเนี่ยมหรือคน Gen Y กว่าครึ่งจะเป็นกำลังหลังในตลาดแรงงานทั่วโลก

ซึ่ง 66% ของมิลเลนเนี่ยมเลือกบริษัทที่จะเข้าทำงานด้วยจากเป้าหมายของตัวบริษัท  69% ของมิลเลนเนี่ยมมองว่าวัฒนธรรมองค์กรสำคัญที่สุดสำหรับบริษัทที่จะบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ให้สำเร็จ และ 76% ของมิลเลนเนี่ยมทายว่าการสื่อสารด้วยอีเมลจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องมือที่ดึงคนเข้ามาทำงานร่วมกันมากกว่านี้ และที่สำคัญคือมากก่า 2 ใน 3 ของมิลเลนเนียมมองว่าความยืดหยุ่นในการทำงานมีผลต่อคุณภาพและปริมาณงานที่ทำได้รวมถึงความเป็นอยู่ด้วย

 

4. คนจะอายุยืนขึ้น

เพราะความสัมพันธ์ทีดีขึ้นที่มีเทคโนโลยีช่วยในการติดต่อ คนในประเทศอย่างไนจีเรีย เกาหลีใต้ สหราชอาราจักรและอเมริกากว่า 70% มองว่าตัวเลขอายุที่ใช้ติดใครสักคนว่า “แก่” นั้นจะเพิ่มขึ้น แล้วถ้าสำรวจในประเทศอย่างฝรั่งเศส อิตาลีและสหราชอาราจักร คนอายุ 45 ปีขึ้นไปกว่า 79% จะรู้สึกว่าตัวเองยังฟิตและกินดีอยู่ดี ออกกำลังกายได้อยู่ 62% บอกว่าเทคโนโลยีช่วยให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ และ 47% มองว่าคนโสดก็ใช้แอปฯหาคู่เดทอยู่

 

5. นักช็อปนิยมซื้อของท้องถิ่นข้ามชาติมากขึ้น

มากกว่า 1 พันล้านคนบน Facebook เชื่อมต่อกับธุรกิจในต่างประเทศ และ 2 ใน 3 ของนักช็อปออนไลน์ก็ซ้อของข้ามประเทศกัน

pp-zuckerberg-chatbots-facebook-ap

 

และนี่คือ 3 สิ่งที่นักการตลาดต้องทำเพื่อรับมือกับโลกอนาคตปี 2020

1. จะทำ Segmentation ตามเพศและอายุกันไม่ได้อีกแล้ว

ฉะนั้นอย่าเสียเวลาไปกับการทำนวัตกรรมของสินค้า แต่ไปทำแคมเปญแทน คุณอาจจะต้องใช้โฆษกหรือนักโฆษณาประชาสัมพันธ์แนวใหม่เพื่อให้เกี่ยวข้องกับสินค้าที่คุณกำลังจะขาย หรืออาจจะต้องตั้งชื่อกลุ่มลูกค้าในรูปแบบใหม่ไปเลย

 

2. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์มากขึ้นสักนิด

เช่นใช้ Data Analytics ในการคำนวนหาราคาที่เหมาะสมสำหรับสินค้าและบริการต่อกลุ่มลูกค้าแต่ละคน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก

 

3. เริ่มเปลี่ยนแปลงองค์กรจากข้างใน

องค์กรต้องยึดเป้าหมาย ความโปร่งใส และความยืดหย่นเป็นสำคัญ ส่งเสริมวัฒนธรรมในองค์กรโดยใช้เครื่องมือดิจิทัลให้คนร่วมมือกันทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เรียนรู้องค์กรที่เปลี่ยนแปลงการทำงานเพื่อรับมือกับอนาคตให้ดี เช่น การให้ CEO สื่อสารกับลูกน้องผ่านการถ่ายทอดสด การแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

A

 

แหล่งที่มา

https://www.facebook.com/iq/articles/shifts-for-2020-blurring-boundaries#


  • 610
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th