หากจำกัดความคำว่า Metaverse คงต้องบอกว่าคือโลกเสมือนที่ถูกนำออกมาสู่บนโลกจริง โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างรูปเสมือนตนเองหรืออวาตาร์ (Avatar) ในแบบที่ต้องการได้ โดยสามารถทำได้ทุกกิจกรรมตั้งแต่การเลือกซื้อสินค้า ดูหนัง ฟังเพลง การประชุมหรือแม้แต่การออกกำลังกาย และหากธุรกิจมอง Metaverse ให้กลายเป็นหนึ่งตลาดที่มีผู้คนทั่วโลกเป็นลูกค้า Metaverse ก็จะกลายเป็น Blue Ocean แห่งใหม่
ในปีที่ผ่านมาได้เกิดคำว่า “Metaverse” ที่ภายหลังราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำนี้ว่า “จักรวาลนฤมิต” (ซึ่งต้องแปลไทยเป็นไทยซ้ำอีกครั้ง) ซึ่ง Metaverse เกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีของเจ้าพ่อ Social Media อย่าง Mark Zuckerberg ที่ต้องการให้การประชุมบนโลกเสมือนใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดผ่านเทคโนโลยี AR, VR และ AI ผ่านอุปกรณ์พิเศษอย่างแว่นตาและเซ็นเซอร์
Metaverse น่านน้ำใหม่ Blue Ocean
แม้ว่าในปัจจุบันหลายธุรกิจจะยังนึกภาพการทำธุรกิจบน Metaverse ไม่ออก แต่หลายธุรกิจก็เชื่อว่า Metaverse จะกลายเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญในอนาคต และหลายธุรกิจก็พร้อมที่จะเข้าสู่โลกของ Metaverse ซึ่งธุรกิจต้องเรียนรู้ก่อนว่า Metaverse จะกลายเป็นศูนย์กลางการพบปะของผู้คนต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งคำว่าแบรนด์ที่สามารถเข้าสู่ Metaverse ได้เร็วจะช่วยสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็วและยังสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วโลก
ยิ่งหลายคนที่รู้สึกคุ้นชินกับการซื้อสินค้าผ่านรูปแบบ Social Commerce ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายหากต้องการซื้อสินค้าในโลกของ Metaverse และหากอ้างอิงการอธิบายเรื่อง Metaverse ของ Mark Zuckerberg จะช่วยให้เห็นว่า Metaverse แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกเป็นการสร้างโลกเสมือนโดยผู้ใช้สามารถเข้าสู่โลกเสมือนได้ผ่านอวาตาร์ผ่านเทคโนโลยี VR หากนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงการเล่นเกมที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นได้
อีกรูปแบบจะเป็นการนำโลกเสมือนมาผสมผสานกับโลกแห่งความเป็นจริง หมายความว่าผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ตรงหน้าได้ในรูปแบบของรูปเสมือน โดยผ่านเทคโนโลยี AR หากยังนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงการเดินเข้าไปในร้านค้าที่ไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อเข้าสู่โลก Metaverse ร้านค้านั้นจะเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกหยิบและพิจารณาสินค้าเหล่านั้นได้เหมือนกับเห็นสินค้าจริงๆ ก่อนจะทำการซื้อและสินค้าถูกจัดส่งไปที่บ้านตามลำดับ
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าร้านค้านั้นจะอยู่ที่มุมใดของโลก แต่เมื่อเข้าสู่โลกของ Metaverse ทุกคนบนโลกสามารถเข้าเยี่ยมชมและซื้อสินค้าจากร้านค้านั้นได้ทั้งโลก โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเปิดสาขาในต่างประเทศ รวมไปถึงการจัดงาน Event ใหญ่ๆ ทั่วทุกมุมโลกที่สามารถเชิญชวนทุกคนบนโลกเข้าร่วมงานได้ผ่าน Metaverse ซึ่งจะสามารถตอบสนองต่อแนวคิด One World One Market ให้เป็นจริงได้
โปรเจ็ค VelaVerse จากร้านกาแฟสู่ Metaverse
สำหรับ Metaverse ในประเทศไทยอาจไม่ใช่ของใหม่เสียทีเดียว เพราะในช่วงปีแรกที่สถานการณ์โรคระบาดแพร่กระจายจนทำให้ประเทศไทยต้องประกาศล็อคดาวน์ ก็มีการจัดตั้งห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์ม Metaverse แรกๆ ของประเทศไทยในชื่อ V-Avenue.Co จาก AIS ที่มีการนำศูนย์การค้ามาไว้ในเว็บไซต์ภายใต้รูปแบบห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง ที่มีการแบ่งแผนดต่างๆ เหมือนห้างจริงที่ V-avanue.co
ดูเหมือนว่า Metaverse ในไทย ได้รับความสนใจอย่างมากถึงขนาดมีการจัดตั้งโปรเจ็คสำหรับการพัฒนา Metaverse ของไทยภายใต้ชื่อ VelaVerse หรือก็คือโลกเสมือนที่สร้างบนเทคโนโลยี Virtual Reality, Blockchain, Web3, gamefi ที่สามารถเข้าผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้ โดย VelaVerse จะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เป็นที่พบปะ และสามารถใช้ชีวิตได้อิสระไร้ข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถทำได้ในโลกจริง พร้อมประสบการณ์กับรูปแบบ 3 มิติ เชื่อมต่อ
โดย VelaVerse ถือเป็นโปรเจ็คยักษ์ของ Class Cafe ในฐานะที่เชี่ยวชาญการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ สนับสนุนกิจกรรมผ่านเทคโนโลยี โดย Class Café จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ สถาบันการศึกษาชั้นนำที่ใช้เทคโนโลยีในระบบ e-Learning ผนวกกับ VR ทำให้เกิดประสบการณ์การเรียนแบบใหม่ๆ หรือในธุรกิจจิวเวอรี่ที่แปลงเครื่องประดับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนจำหน่ายผ่านรูปแบบ NFT ที่จะช่วยให้สามารถสวมใส่ได้ในโลกออนไลน์
ซึ่งรูปแบบของ VelaVerse จะเป็นรูปแบบของร้าน Class Café ที่จะกลายเป็นแหล่งรวม Community ทั้งการพูดคุยพบปะหรือการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ โดยเป็นความร่วมมือของหลายฝ่าย เช่น Class Café, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, mi Group, SCG, Jubilee, Microsoft เป็นต้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในปีนี้ และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ Class Cafe จึงมีการเปิดตัว Class Coin เงินดิจิทัลที่จะใช้ในการระดมทุน เพื่อพัฒนาให้ VelaVerse เกิดเป็นรูปธรรม
ฉะนั้น Metaverse จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจในอนาคต ในฐานะช่องทางบนระบบออนไลน์ที่จะมีบทบาทสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสินค้าได้ต่างๆ จากทั่วโลกพร้อมด้วยประสบการณ์การทดลองใช้งานหรือการได้สัมผัสกับสินค้าผ่านระบบ VR และ AR และจะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญในการช่วยให้เงินดิจิตอลสามารถใช้ซื้อขายสินค้าได้จริง โดยไม่ต้องกังวลว่าโลกแห่งความเป็นจริงจะอนุมัติหรือยอมรับการใช้จ่ายเงินดิจิทัลหรือไม่
