นักการตลาดทุกคนนั้นทำการตลาดก็หวังว่าการตลาดนั้นจะสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองกลับมา ในความจริงแล้วหลาย ๆ ครั้งการตลาดที่ทำนั้นกลับไม่สามารถสร้างรายได้หรือผลกำไนกลับมาสู่องค์ และจะถูกมองว่าเป็นรายจ่ายหรือสิ่งที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายอย่างมาก แต่กลับได้แค่ Awareness กลับมา แบรนด์ที่ดีหรือเข้าใจเรื่องการตลาดอย่างจริงจังนั้นสามารถสร้างการตลาดตัวเองให้กลายเป็นเครื่องทำเงินมากกว่า Awareness ที่ได้กลับมา

แบรนด์ที่เก่ง ๆ ในการตลาดและมีทีมการตลาดที่เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคสามารถสร้างการตลาดที่เปลี่ยนเป็นรายได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น KLM ที่ขึ้นชื่อในการทำ Social Media จนกลายเป็นแหล่งรายได้มหาศาล, PepsiCo เจ้าที่ทำ Video Content อย่างมากในการดึงให้เกิดลูกค้าต่อผลิตภัณฑ์ในเครือ, Mondelēz International บริษัทที่ทำการตลาดกับแบรนด์ในเครือ Oreo ที่มีคนชอบแบรนด์นี้ผ่านช่องทางออนไลน์มากมาย การตลาดยุคใหม่นั้นสามารถเปลี่ยนการตลาดที่ใช้เงินมาเป้นการตลาดที่กลายเป็นเครื่องทำงานเงินได้

นักการตลาดการตลาดแบบดั้งเดิมนั้นจะใช้เงินในการทำการตลาดส่วนใหญ่ลงไปกับการทำโฆษณา ซื้อสื่อและทำโปรโมชั่นเพื่อให้ได้ Brand Awareness, Sentiment หรือยอดขายที่จะเกิดขึ้นตาม Consumer Journey ที่เคยมีมา แต่การตลาดแบบที่เคยทำมานั้นไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเงินที่ลงไปกับการตลาดนี้จะทำให้เกิดรายได้ขึ้นอย่างทันที หรือการสร้างรายได้ที่เกิดขึ้นมาจากการทำงานของทีมใน in-house ในยุคนี้นักการตลาดต้องสามารถชี้แจงความคุ้มค่าของการตลาดต่อผู้บริหารได้ขึ้นมา ด้วยการที่ผู้บริโภคในยุคนี้เปลี่ยนไปและใช้ชีวิตกับ Digital มากขึ้น การสร้างการตลาดของตัวเองผ่าน Digital นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับทาง Digital คือการตลาดนั้นสามารถวัดค่าต่าง ๆ ได้ทันที พร้อมทำหน้าที่ที่สามารถสร้าง Brand Awareness หรืออื่น ๆ ได้ พร้อมกับการสร้างรายได้ได้พร้อม ๆ กันด้วย หนึ่งในวิธีใช้กันในปัจจุบันคือการทำ Content Marketing ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดรายได้ขึ้นมาได้

ตัวอย่างของ PepsiCo ที่ใช้การทำ Content Marketing เป็นแกนหลักในการตลาดของตัวเอง ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นทาง PepsiCo ได้สร้าง in-house Content Agency ของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Creators League ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมือง New York โดยออฟฟิสนั้นมีขนาดกว่า 370 ตารางเมตร มีอุปกรณ์ในการอัดเสียง ตัดต่อ สตูดิโอ ต่าง ๆ เพื่อผลิต Video Content ต่าง ๆ มากมาย ด้วยการสร้างเอเจนซี่ของตัวเองเช่นนี้ทำให้แบรนด์อย่าง PepsiCo สามารถสร้างเนื้อหาที่ใส่แบรนด์ต่าง ๆ ตัวเองได้ รวมทั้งสามารถสร้างรายได้โดยการขายโฆษณาให้นักโฆษณารายอื่นหรือช่องทางสื่ออื่น ๆ ได้ ในตอนนี้ Creators League ของ PepsiCo นี้ทำงานร่วมกับแบรนด์หรือสื่ออื่น ๆ มากมายในการทำ Content ให้หรือนำสื่ออื่น ๆ และแบรนด์อื่น ๆ มาร่วมใช้พลังของแบรนด์ในเครือ PepsiCo ออกมา ด้วยพลังของแบรนด์ในเครืออย่าง Doritos, Gatorade และ Mountain Dew ทำให้แบรนด์เหล่านี้มีมูลค่าไม่ว่าจะอยู่บนสื่อใดก็ตาม เมื่อผนวกกับ Creators League ที่สามารถผลิต Content ที่จะเอาผู้บริโภคมาผูกเชื่อมกับแบรนด์นี้ได้อย่างรวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในอดีต

ตัวอย่างของ Mondelēz Internationalในการเปลี่ยนรายจ่ายในการซื้อสื่อให้กลายมาเป็นรายได้เข้าบริษัทได้ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเช่นกันกับ PepsiCo ทาง Mondelēz International ประกาศกลยุทธ์การทำการตลาดของตัวเองใหม่ ซึ่งรวมแผนที่จะลงเงินเพิ่มในการซื้อสื่ออีก 10% และเปลี่ยนการซื้อสื่อนี้ให้ได้ผลกำไรให้ได้ในปี 2020 วิธีการของ Mondelēz International คล้ายกับ PepsiCo ในการลงทำในการทำ Content ของตัวเองร่วมกับผู้ผลิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์ โทรทัศน์ และช่องทางออนไลน์ เพื่อที่จะผลิตสื่อที่ทำให้เกิดรายได้ขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีการผลิตเกมของตัวเองเพื่อให้คนนั้นสามารถมาเล่นและใช้จ่ายในเกมได้ด้วย ทาง Mondelēz International บอกว่าการที่การตลาดแบบนี้เกิดขึ้นมานั้นเพราะสื่อในปัจจุบันนั้นนั้นกระจัดกระจายไปหมด และการเข้าถึงนั้นทำได้ยากผ่านวิธีแบบดั้งเดิม การทำ Content นั้นนอกจากทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้แล้วยังสามารถขายเนื้อหานั้นต่อได้ด้วยอีกตั้งหาก ทำให้ content ที่ทำนั้นมีมูลค่ามากกว่าที่ทำออกไปเพื่อให้ผู้คนเห็น
นักการตลาดในยุคนี้ต้องพัฒนาความสามารถในการแค่วางแผนการตลาดและทำการตลาดในรุปแบบใหม่ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการแค่ทำการตลาดต่อผู้บริโภคออกมา ซึ่งความสามารถที่นักการตลาดในตอนนี้ต้องมีเพิ่มเติมขึ้นมาคือการทำ Content Marketing ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ขึ้นมา และผสมผสานกับการทำการตลาดในแบบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป