หลาย ๆ ครั้งการตลาดนั้นไม่ใช่แค่เรื่องความรู้อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของกระบวนการและวิธีการทำงานต่าง ๆ ของนักการตลาดเองที่จะทำให้การตลาดนั้นสำเร็จหรือไม่สำเร็จขึ้นมาได้ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการที่นักการตลาดนั้นมีอุปนิสัยบางอย่างที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครื่องมือหรือกระแสที่เปลี่ยนไปในทางการตลาดเลย
ด้วยการที่จะเป็นนักการตลาดในยุคนี้ให้ดีได้นั้น การมีพื้นฐานที่ดีในการทำงานรวมทั้งการสร้างอุปนิสัยของการทำงานที่ดีออกมา ไม่ใช่แค่เรื่องทักษะในการทำงาน แต่เป็นตั้งแต่วิธีการคิด จนถึงกระทั้งการใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของการทำงานขึ้นมา ยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจเองที่ต้องทำการตลาดเอง การที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดหรือมองทะลุปัญหาในการตลาดนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะไม่งั้นจะทำให้เกิดปัญหาหลาย ๆ อย่างขึ้นมาที่ทำให้ดลาดที่ทำนั้นไม่ได้ผล ซึ่งในบทความนี้จะพานักการตลาดไปค้นพบ 5 ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับนักการตลาดที่ทำให้การตลาดนั้นล้มเหลวได้
1. คิดมากเกินไป
นักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นเป็นคนที่เป็น Perfectionist และอยากให้ทุก ๆ อย่างนั้นสมบูรณ์ไปหมด แต่ปัญหาหลาย ๆ ครั้งคือโลกของเรานั้นไม่ได้สมบูรณ์อย่างมาก และในโลกของการตลาดเองก็ไม่มีความสมบูรณ์อยู่เช่นกัน มีแต่การทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้านักการตลาดที่มัวแต่เอาเวลามาคิดที่จะทำให้การตลาดตัวเองสมบูรณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดการคิดมากเกินไป จนทำให้การตลาดที่จะทำนั้นเกิดความซับซ้อนในการทำงาน และอาจจะไม่ได้ผลขึ้นมาทันที
ทั้งนี้นักการตลาดต้องหัดคิดให้ซับซ้อนน้อยลง มองทะลุให้เห็นความเรียบง่ายและปล่อยให้ปัจจัยต่าง ๆ ทำงานของมันเองขึ้นมา เพราะถ้ามัวแต่คิดมากแล้ว แผนที่วางเอาไว้ก็คงไม่มีวันได้ทำ หรือได้ลงมือ เพราะไม่มีวันที่จะสมบูรณ์ขึ้นมาได้
2. เสียเวลามากกับการสร้างชิ้นงาน
หลาย ๆ ครั้งการตลาดก็ล้มเหลวด้วยเรื่องราวง่าย ๆ คือความสมบูรณ์แบบหรือการที่นักการตลาดนั้นเป็นคนที่ต้องทำตามกฏ ออกนอกกรอบไม่เป็น ทำให้การสร้างชิ้นงานต่าง ๆ ต้องได้ตามคุณสมบัติที่ตกลงกันไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือในโลกจริงกับการวางแผนนั้นคนละเรื่องกัน ทำให้การที่นักการตลาดทำตามอะไรแบบไม่มีการยืดหยุ่นนั้นจะทำให้เสียเวลาอย่างมากในการทำงาน
ยกตัวอย่างเช่นการสร้างงาน Content ขึ้นมา สิ่งที่นักการตลาดหลาย ๆ คนทำคือการแก้ Content นั้นไปมา จนทำให้ Content นั้นล้าช้า หรือไม่ได้ผล เพราะสิ่งที่นักการตลาดอยากได้ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ในความเป็นจริงควรมีการยืดหยุ่นบ้างเพื่อให้เกิดช่องว่างที่จะเติมความคิดสร้างสรรค์ลงไปได้
3. Execution แย่
ปัญหาถัดมาที่นักการตลาดที่พลาดกันเป็นประจำคือการไม่สามารถจัด Priority ของงานต่าง ๆ ออกมา หรือไม่เข้าใจว่างานไหนที่ต้องทำก่อนหลังหรือไม่สำคัญ ทำให้การทำงานของนักการตลาดนั้นต่างเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และไม่สามารถทำงานไหนเสร็จได้เลย สิ่งที่นักการตลาดต้องเริ่มมีในข้อนี้คือ การวางแผนว่างานไหนที่จะทำหรือไม่ทำขึ้นมา
จริง ๆ แล้วในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือมากมายที่นักการตลาดอาจจะใช้ในการจัดการตัวเองในการทำงานให้มีประสิทธิภาพขึ้นมา ซึ่งอาจจะใช้ Eisenhower matrix หรือการทำลิสต์งานที่สำคัญทั้งหมดออกมา แล้วเลือกทำงานที่ควรทำ อะไรที่ไม่สำคัญก็ตัดออกจากการทำงานไป
4. ไม่อัพเดท
นี้เป็นความผิดพลาดร้ายแรงของนักการตลาดอย่างมาก เพราะโลกนั้นหมุนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุก ๆ วัน ทำให้มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมามายโดยเฉพาะเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางการตลาดขึ้น การไม่ได้ติดตามกระแสการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้นักการตลาดนั้นพลาดการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ รวมทั้งพลาดโอกาสมากมายที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดอีกด้วย
ด้วยการที่ไม่ตามกระแสหรือไม่อัพเดทความรู้นี้เอง สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักการตลาดอย่างมากคือความรู้ที่เคยมีนั้นอาจจะใช้ไม่ได้ผลในอนาคต และจะไม่มีอะไรที่มาทำให้การตลาดที่กำลังทำนั้นประสบความสำเร็จได้ ซึ่งทำให้เสียทั้งเวลาและเงินที่ลงไปอย่างมากมาย
5. ไม่ติดตาม
สุดท้ายแล้ว ปัญหาของนักการตลาดที่เกิดขึ้นคือการที่นักการตลาดขาดการติดตามการทำงานที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร มองไม่เห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้น หรือที่มีขึ้นมาในระหว่างทางได้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในระหว่างการทำงานได้
ดังนั้นนักการตลาดที่ดีควรมีความเข้าใจในเรื่องการวิเคราะห์ตัวเลขต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถทำให้ติดตามการเปลี่ยนแปลง หรือเข้าใจผลที่เกิดขึ้น แล้วเตรียมตัวรับสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาได้
