ชื่อแบรนด์สินค้ามากมายที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวันนั้น หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า นอกจากเป็นชื่อตราชื่อยี่ห้อ มันยังเป็นชื่อของผู้ก่อตั้งด้วย อยากรู้ไหมว่าเจ้าของชื่อเสียงเรียงนามที่กลายมาเป็นชื่อแบรนด์ที่เราเรียกกันจนติดปากเหล่านี้ พวกเขาเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร?
Heinz
Henry J. Heinz
สินค้าชิ้นแรกที่ เฮนรี เจ. ไฮซ์ ทำขายตอนอายุ 25 คือซอสฮอสแรดิชสูตรของแม่ หลายปีต่อมาซอสมะเขือเทศ Heinz จึงออกสู่ตลาด ซึ่งตอนแรกมันถูกเรียกว่า ‘Catsup’
Casio
Tadao Kashio
ทาดาโอะ คาชิโอะ พี่คนโต ตั้งบริษัทชื่อ Kashio Seisakujo ก่อนได้น้องชายอีก 3 คนมาช่วย และเปลี่ยนชื่อเป็น Casio Computer ในภายหลัง สินค้าฮิตตัวแรกคือ Yubiwa Pipe แหวนสำหรับสูบบุหรี่
Baskin-Robbins
Burt Baskin และ Irv Robbins
เบิร์ต บาสกิน (คนซ้าย) เป็นน้องเขยของ เอิร์ฟ รอบบินส์ ทั้งคู่ทำร้านไฮศกรีมของตัวเอง ก่อนมารวมกันเป็น Baskin-Robbins ตัวเลข 31 ในโลโก้หมายถึงมีรสชาติให้เลือกในทุกวันของเดือน
Boots
Jesse Boot
John Boot ผู้เป็นบิดา เปิดร้านขายยาสมุนไพรราคาย่อมเยาในน็อตติ้งแฮม ก่อนที่ เจสซี บูท บุตรชาย จะขยายธุรกิจสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่และกลายเป็นร้านเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
Chevrolet
Louis Chevrolet
William C. Durant ผู้ก่อตั้ง General Motors (GM) ซึ่งตอนนั้นถูกปลดจากบริษัท ก่อตั้ง Chevrolet โดยเชื่อว่าชื่อเสียงของ หลุยส์ เชฟโรเลต นักแข่งรถชื่อดังจะทำให้แบรนด์ซัคเซส
Dean & DeLuca
Joel Dean and Giorgio DeLuca
Dean & DeLuca เกิดขึ้นจากความหลงใหลในอาหารและวัตถุดิบชั้นเลิศของ จอร์โจ เดลูก้า อดีตครูผู้ผันตัวเป็นพ่อค้าชีส และ โจเอล ดีน ผู้จัดการธุรกิจสิ่งพิมพ์
Dunlop
John Boyd Dunlop
จอห์น บอยด์ ดันลอป ประดิษฐ์ยางลมใช้งานได้จริงครั้งแรกสำหรับสามล้อถีบของลูก ก่อนขายสิทธิ์ให้บริษัท Dunlop Pneumatic Tyre ที่เขาร่วมก่อตั้ง แลกกับเงินสดและหุ้นเล็กน้อย แล้วถอนตัวออกไปภายหลัง
Firestone
Harvey S. Firestone
ฮาร์วีย์ เอส. ไฟร์สโตน เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งบริษัท Firestone Tire and Rubber ซึ่งบุกเบิกการผลิตยางรถยนต์ระดับแมส ปัจจัยสำคัญหนึ่งคือ เขาเป็นเพื่อนกับ Henry Ford
Goodyear
Charles Goodyear
Goodyear ก่อตั้งโดย Frank Seiberling ซึ่งตั้งชื่อตาม ชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนายางวัลคาไนซ์ หรือเทคโนโลยีการคงรูปยาง
Heineken
Gerard Adriaan Heineken
เคราร์ด อาเดรียน ไฮเนเก้น ได้รับมรดกก้อนโตจากพ่อนักธุรกิจ ความเป็น Entrepreneur ในสายเลือด เขาเริ่มซื้อกิจการโรงเบียร์มาทำตอนอายุเพียง 22 เป็นจุดกำเนิดของ Heineken
Knorr
Carl Heinrich Theodor Knorr
คาร์ล ไฮน์ริช ทีโอดอร์ คนอร์ เริ่มทดลองกับการตากแห้งผักและเครื่องปรุงรสเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติ ซึ่งนำไปสู่การเปิดตัวซุปก้อนคนอร์ครั้งแรกทั่วยุโรปในปี 1873
Lay’s
Herman Lay
เฮอร์แมน เลย์ ถูกเลย์ออฟในช่วงเศรษกิจตกต่ำ จึงเริ่มต้นเป็นเซลล์แมนขับรถส่งมันฝรั่งทอด ก่อนจะเปิดบริษัทกระจายสินค้าของตัวเอง และต่อมาก็เริ่มผลิตมั่นฝรั่งทอดเอง จนกลายเป็น Lay’s
Levi’s
Levi Strauss
ลีวาย สเตราส์ เป็นชาวยิวอพยพจากเยอรมนี ทำธุรกิจค้าส่งสิ่งทอที่ซานฟรานซิสโก หุ้นกับ เจคอบ เดวิส ลูกค้าช่างตัดเสื้อ จดสิทธิบัตรและขายเสื้อผ้าที่ใช้หมุดย้ำทองแดง จุดกำเนิดบลูยีนส์
Nestlé
Henri Nestlé
อองรี เนสท์เล่ เริ่มต้นจากการเป็นลูกมือเภสัชกร สู่ความสำเร็จกับการพัฒนานมผงสำหรับทารก ก่อนนำบริษัทรวมกับบริษัทผลิตนมข้น Anglo-Swiss เป็นจุดเริ่มต้นของ Nestlé Group
Schweppes
Johann Jacob Schweppe
โยฮันน์ ยาค็อบ ชเวปเปอ ช่างทำนาฬิกาและนักวิทยาศาสตร์สมัครเล่น ได้พัฒนาวิธีการผลิตน้ำอัดลมในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกของโลก และก่อตั้งบริษัท ชเวปส์ ขึ้นเมื่อ 242 ปีก่อน
Singer
Isaac Merritt Singer
ไอแซค ซิงเกอร์ เป็นนักประดิษฐ์ นักแสดง และนักธุรกิจ เขาได้ปรับปรุงการออกแบบจักรเย็บผ้าให้เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือน ซึ่ง Singer เป็นหนึ่งในธุรกิจข้ามชาติอเมริกันแห่งแรกๆ
Hilton Hotels
Conrad Hilton
นอกจาก คอนราด ฮิลตัน เจ้าสัวโรงแรมและนักการเมือง จะเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมฮิลตันแล้ว ชื่อของเขายังถูกนำไปตั้งเป็นชื่อโรงแรม Conrad โดย Barron Hilton ลูกชายของเขาด้วย
Kellogg’s
Will Keith Kellogg
วิล คีธ เคลล็อกก์ เคยเป็นเซลล์ขายไม้กวาดในโรงงานของพ่อ ก่อนมาเป็นนักบัญชีในสถานพยาบาลช่วยพี่ชายซึ่งเป็นแพทย์ ทั้งคู่ปรับปรุงอาหารมังสวิรัติของผู้ป่วยจนกลายเป็นซีเรียลแผ่นแรกของโลก
Lipton
Thomas Lipton
เซอร์ทอมัส ลิปตัน เคยเป็นเด็กลูกเรือกลไฟในสก็อตแลนด์ และเคยไปท่องอเมริกาทำงานหลายอย่าง ก่อนกลับมาใช้ชื่อ Lipton เปิดร้านขายของชำ และเป็นตราสินค้าในร้านรวมทั้งชา
Kimberly-Clark
John A. Kimberly and Charles B. Clark
นอกจาก คิมเบอร์ลี และ คลาร์ก ยังมีหุ้นส่วนอีกสองคน เปิดโรงงานผลิตกระดาษพิมพ์หนังสือพิมพ์แห่งแรกในรัฐวิสคอนซินในปี 1872 โดยแต่ละคนลงทุน 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ