KBank Sustainability Strategy 2025: วิสัยทัศน์ใหม่ของธนาคารกสิกรไทย ฝ่าคลื่นความไม่แน่นอน สู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน

  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในยุคที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนรอบด้านทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงปัจจัยภายในประเทศอย่างปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ และความเหลื่อมล้ำทางรายได้ จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญที่ต้องการพลังการขับเคลื่อนใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ “ความยั่งยืน” จึงไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดหรือคำกล่าวที่ได้ยินทั่วไปอีกต่อไป แต่กลายเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้

คุณจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย มองว่านี่คือช่วงเวลาที่ภาคการเงินต้องมีบทบาทมากกว่าการให้สินเชื่อ แต่ต้องเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้คนและธุรกิจไทยสามารถก้าวผ่านความท้าทายเหล่านี้ไปได้ อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

ยุทธศาสตร์ความยั่งยืนแบบองค์รวม: กรอบคิดใหม่ของการเติบโต

 

เพื่อให้การขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนเกิดผลจริง ธนาคารกสิกรไทยได้ปรับกรอบยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ จากเดิมที่ใช้แนวทาง ESG-based Strategy มาสู่แนวคิดใหม่ Issue-based Strategy หรือ “การจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวม”

แนวคิดนี้มองความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม หรือธรรมาภิบาลแยกขาดจากกันอีกต่อไป แต่เป็นการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี จรรยาบรรณธุรกิจ และบริบทของผู้คนในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ธนาคารสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น และสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้มากขึ้น

 

 

ยุทธศาสตร์ใหม่นี้แบ่งเป็น 3 แกนหลัก ที่กลายเป็นเสาหลักของการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั้งหมดของธนาคารกสิกรไทย ได้แก่

  1. Be a Most Trusted Bank – สร้างความเชื่อมั่นในทุกมิติ ทั้งการบริการ การกำกับดูแลกิจการ และจริยธรรมทางธุรกิจ
  2. Reinforce Future-Ready Resilience – เสริมความยืดหยุ่นให้ทั้งองค์กร ลูกค้า และพันธมิตร เพื่อพร้อมรับมือทุกความไม่แน่นอน
  3. Enable Inclusive Growth – เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงศักยภาพสูงสุด ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ทั่วถึง

ยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงกำหนดทิศทางของธนาคาร แต่ยังเป็นกรอบที่ช่วยให้การเติบโตของ KBank เดินไปพร้อมกับการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในเวลาเดียวกัน

 

เสริมแกร่งศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้คนและธุรกิจ

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการดำเนินงานบนยุทธศาสตร์ความยั่งยืนแบบองค์รวม ของ KBank นั่นก็คือ การส่งเสริมศักยภาพเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่ง และผ่านการพัฒนา “กระบวนการสินเชื่อแบบครบวงจร” บนการบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุก ควบคู่กับการประยุกต์ใช้ Data & AI เพื่อส่งมอบสินเชื่อและการลงทุนสอดคล้องกับศักยภาพของลูกค้าแต่ละราย ภายใต้หลักการ Responsible Lending ของธนาคารแห่งประเทศไทย

 

 

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการทำงานผ่านบริษัทของธนาคารในหลากหลายรูปแบบ เพื่อผลักดันการอัดฉีดเม็ดเงินความยั่งยืนในวงกว้าง พร้อมให้ความสำคัญกับ “ทุนทางความรู้” เพื่อเสริมสร้าง Resilience ให้กับสังคมผ่านโครงการต่างๆทั้งหมดนี้สะท้อนว่าความยั่งยืนไม่ได้เกิดจากการให้เงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการสร้าง “ทุนทางศักยภาพ” ให้ผู้คนสามารถยืนได้ด้วยตนเองในระยะยาว

 

เร่งเครื่องการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

 

ธนาคารกสิกรไทยเป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆ ที่ประกาศเจตนารมณ์สู่ Net Zero ตั้งแต่ปี 2564 และตั้งเป้าที่จะเป็น The Most Comprehensive Climate Solution Provider — ผู้ให้บริการโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมที่สุด

 

Sustainable Finance & Investments

ธนาคารได้เพิ่มเป้าหมายเม็ดเงินเพื่อความยั่งยืนจากเดิม 1–2 แสนล้านบาท เป็น 4–5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 พร้อมเดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่สังคมและขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างจริงจัง

ณ สิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ KBank ได้ส่งมอบสินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนไปแล้วกว่า 173,000 ล้านบาท ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วกว่า 2.74 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ครอบคลุมตั้งแต่สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า อาคารสีเขียว ไปจนถึงโครงการพลังงานสะอาดและธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อความยั่งยืน

 

The Most Comprehensive Climate Solution Provider

คุณจงรัก รัตนเพียร

KBank กำลังก้าวไปสู่การเป็นพันธมิตรในการเปลี่ยนผ่าน (Transition Partner) ด้วยการพัฒนา “Climate Ecosystem” ที่ครบวงจร โดยให้มากกว่าการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ลูกค้า และส่งเสริมการสร้าง Carbon Ecosystem ที่ครอบคลุมทุกมิติของการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ได้แก่

  • KClimate 1.5 แพลตฟอร์มครบวงจร เป็นทั้ง Carbon Accounting Tool และเครื่องมือการเปิดเผยข้อมูลที่รองรับการตรวจสอบตามาตรฐานระดับโลก มุ่งเน้นการจัดการคาร์บอนตลอดซัพพลายเชน โดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานพร้อมสนับสนุนการ นำซัพพลายเออร์เข้าสู่ระบบ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรายงานข้อมูลคาร์บอนร่วมกันทั้งระบบ
  • Creative Climate Research Center ศูนย์รวมความรู้และความร่วมมือเพื่อรับมือกับปัญหาด้าน Climate ครบวงจรสู่ Net Zero ในอาเซียน ส่งเสริมผู้นำยุคใหม่ผ่านหลักสูตรเฉพาะทาง ตั้งแต่ระดับ Executive ถึง Professional
  • Watt’s Up Platform แพลตฟอร์มรองรับการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร รวมถึงบริการสลับแบตเตอรี่ผ่านจุดบริการ
  • Green Pass Platform แพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนและขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ช่วยให้ลูกค้ารายย่อย และ SME ที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สามารถขอและขายใบรับรอง REC ได้ง่ายและสะดวก
  • K-GreenSpace แพลตฟอร์ม e-Marketplace สำหรับนำเสนอข้อมูลและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการช่วยประหยัดพลังงานที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าภาคครัวเรือนและ SMEs เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงพลังงานสะอาดได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ร่วมกับพันธมิตร 34 องค์กรจัดตั้งเครือข่าย Thailand Climate Business Network (Thai CBN) เพื่อผลักดันการจัดการสภาพภูมิอากาศในระดับประเทศ สร้างคู่มือ E-Handbook for Greener SMEs และ White Paper เสนอแนวนโยบายต่อภาครัฐ ถือเป็นก้าวสำคัญของการรวมพลังภาคธุรกิจและภาครัฐเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

 

Commitment: พาทุกชีวิตและธุรกิจเดินหน้าผ่านพ้นทุกความท้าทาย

คุณจงรัก รัตนเพียร

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา KBank แสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนไม่ใช่โครงการชั่วคราว แต่เป็นกรอบคิดที่ฝังอยู่ในทุกส่วนขององค์กร ตั้งแต่กระบวนการสินเชื่อ การลงทุน การพัฒนาบุคลากร ไปจนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับประเทศ

ธนาคารกสิกรไทยเชื่อว่าความยั่งยืนเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วนเดินไปด้วยกัน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และภาคการเงินที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมพลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน

คุณจงรัก รัตนเพียร กล่าวปิดท้ายไว้อย่างชัดเจนว่า

“ธนาคารกสิกรไทยมุ่งสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างระบบนิเวศที่ทุกชีวิตและทุกธุรกิจสามารถก้าวข้ามความท้าทายไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน”


  • 3
  •  
  •  
  •  
  •