
ในโลกที่การแข่งขันเรื่องความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจ Delivery ก็เริ่มมีการพิจารณาถึงการใช้หุ่นยนต์หรือโดรนในการจัดส่ง โดยเฉพาะในระยะทางที่ไม่ไกลมาก หุ่นยนต์ Delivery จะทำหน้าที่ในการจัดส่ง โดยไม่ต้องรอให้ไรเดอร์กดรับและที่สำคัญยังไม่ต้องเสียทิปอีกด้วย แต่คำถามคือหุ่นยนต์มันใช้ได้ดีและเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางธุรกิจของ Delivery จริงหรือ? ไม่มีใครสามารถตอบได้เพราะที่ประเทศไทยยังไม่มีการใช้หุ่นยนต์ประเภทนี้
แต่ประเทศที่มีการใช้หุ่นยนต์ดังกล่าว กลับให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป!!!
โดยในเมืองแอตแลนต้า สหรัฐฯ มีบริการหุ่นยนต์ Delivey จาก Uber Eats ที่เรียกได้ว่า สร้างความฮือฮาและดึงดูดสายตาของผู้ที่พบเห็น จนเรียกได้ว่ากลายจุดเช็คอินของเมืองที่ใครพบเห็นก็ต้องขอถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอไปลงบนโซเชียลมีเดีย ด้วยความน่ารักกับดีไซน์สี่เหลี่ยมติดล้อ จนมีการล้อเลียนว่าเป็น “กระติกน้ำแข็งติดล้อ” แม้จะไม่มีลูกตาจริงๆ แต่รอบตัวของมันเต็มไปด้วยเซ็นเซอร์สารพัดชนิด พร้อมด้วยไฟสองดวงที่กะพริบไปมาด้านหน้า เพื่อออกแบบมาให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู เหมือนดวงตากลมโตของตัวการ์ตูน
และเพื่อให้รู้สึกเป็นมิตรกับผู้คน หุ่นยนต์ทุกตัวจะมีชื่อเป็นเหมือนชื่อคนทั่วไป เช่น คอร์ทนีย์ (Courtney), แจ็คสัน (Jackson), เอสเธอร์ (Esther), ดัลลาส (Dallas) เป็นต้น
ปัญหามันอยู่ที่หลังผ่านไป 2-3 เดือน หลังเจ้าหุ่นยนต์ออกให้บริการ
เจ้าหุ่นยนต์ก็หมดความน่าสนใจ กลายเป็นตัวเกะกะและกีดขวางการจราจร ด้วยการเคลื่อนที่ที่ความเร็วต่ำเพื่อลดความเสียหายของอาหารหรือสิ่งที่ต้องส่ง หรือบางทีก็ติดอยู่กับเนินที่แม้จะมีการดีไซน์ให้ผ่านสิ่งกีดขวางทุกรูปแบบ แต่บนถนนจริงมีอุปสรรคมากกว่าที่ห้องทดสอบจะเข้าใจ
นอกจากจะสร้างปัญหาทางด้านจราจรแล้ว อย่าลืมนะว่า…เจ้าหุ่นยนต์ Delivery มีกล้องที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบตัว แต่กล้องเหล่านั้นก็ยังสามารถบันทึกภาพต่างๆ ไว้ได้ น้องๆ กล้องจากรถ Google Street View ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องของการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เดินผ่านหุ่นยนต์หรือหุ่นยนต์เดินผ่านได้รับการบันทึกทันที
นี่ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุที่เกิดจากหุ่นยนต์ Delivery อีกด้วย
สำหรับประเทศไทยแล้วก็ต้องมาพิจารณากันให้ดีว่าเหมาะสมที่จะมีหุ่นยนต์ Delivery ให้บริการดีหรือไม่ เพราะลำพังการจราจรปกติก็ลำบากพออยู่แล้ว ที่สำคัญไรเดอร์ที่ให้บริการอยู่ก็ยังถึอว่า ยังไม่มีข้อติดขัดอะไร หรือจะใช้ในพื้นที่ปิดอย่างห้างฯ ซึ่งทุกวันนี้ก็มีหลายห้างฯ ที่ใช้หุ่นยนต์บ้าง แต่เป็นการช่วยโปรโมตสินค้ามากกว่า
Source: CNN
