ก้าวสำคัญของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย กับการก่อตั้ง “สมาคมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย” ยกระดับมาตรฐานและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของวงการ #iCreatorConference2025

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในงาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony คุณเอ็ม – ขจร เจียรนัยพานิชย์  ผู้ก่อตั้ง iCreator ได้ประกาศข่าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทยไปตลอดกาล นั่นคือการริเริ่มก่อตั้ง “สมาคมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย” ซึ่งถือเป็นการรวมตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของคนในวงการ นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของวงการครีเอเตอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก เราสรุปรวมให้ไว้ในบทความนี้

 

ภาพรวมวงการครีเอเตอร์ไทยในปี 2025-2026

ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สร้างเทรนด์ต่างๆ ขึ้นมากมาย ทั้งมีมและไวรัลที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวไทย โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีประเภทคอนเทนต์ยอดนิยมที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ประเภท Beauty & Fashion ได้รับความนิยมมากที่สุดบน Instagram ขณะที่คอนเทนต์ประเภท Entertainment และ Gaming กลับครองใจผู้ชมบน YouTube นอกจากนี้ TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างเทรนด์ไวรัลได้เร็วที่สุด

ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยนั้นโดดเด่นไม่แพ้ชาติใดในโลก เห็นได้จากศิลปินไทยที่โด่งดังระดับโลก มีมที่ติดอันดับโลกที่มาจากประเทศไทย และภาพยนตร์ไทยที่คว้าใจคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จเหล่านี้ยังต้องการกลไกที่จะช่วยผลักดันให้วงการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องและยั่งยืน

ครีเอเตอร์ที่ดีคือครีเอเตอร์ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ถูกทาง

แม้วงการครีเอเตอร์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ ครีเอเตอร์ที่ดีไม่ได้วัดแค่จำนวนฟอลโลว์เวอร์หรือยอดวิว แต่อยู่ที่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณค่า มีจรรยาบรรณ และส่งผลดีต่อสังคม การทำคอนเทนต์ในทางที่ผิดอาจเปลี่ยนทิศทางสังคมไปในเสี้ยววินาทีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กและเยาวชนมองหาแบบอย่างจากครีเอเตอร์ต่างๆ

 

ปัญหาที่วงการเผชิญอยู่

ปัจจุบัน อาชีพคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นอาชีพอย่างเป็นทางการในเอกสารราชการ ส่งผลให้เกิดปัญหาในหลายมิติที่สำคัญ ในด้านสวัสดิการสังคม ครีเอเตอร์ที่จบมหาวิทยาลัยมาทำอาชีพนี้จะได้รับประกันสังคมเพียงระดับต่ำสุด และไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์การคลอดบุตร ในด้านการเงิน การทำบัตรเครดิตหรือสินเชื่อบ้านมักไม่ผ่านการอนุมัติ รวมทั้งยังขาดโอกาสในการเข้าถึงกองทุนสนับสนุนต่างๆ ที่เปิดให้กับอาชีพที่ได้รับการรับรองแล้ว

นอกจากปัญหาด้านสวัสดิการแล้ว วงการยังมี “ด้านมืด” ที่ซ่อนอยู่ แม้อาชีพครีเอเตอร์จะเป็นอาชีพในฝันของหลายคน แต่ความเป็นจริงกลับพบว่า เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าสูงที่สุด เนื่องจากความกดดันจากการตอบสนองต่อคอมเมนต์เชิงลบ ความคาดหวังจากผู้ติดตาม และความไม่แน่นอนของรายได้ ยิ่งไปกว่านั้น บางส่วนของวงการยังใช้ความเป็นครีเอเตอร์ในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสังคมโดยรวม

ในด้านการศึกษา แม้มหาวิทยาลัยหลายแห่งจะเริ่มเปิดหลักสูตรคอนเทนต์ครีเอเตอร์แล้ว แต่หลักสูตรไทยยังตามการเปลี่ยนแปลงของวงการไม่ทัน ตั้งแต่ยุค Full Video สู่ Short Video และล่าสุดคือ AI Content การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างทักษะที่สอนกับความต้องการของตลาดจริง

ความจำเป็นในการรวมตัว

ปัจจุบันเมื่อหน่วยงานภาครัฐหรือแบรนด์ต้องการติดต่อกับตัวแทนวงการครีเอเตอร์ กลับไม่มีหน่วยงานกลางที่ชัดเจน ซึ่งต่างจากอาชีพอื่นๆ เช่น ผู้กำกับภาพยนตร์มีสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หรือวงการโฆษณามีสมาคมโฆษณาไทย การขาดตัวแทนที่ชัดเจนนี้ทำให้วงการไม่สามารถสะท้อนเสียงและความต้องการของคนในวงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้งาน iCreator จะรวบรวมครีเอเตอร์เกือบ 3,000 คนทุกปี แต่การรวมตัวเพียงปีละครั้งของบริษัทเอกชนขนาดเล็กนั้น ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างแรงผลักดันในระดับที่จะเปลี่ยนแปลงระบบได้ วงการต้องการศูนย์กลางที่แท้จริงซึ่งสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

 

IP Report: ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนา

งาน iCreator ได้เปิดตัว IP Report เอกสารความยาวกว่า 100 หน้า ที่สามารถดาวน์โหลดฟรี โดยมีแผนจะออกเวอร์ชันภาษาอังกฤษภายใน 1 เดือน และจะมีการอัปเดตทุกปี เพื่อเป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับการพัฒนาวงการทั้งในและต่างประเทศ รายงานฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวงการครีเอเตอร์ไทยให้กับทุกภาคส่วน

 

การก่อตั้งสมาคมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย

หลังจาก 13 ปีที่ลาออกจากงานประจำมาทำอาชีพคอนเทนต์ครีเอเตอร์เต็มเวลา คุณเอ็มได้เห็นทั้งโอกาสและอุปสรรคของวงการอย่างใกล้ชิด เขารอคอยมานานว่าจะมีหน่วยงานหรือใครสักคนมาสร้างศูนย์กลางสำหรับวงการ แต่เมื่อยังไม่มีใครเริ่มต้น เขาจึงตัดสินใจอาสาเป็นตัวกลางในการริเริ่มโครงการนี้ด้วยความเชื่อที่ว่า “สังคมทุกสังคมจะดีขึ้นได้ ถ้าคนในสังคมมารวมตัวกันและช่วยเหลือกัน”

สมาคมจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนกลางสำหรับการประสานงานระหว่างครีเอเตอร์ แพลตฟอร์ม แบรนด์ เอเจนซี่ และหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ยังจะเป็นกระบอกเสียงสำหรับสะท้อนความต้องการและปัญหาของคนในวงการจริงๆ ตลอดจนเป็นศูนย์กลางในการผลักดันให้อาชีพครีเอเตอร์ได้รับการรองรับทางกฎหมาย มีการสร้างมาตรฐาน จรรยาบรรณ และความเป็นธรรมในวงการ

ในช่วงปีที่ผ่านมา คุณเอ็มได้พูดคุยกับครีเอเตอร์ชั้นนำของเมืองไทยจำนวนมาก และน่ายินดีที่หลายคนตอบรับเข้ามาร่วมโครงการนี้ พวกเขาเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญแล้ว และอยากให้มันเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย นอกจากนั้น แบรนด์และพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศวงการครีเอเตอร์ก็มองว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมีการรวมตัว รวมถึงแพลตฟอร์มทั้งในและต่างประเทศที่เห็นว่าสมาคมจะช่วยสร้างแรงผลักดันที่เป็นระบบและเป็นภาพรวมมากขึ้น

สมาคมตั้งเป้าหมายจัดตั้งอย่างเป็นทางการภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2026 ซึ่งก็อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมเปิดรับการสนับสนุนและการเข้าร่วมจากทุกภาคส่วนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์ที่อยากเข้าร่วม หรือหน่วยงานที่อยากสนับสนุน ต่างสามารถติดต่อเข้าไปได้เลย

ข้อเสนอและความหวังสำหรับอนาคต

คุณขจรให้ข้อเสนอไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า “ปัญหาที่มีอาจจะไม่ได้ถูกแก้ในทันที แต่ถ้าเริ่มต้นจากกลุ่มเล็กๆ อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการนี้อย่างเป็นธรรม” เขายอมรับว่าสมาคมไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในชั่วข้ามคืน ไม่ได้แก้ดราม่าหรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงการได้ในวันเดียว แต่เขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า “การเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างหนึ่งในวันนี้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”

 

จุดเล็กๆ ที่เริ่มต้นวันนี้อาจกลายเป็นจุดยิ่งใหญ่ที่สำคัญในอนาคต การก่อตั้งสมาคมนี้เป็นก้าวแรกสำคัญในการยกระดับอาชีพคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการ มีระบบสนับสนุนที่เหมาะสม มีมาตรฐานและจรรยาบรรณที่ชัดเจน และสามารถพัฒนาไปสู่ระดับโลกได้อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม ซึ่งจะเป็นการผลักดันวงการครีเอเตอร์ไทยให้ไปไกลถึงระดับโลกได้ตามที่ทุกคนใฝ่ฝันไว้


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!
CLOSE
CLOSE